พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 85

ฉันกลับเข้ามายังห้องโถงใหญ่ เฉียวอี้กำลังเดินหาฉันไปทั่ว “เซียวเซิง เธอไปไหนมา? เจี่ยงเทียนล่ะ?”

“โดนสีชิงชวนต่อยเข้าไปหมัดหนึ่ง”

“โอ๊ะ?” เฉียวอี้กลอกตา “เขาทำลงเหรอ นั่นพ่อตาตัวเองเลยนะ”

“เฉียวอี้ ฉันถามเธอหน่อย”

“อื้ม” เธอเบิกตากว้างและรอฟังอย่างตั้งใจ

“มีพ่อแท้ๆ ที่คิดสัปดนกับลูกสาวตัวเองไหม?”

คำถามนี้ดูจะเกินความรอบรู้ของเธอไปไกลทำให้เฉียวอี้นิ่งเงียบไปนาน “เธอพูดอะไร?”

“ฉันถามว่า มีพ่อแท้ๆ ที่ลวนลามลูกสาวตัวเองไหม?

“แบบนั้นเขาคงเป็นโรคจิตอะ อาจจะมีสักหนึ่งในหมื่นคนล่ะมั้ง” เหมือนเธอจะเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง “เธอว่าอะไรนะ เจี่ยงเทียนลวนลามเธอเหรอ? ไอ้เดนมนุษย์!”

เฉียวอี้หมุนตัวออกไปอย่างเดือดดาล แต่ทันใดนั้นก็ชะงักไปแล้วมองฉันอย่างตะลึงงัน “เจี่ยงเทียนเป็นพ่อเธอไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงทำกับเธอแบบนั้น?”

ฉันมองเธออยู่เช่นกัน เธอนิ่งคิดอยู่นาน “ฉันว่าเขาเป็นตัวปลอม!”

ฉันยัดเส้นผมในมือที่สีชิงชวนเอามาให้ฉันเข้าไปในมือเฉียวอี้ จากนั้นก็ดึงเส้นผมของตัวเองมาหนึ่งเส้น “เธอช่วยเอาไปตรวจให้ฉันหน่อย”

“ได้ ให้มันเป็นหน้าที่ฉันเอง” เฉียวอี้รับไปแล้วกำมันไว้ในมือ

ฉันเดินไปที่หน้าโต๊ะของคุณแม่สีก็พบว่าพี่สะใภ้ใหญ่นั่งอยู่ตรงที่นั่งเดิมของฉันซะแล้ว คุณแม่สีเงยหน้าขึ้นมามองฉันแวบหนึ่งแต่กลับไม่พูดอะไร และเป็นจังหวะเดียวกับที่มีคนมาขอคารวะเหล้าพอดี ท่านจึงยกยิ้มอย่างอ่อนโยนและลุกขึ้นชนแก้วกับแขกท่านนั้น

เมื่อกี้ฉันทำให้คุณแม่สีต้องลำบากใจ ท่านไม่ได้ตำหนิฉันก็นับว่ามีความเมตตามากแล้ว หลังจากนั้นฉันจึงไปนั่นที่โต๊ะของเฉียวอี้แทน แต่ฉันรู้สึกไม่อยากกินอะไรแล้ว จะให้กินก็กินไม่ลง

เมื่องานเลี้ยงจบลง เฉียวอี้ก็มาส่งฉันที่บ้าน คุณแม่สีไม่พูดอะไรกับฉันตลอดทั้งงาน และฉันรู้ว่าท่านโกรธฉันมาก

ตอนที่ฉันกลับมาถึงบ้านตระกูลสี พี่สะใภ้ใหญ่และพี่สะใภ้รองกำลังเก็บของขวัญของคุณแม่สีอยู่พอดี “คุณแม่บอกว่าชอบพวกนี้ ให้เอาไปไว้ที่ห้อง”

