หมายความว่าอย่างไร?
เซี่ยเหยียนเหยียนไม่เข้าใจ เธอไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย
เมื่อครู่นี้เซี่ยซีหว่านโกหกเธอทั้งหมดเลยเหรอ?
ไม่มีกล้องวงจรปิด หลี่ยู่หลานเองก็ไม่ได้ขายเธอ ไม่มีหลักฐานอะไรทั้งนั้น มีแต่เธอที่รับสารภาพออกมาเอง เธอสารภาพออกมาหมดแล้ว !
ทันใดนั้นเองประตูคฤหาสน์ก็ถูกพังเข้ามาเสียงดัง “ปั้ง” ตํารวจทุกคนรีบวิ่งเข้ามาด้านใน เซี่ยซีหว่านมองเซี่ยเหยียนเหยียนด้วยสายตาเฉยเมยท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย และพูดว่า “หลี่ยู่หลานเป็นแม่ที่ดีคนหนึ่งเลย ตอนที่หล่อนถูกจับก็บอกว่าหล่อนเป็นคนทําทั้งหมด ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลยแม้แต่นิดเดียว หล่อนน้อมรับความผิดทั้งหมดเอาไว้เพื่อต้องการที่จะปกป้องเธอ”
ร่างกายของเซี่ยเหยียนเหยียนสั่นเทิ้มไปทั้งตัว ไฟโทสะที่มีอยู่ทำให้เธอสามารถทำลายล้างได้ทุกสิ่ง “เซี่ยซีหว่าน ฉันจะจัดการแก ฉันจะฆ่าแก !”
เซี่ยเหยียนเหยียนพุ่งเข้ามาหาเซี่ยซีหว่านในทันที
แต่เพียงไม่นานก็ได้ยินเสียง “ปึก” ดังขึ้น เซี่ยเหยียนเหยียนถูกตํารวจจับกดลงไปกับพื้นและใส่กุญแจมือเหล็กบนข้อมือของเธอทันที เธอยังคงดิ้นรนและจ้องเขม็งมาที่เซี่ยซีหว่านด้วยความไม่พอใจ โกรธ และเคียดแค้น
ถ้าสายตาสามารถฆ่าคนได้ เซี่ยซีหว่านคงตายไปหลายต่อหลายครั้งแล้ว
“เหยียนเหยียน !” ในขณะเดียวกันนั้นเซี่ยเจิ้งกั๋วได้ตามมาถึงที่นี่แล้ว
เขายืนอยู่ด้านข้างของเซี่ยซีหว่านและมองเซี่ยเหยียนเหยียนด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่เคยคิดเลยจริง ๆ ว่าลูกสาวที่เขารักอย่างสุดหัวใจมาเป็นเวลาหลายปี และลูกสาวที่เขาได้ทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อสร้างเธอให้กลายเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งเมืองไห่เฉิงจะกลายเป็นฆาตกรที่จิตใจโหดเหี้ยมไปได้
ตอนนั้นเธอเพิ่งจะอายุไม่เท่าไหร่เอง เมื่อนึกไปถึงตอนนั้น เซี่ยเจิ้งกั๋วก็รู้สึกหวาดกลัวจนตัวสั่น
เซี่ยซีหว่านยืนตัวตรงอย่างสง่าผ่าเผย ดวงตาเปล่งประกายคู่นั้นของเธอฉายแววเด็ดเดี่ยว สุขุม และกล้าหาญเหมือนตอนที่เธอเพิ่งกลับมาที่เมืองไห่เฉิง แต่ในตอนนี้เธอกลับรู้สึกหดหู่มากขึ้นหลายเท่า เธอก้มลงมองเซี่ยเหยียนเหยียนจากมุมสูง
“เซี่ยเหยียนเหยียน ฉันรู้จักเธอดีมากเลยนะ เธอไม่เคยรักใครทั้งนั้น เธอรักแต่ตัวเอง เมื่อเธอรู้ว่าหลี่ยู่หลานถูกตำรวจจับเธอก็ตกใจกลัวแล้ว เธอคิดและคาดการณ์อยู่เต็มหัวว่าหลี่ยู่หลานจะแฉเธอ หลี่ยู่หลานเป็นแม่เธอนะ เธอเคยรักแม่ของเธอบ้างไหม ไม่เลยสินะ ในใจเธอก็แค่อยากจะปีนป่ายขึ้นไปเพื่อแย่งชิงเกียรติยศอันจอมปลอมและถีบตัวเองเข้าไปอยู่ในสังคมชั้นสูง ตอนนี้เซี่ยเจิ้งกั๋วและหลี่ยู่หลานไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้แล้ว ถ้าจะให้พูดเกี่ยวกับสิ่งที่ผ่านมาก็คือเธอมันไร้ค่าไปแล้วยังไงล่ะ เธอเบื่อหน่ายพวกเขาและเกลียดชังชาติกําเนิดของตัวเอง”
“เซี่ยเหยียนเหยียน เธอแพ้ภัยตัวเองแล้ว !”
