ฉันพบว่าชีวิตของฉันตอนนี้มันเหมือนกับเรือที่เดินทางอยู่ในท้องทะเลและมีคลื่นซัดมาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีเวลาให้ฉันได้พักเลย
นอกจากเฉียวอี้ ฉันยังมีเลขาอีกหนึ่งคน เธอบอกฉันว่าอาจารย์ของเธอก็คือผู้ช่วยของพ่อฉัน ฉันถามเธอว่าอาจารย์ของเธออยู่ไหน เธอบอกว่าถูกไล่ออกไปแล้ว ฉันยังอยากถามให้ละเอียดกว่านี้ แต่เธอไม่ยอมพูดอะไรอีก
เลขาของฉันชื่อหร่วนหลิง ขาดอีกคำเดียวก็เป็นชื่อเดียวกับดาราภาพยนตร์ที่ชื่อ ‘หร่วนหลิงอวี้’ แล้ว
เธอบอกกับฉัน “รองประธานสีซื่อกรุ๊ป คุณสีชิงชวนมาแล้วค่ะ”
เขามาแล้ว ฉันรีบลุกขึ้นยืนทันที หร่วนหลิงพูดขึ้นอีก “แต่เขาไม่ได้มาหาคุณค่ะ เขาไปชั้น 23”
ห้องทำงานของแม่เลี้ยงอยู่ชั้น 23 หรือว่าสีชิงชวนจะร่วมงานกับแม่เลี้ยงจริงๆ?
ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด
ฉันรีบวิ่งออกจากห้องทำงานไปบอกกับพวกเฉียวอี้ทันที “ฉันไปคุยกับสีชิงชวนก่อนนะ”
ฉันคิดว่าถ้าเขาเจอหนีอีโจวจะต้องไม่ชอบใจแน่ อีกอย่างเฉียวอี้ก็ค่อนข้างใจร้อน ฉันกลัวว่าถ้าคุยกันไม่ลงตัวแล้วเฉียวอี้จะปล่อยหมาออกไปกัดเขาเข้า
ฉันขวางทางสีชิงชวนไว้ในลิฟต์ได้สำเร็จ ป๋ออวี่และเลขาหลิ่วยืนอยู่ด้านหลังเขา
“ประธานสี เรามาคุยกันหน่อย”
“เราคุยกันแล้ว” เข้าก้มหน้าแล้วมองฉันแวบหนึ่ง จากนั้นลิฟต์ก็เปิดออกแล้วเขาก็ก้าวเดินออกไป
ฉันขวางอยู่ข้างหน้าเขา “คุยอีกหน่อยนะ ขอคุยแป๊บเดียว” ฉันลากเขามาอีกทาง “สีชิงชวน ฉันเอาหมาให้เขาไปแล้ว”
เขาครางในลำคอครั้งหนึ่งแล้วพูดขึ้น “ แล้วยังไง?”
“เมื่อวานคุณอยากให้ฉันร่วมงานด้วยก่อน ฉันไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์มันเท่าไหร่ ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว คุณให้โอกาสฉันอีกครั้งได้ไหม?”
“ผมให้โอกาสไปแล้ว ได้แค่ครั้งเดียว”
ฉันรู้ว่าเขาจะพูดแบบนี้ ฉันมองป๋ออวี่ที่ยืนห่างออกไปจากเรา จากนั้นก็กระซิบข้างหูเขา “ไม่งั้นฉันจะพูดเรื่องที่คุณกลัวค้างคาวออกไป คุณคิดดูสิว่าถ้าเรื่องที่สีชิงชวนกลัวสัตว์ตัวเล็กๆ นี่แพร่ออกไป ฉันว่าภาพลักษณ์ของคุณจะต้องป่นปี้ยับเยินแน่ๆ”
เขาหรี่ตามองฉัน “คุณคิดว่าคุณทำแบบนี้แล้วก็ถือว่าจับจุดอ่อนผมได้แล้วงั้นสิ?”
“งั้นเรารอดูกันได้เลย” ฉันเดินไปหาป๋ออวี่ “ผู้ช่วยป๋อ มีเรื่องที่ฉันอยากบอกกับคุณค่ะ”
“เซียวเซิง” เขาคว้าคอเสื้อของฉันไว้จนชุดที่สวมอยู่แทบจะหลุดออกจากตัวฉัน
เขาดึงฉันไปอยู่ตรงหน้าเขา “ผลของการขู่ผมคืออะไร คุณเคยคิดไหม?”
“ไม่” ฉันตอบไปตามตรง “ไม่มีเวลาคิด”
เขายิ้มออกมาอย่างขุ่นเคือง “ไม่รู้ว่าทำไมประธานเซียวหยวนที่เป็นคนมองการณ์ไกลถึงตัดสินใจผิดพลาดแล้วยกหน้าที่ที่สำคัญขนาดนี้ให้คนสมองทึ่มได้?”