ฉันเดินผ่านห้องรับแขกก็เห็นว่ากล่องหยกแกะสลักที่ฉันมอบให้ท่านถูกทิ้งอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่ที่มุมโซฟา ทั้งที่เดิมทีคุณแม่สีชอบมันมากแท้ๆ

ฉันชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินขึ้นไปยังชั้นบน แต่พี่สะใภ้ใหญ่กลับเรียกชื่อฉันไว้ “เซียวเซิง”

ฉันหยุดเดินและหันกลับไปมอง ฉันรู้ว่าเธอจะพูดอะไรที่ไม่น่าฟัง คืนนี้เธอเห็นเรื่องน่าขำขันนั้นไปแล้ว เธอจะปล่อยโอกาสนี้ไปเปล่าๆ ได้ไงกันล่ะ?

เธอหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ “เซียวเซิง เรื่องราวชีวิตเธอนี่ซับซ้อนจริงเลยนะ ไม่คิดว่าจะมีพ่อพรรค์นั้นด้วย อย่างกับละครช่วงสองทุ่มแน่ะ”

“เขาจะเป็นพ่อฉันไหมก็ยังพูดยากอยู่นะ” ฉันพูดขึ้น “รอผลตรวจออกมาก่อนแล้วกัน”

“เซียวเซิง ศูนย์ตรวจก็เหมือนกับที่บ้านเธอเปิดนั่นแหละ บริการพิเศษเฉพาะเธอ ไปตรวจเกือบทุกวัน”

ฉันไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับเธอจึงรีบเดินไปที่ลิฟต์ทันที

ฉันรู้สึกกังวลมาก หวังว่าความสัมพันธ์ของฉันกับเจี่ยงเทียนจะเหมือนอย่างที่สีชิงชวนพูด เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็นพ่อแท้ๆ ของฉัน แต่ถ้าเกิดเขาเป็นพ่อแท้ๆ ของฉันจริงๆ ถ้าอย่างนั้นฉันคงโคตรโชคร้ายเลย เขาไม่ใช่แค่เป็นคนเลว แต่ยังเป็นพวกโรคจิตอีกต่างหาก

ฉันกลับมาถึงห้องก็อาบน้ำและเตรียมจะเข้านอน ก่อนจะหลับไปฉันรู้สึกแค่ว่าตัวเองปวดท้อง จากนั้นฉันก็เผลอหลับไปด้วยความเบลอ แต่กลับรู้สึกตัวตื่นขึ้นอีกครั้งเพราะรู้สึกปวดท้อง

ฉันเปิดไฟและลุกขึ้นนั่ง เลิกผ้าห่มออกแต่กลับเห็นว่ามีรอยเปื้อนสีแดงอยู่บนผ้าปูที่นอนสีอ่อน ที่แท้ประจำเดือนฉันก็มานี่เอง

ไม่น่าล่ะถึงปวดท้องหนักขนาดนี้ ก่อนประจำเดือนมาทุกครั้งฉันจะมีอาการปวดท้อง แต่ทำไมเดือนนี้ถึงมาเร็วนักล่ะ?

ฉันลงมาจากเตียงแล้วหาผ้าอนามัยในลิ้นชักหัวเตียงพลางนับวันอยู่ในใจ มาเร็วไปตั้งเกือบสิบวันแน่ะ อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้รู้สึกเครียดก็ได้ ประจำเดือนก็เลยมาเร็ว

ฉันหาผ้าอนามัยในลิ้นชักหัวเตียงอยู่นาน แต่ก็หาไม่เจอ ฉันพยายามใช้ความคิดอย่างหนักจึงนึกขึ้นได้ว่าเดือนที่แล้วฉันใช้มันหมดแล้ว และเพราะยังไม่ถึงวันฉันจึงไม่ได้ซื้อมันไว้ ยังคิดอยู่เลยว่าอีกไม่กี่วันจะไปซื้อมาเตรียมไว้ในลิ้นชักหัวเตียง แต่จู่ๆ เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ แล้วฉันจะทำไงดีล่ะ?