ดวงตาของเซี่ยเหยียนเหยียนแดงก่ำ จากนั้นเธอก็หลับตาลง น้ำตาเม็ดใหญ่ได้พรั่งพรูไหลพรากลงมาไม่หยุด น้ำตาของเธอเป็นน้ำตาแห่งความสิ้นหวัง ความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมาน และไม่พอใจ คาดเดาได่ว่าคงจะมีเศษเสี้ยวของความรู้สึกผิดและละอายใจอยู่บ้าง
“เซี่ยซีหว่าน ฉันแพ้แล้ว แต่เธอชนะแล้วเหรอ เธอน่าจะติดกล้องเอาไว้ในห้องฉันนะ เธอจะได้เห็นฉากบนเตียงระหว่างฉันกับลู่หานถิง ฮ่าฮ่าฮ่า”
ตํารวจจับเซี่ยเหยียนเหยียนให้ลุกขึ้นแล้วพาตัวเธอไป ขณะที่เซี่ยเหยี่ยนเหยียนหันกลับไปมองเซี่ยซีหว่าน เธอก็ยังคงหัวเราะอย่างเสียงดังด้วยความสะใจ ก่อนที่เธอจะพ่ายแพ้ เธอได้แหกอกเซี่ยซีหว่านไปแล้วและเธอรู้สึกว่ามันคุ้มค่ามาก เซี่ยซีหว่านจะไม่มีทางรู้ว่าเธอเอาจี้หยกของหล่อนไป และไม่มีทางรู้ว่าระหว่างเธอกับลู่หานถิงได้พลาดเรื่องอะไรไปบ้าง
เซี่ยเหยียนเหยียนถูกพาตัวไปและทุกคนต่างก็ออกไปจากที่นี่กันหมดแล้ว ทันใดนั้นทั้งคฤหาสน์ตระกูลเซี่ยก็ดูว่างเปล่าและเงียบเหงาจนหดหู่ใจ
เซี่ยเจิ้งกั๋วนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นอย่างเหม่อลอย เขามีผมขาวขึ้นมากกว่าแต่ก่อน หลี่ยู่หลาน เซี่ยเหยียนเหยียนเป็นภรรยาและลูกสาวของเขา เพียงชั่วพริบตาเดียวครอบครัวนี้ก็แตกแยกแล้ว
เซี่ยเจิ้งกั๋วคิดไปคิดมาก็น้ำตาคลอ เขาคิดทบทวนว่าทําไมตัวเองถึงได้มีชีวิตแบบนี้ คนที่อยู่ข้างกายเขากลายเป็นใครกันไปหมด ช่างว้าวุ่นใจเหลือเกิน
เซี่ยซีหว่านคิดว่าตัวเองจะมีความสุข แต่เธอกลับไม่มีความสุขเลยสักนิด เธอมองไปรอบ ๆ คฤหาสน์ตระกูลเซี่ยอันกว้างใหญ่แห่งนี้ ที่นี่มีช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดในวัยเด็กของเธอ ในตอนนั้นที่นี่ยังเต็มไปด้วยความสดใสอันงดงามและเสียงหัวเราะแห่งความสุข แต่ตอนนี้กลับกลายมาเป็นลานเซ่นไหว้อันเงียบงัน
เธอคิดว่า ไม่มีใครเป็นผู้ชนะเลยสักคน
เซี่ยซีหว่านเปิดประตูห้องของเซี่ยเหยียนเหยียน ถ้าเป็นไปได้เธอไม่อยากจะย่างกรายเข้ามาที่นี่อีกต่อไป เพราะคุณชายลู่ของเธอกับเซี่ยเหยียนเหยียนเคยเกลือกกลิ้งกันไปมาบนผ้าปูที่นอนในห้องนี้
เซี่ยซีหว่านไม่ได้เจอซูซีมานานแล้ว ความจริงแล้วช่วงหลายปีที่ผ่านมาซูซีเองก็ไม่ค่อยได้ปรากฏตัวให้เธอเห็นราวกับว่าหลังจากที่เธอกลับมาที่เมืองไห่เฉิง ซูซีเองก็รีบตามกลับมาที่นี่เช่นกัน
หลายปีที่ผ่านมานี้ เขาดูเหมือนจะไม่ได้อยู่ในเมืองไห่เฉิงเลย