ถึงฉันจะไม่ได้คิดว่าฉันสมองทึ่ม แต่อย่างน้อยฉันคิดว่าเขาพูดถูก พ่อฉันตัดสินใจพลาดที่ยกเซียวซื่อกรุ๊ปให้ฉัน
“ยังไงคุณก็ร่วมงานกับเซียวซื่อกรุ๊ป เซ็นสัญญากับใครก็คงไม่ต่างกัน เห็นแก่ที่เราเป็นสามีภรรยากันเถอะนะ”
“ได้” เขาปล่อยฉันแล้วยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าฉันถูกเขาหลอกล่ะ?
“ผมจะเซ็นกับคุณ”
ด้วยเหตุนี้สีชิงชวนจึงกลายเป็นพาร์ทเนอร์คนแรกของฉันในเซียวซื่อกรุ๊ป โดยที่ไม่มีการคัดค้านใดจากผู้บริหารระดับสูงที่เราได้ร่วมงานกับสีซื่อกรุ๊ป
เซ็นสัญญาเรียบร้อย ตอนค่ำจึงมีงานเลี้ยงฉลองที่เราเซ็นสัญญาโปรเจกต์ใหญ่ครั้งนี้ได้สำเร็จ เข้าทำงานวันแรกก็มีงานเลี้ยงค็อกเทล แต่ฉันดื่มเหล้าไม่เป็น
“เฉียวอี้ อีโจว ฉันให้คนส่งไปพวกเธอกลับนะ”
ฉันยังกลับไม่ได้ถ้าหากงานเลี้ยงยังไม่จบ ฉันทำได้เพียงให้คนขับรถไปส่งพวกเขากลับบ้าน งานเลี้ยงยังดำเนินไปได้ไม่ถึงครึ่ง มือซ้ายกับมือขวาคนสนิทของฉันก็ไม่มีซะแล้ว
ฉันรู้สึกเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย ทำได้เพียงมองหาเงาของสีชิงชวนในงานเลี้ยงนี่ เพราะเวลานี้มีแค่เขาคนเดียวที่สามารถคุ้มครองฉันได้
ฉันหาเขาไม่เจอเลยทั้งงานจึงเดินไปหาเขาที่สวนดอกไม้ ในที่สุดฉันก็ได้ยินเสียงอันแสนคุ้นเคยอยู่ในมุมหนึ่งของสวนดอกไม้ แต่มันไม่ใช่แค่เขาคนเดียว ยังมีอีกคนหนึ่งด้วย
มันเป็นเสียงของเซียวซือ “คุณกับเซียวเซิงดูไปกันได้ดีเลยนะ ดูเหมือนฉันทำถูกแล้วที่ออกมาตั้งแต่ตอนแรก”
“งั้นผมก็ต้องขอบคุณคุณที่ส่งรักแท้มาให้ผม”
“สีชิงชวน” เซียวซือเรียกเขาเบาๆ ด้วยน้ำเสียงสะอื้นไห้
เธอยังชอบสีชิงชวนอยู่ งั้นทำไมเธอต้องหนีไปล่ะ?
ฉันแอบฟังอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง พฤติกรรมแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกรังเกียจตัวเอง แต่ฉันก็ไม่มีทางเลือก ตอนนี้มีแค่สีชิงชวนคนเดียวที่สามารถปกป้องฉันได้
ฟ้ามืดมาก ฉันจึงมองเห็นแค่สองคนยืนอยู่ด้วยกัน แต่ไม่รู้ว่าพวกเขาทำอะไร ไม่รู้ว่าจะกอดกันหรือเปล่า ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ฉันก็ดังขึ้น มันดังมากเพราะฉันไม่ได้ปิดเสียงไว้
ฉันรีบตัดสายทันที เป็นเฉียวอี้ที่โทรเข้ามา เธอบอกฉันว่าเธอถึงบ้านแล้ว ฉันกำลังจะส่งข้อความตอบกลับให้เธอ แต่จู่ๆ โทรศัพท์ในมือก็โดนแย่งออกไป เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นว่าเป็นสีชิงชวน
เขายืนอยู่หน้าฉันโดยที่ในมือถือโทรศัพท์ของฉันอยู่ “คุณชอบแอบฟังคนอื่นคุยกันด้วยเหรอ?”
“จริงๆ ก็ไม่หรอก” ฉันรีบอธิบาย “ฉันแค่ผ่านมาทางนี้พอดีน่ะ”
“ผ่านมาทางนี้เหรอ แล้วคุณจะไปไหน?” สีชิงชวนชี้ไปยังทะเลสาบด้านหน้า “ตรงนี้ไปได้แค่ทะเลสาบเทียม คุณจะว่ายน้ำตอนกลางคืนเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...