ฉันเดินวนไปมารอบห้องอย่างวิตกกังวล ในบ้านมีผู้หญิงไม่เยอะ พี่สะใภ้ใหญ่และพี่สะใภ้รองเป็นผู้หญิง แต่ความสัมพันธ์ของพวกเราไม่ค่อยสู้ดีนัก พวกเธอคงไม่ทำแค่เพียงไม่ให้ฉันยืม แต่คงจะเยาะเย้ยถากถางฉันกลับมาด้วยซ้ำ

ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้คุณแม่สีถึงช่วงวัยที่หมดประจำเดือนหรือยัง ถ้าท่านไม่ได้ใช้ผ้าอนามัยแล้วแต่ฉันกลับพูดถึงเรื่องนี้เข้ามันจะไม่อึดอัดกันไปหมดเหรอ?

ส่วนคุณย่า ถ้าท่านมีท่านต้องให้ฉันแน่ แต่ท่านอายุ 80 ปีแล้วนี่สิ

ฉันถอนหายใจเฮือก ตอนนี้ยังไม่ถึงเที่ยงคืน ค่ำคืนยังอีกยาวนาน ฉันคงนอนไปทั้งแบบนี้ไม่ได้หรอกมั้ง!

ฉันไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เพราะสภาพแบบนี้มันก็เหมือนฉันแท้งลูกจริงๆ เขาคงดูละครหลังข่าวมากไปถึงเกิดความเข้าใจผิดขึ้นมาแบบนี้

เขาอุ้มฉันแล้วรีบวิ่งอย่างรวดเร็วโดยก้าวลงบันไดสามขั้นในหนึ่งก้าว ฉันกลัวมากว่าเขาจะก้าวพลาดขึ้นมาแล้วเราทั้งสองจะกลิ้งลงชั้นล่างอย่างไม่เป็นท่า

ฉันคว้าคอเสื้อของเขาไว้ “ฉันไม่ไปโรงพยาบาล ฉันไม่ได้แท้ง”

“งั้นที่ไหลอยู่นี่คืออะไร? น้ำเหรอ?”

“ฉันไม่ได้ท้องสักหน่อย ฉันจะแท้งได้ไงล่ะ!” เขาไม่สนใจฉัน ดังนั้นฉันจึงดึงผมเขาจนเขารู้สึกเจ็บถึงได้หยุดลงและหันมาจ้องหน้าฉัน

ฉันเพิ่งเห็นว่าเขามีเหงื่อไหลลงมาจากปลายจมูก เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายเต็มหน้า มองดูแล้วน่ารักไม่น้อยเลยทีเดียว

“คุณว่าอะไรนะ?”

“ฉันไม่ได้ท้อง”

“งั้นทำไมเลือดคุณถึงไหล?”

“คุณไม่เคยเรียนวิชาสุขศึกษาหรือไง?” ฉันทั้งโกรธทั้งอายจนอยากจะยกขาขึ้นมาเตะเขาสักที

เขายังจ้องฉันไม่เลิกด้วยสีหน้าสับสน

“ผู้หญิงปวดท้องแล้วมีเลือดไหล ต้องแท้งแน่ๆ!!!” ฉันคำรามออกมาเสียงต่ำอย่างหงุดหงิด

ดูเหมือนเขาจะเริ่มเข้าใจขึ้นมานิดหน่อยแล้วจึงกะพริบตาปริบๆ “งั้นแสดงว่า คุณมีประจำเดือน?”

“แล้วคุณคิดว่าไงล่ะ?”

“คุณนอนกับผมตั้งหลายครั้งไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่ท้อง?”

“นอนกันแล้วต้องท้องด้วยหรือไง?”

“คุณคุมกำเนิดอยู่เหรอ?” เขาปล่อยมือลง ฉันจึงหลุดออกมาจากอ้อมแขนของเขาและเหยียบลงพื้นอย่างมั่นคงอีกครั้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)