ซูซียืนตัวตรงท่ามกลางลมฝน เขายืนกางร่มสีดําอยู่เคียงข้างเซี่ยซีหว่าน “หว่านหว่าน คุณทําสําเร็จแล้ว เหตุการณ์เมื่อสิบเอ็ดปีก่อนปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์แบบ”
เซี่ยซีหว่านสวมถุงมือสีดํา เส้นผมสีดําขลับถูกมัดรวบต่ำด้วยริบบิ้นผูกผม ที่ใบหูของเธอมีดอกไม้สีขาวเล็ก ๆ ดอกหนึ่งทัดอยู่ ใบหน้าเรียวเล็กอันงดงามของเธอดูสงบนิ่งและโศกเศร้า เธอพูดกับซูซีด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาโดยที่ไม่ได้หันมองเขาเลยแม้แต่น้อยว่า “ฉันยังสงสัยอยู่อีกเรื่องว่าทําไมคุณถึงออกตัวเป็นพยานเท็จเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน และบอกว่าฉันผลักคุณปู่ตกบันได คุณกับพวกเซี่ยเหยียนเหยียนเป็นพวกเดียวกันเหรอคะ? แต่ว่าฉันได้ส่งคนไปตรวจสอบคุณแล้ว คุณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นการส่วนตัวกับพวกเขา และมือเท้าของคุณก็สะอาดบริสุทธิ์”
ซูซียกยิ้มขึ้นและพูดว่า “หว่านหว่าน ทั้งหมดที่ผมทำไปผมทำตามคำสั่งเท่านั้นครับ”
“ทำตามคําสั่งเหรอคะ? คุณทำตามคำสั่งใครคะ?” เซี่ยซีหว่านพูดพลางหันมามองซูซี
ซูซีเองก็มองเธอเช่นกัน “แน่นอนว่าเป็นคำสั่งจากแม่ของคุณ”
เซี่ยซีหว่านขมวดคิ้วเป็นปม “ฉันไม่เข้าใจค่ะ”
“แม่ของคุณเคยสั่งเสียเอาไว้ก่อนเกิดเรื่องว่า ถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับคุณ แม่ของคุณบอกให้ผมตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างคุณกับเมืองไห่เฉิง และส่งตัวคุณไปที่ชนบททันที ผมก็เลยปล่อยเรื่องนี้ไปตามธรรมชาติและช่วยพวกของหลี่ยู่หลาน จากนั้นก็ตามหมอดูมาคนหนึ่ง บอกเซี่ยเจิ้งกั๋วว่าคุณเป็นคนดวงแข็ง ที่จริงแล้วผมไม่ได้สนใจเรื่องตระกูลเซี่ยเลย ผมเชื่อฟังแม่ของคุณเท่านั้น”
เซี่ยซีหว่านรู้สึกตกตะลึงในทันที เธอไม่เคยคิดเลยว่าความจริงจะเป็นแบบนี้
เธอคิดว่าเรื่องทั้งหมดนั้นชัดเจนแล้ว แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกสับสนมากขึ้นไปอีก
เซี่ยซีหว่านพบว่าเธอไม่เคยเข้าใจแม่ของเธอเลย แม้แต่ซูซีชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ตรงหน้าของเธอคนนี้ด้วยเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี
กลับมาลงเรื่องนี้ต่อหน่อยค่ะ😁😁😁...
รอตอนต่อไปนานมากแล้ว ครับ...
นิยายแปลที่ติดตามก็ไม่มีการอัปเดทนิยายไทยก็เดิมฯเรื่องใหม่ก็เค้าโคลงจากเรื่องเดิมแม้จะเปลี่ยนชื่อแต่คนอ่านก็จำได้ค่ะ บางเรื่องที่ติดตามไปติดเหรียญที่เเอปอื่น ยังไงต่อไปดี...
ไม่มีอัพเดตต่อ...หรือเลิกแปลเรื่องนี้ไปแล้ว...
เรื่องนี้รออัปเดทนานมากค่ะนิ่งเลยค่ะ...