“หว่านหว่าน ผมพาอาหลินไปก่อนนะ ผมจะรอคุณอยู่ที่มหานครเอมพีเรียล”
เมื่อซูซีพูดจบ เขาก็หันหลังเดินจากไปในทันที
เขาจะรอเธอที่มหานครเอมพีเรียลเหรอ?
เขาเป็นถึงชายหนุ่มหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่มั่งคั่งของเมืองไห่เฉิง เขาจะไปรอเธอที่มหานครเอมพีเรียลอย่างนั้นเหรอ?
มหานครเอมพีเรียลอีกแล้วเหรอ
ดูเหมือนว่าใครหลายคนต่างกําลังรอเธออยู่ที่มหานครเอมพีเรียลราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังเรียกหาเธอจากที่แห่งนั้น
เริ่มแรกเซี่ยซีหว่านก็มีความรู้สึกแบบนี้อยู่แล้ว ยิ่งการปรากฏตัวของซูซีในตอนนี้ก็ทําให้ความรู้สึกนี้ชัดเจนมากขึ้นไปอีก
เซี่ยซีหว่านหันมองแผ่นหลังของซูซีที่เดินจากไป ท่ามกลางหยาดฝนที่โปรยปรายลงมา ชายหนุ่มที่สวมชุดสีดําดูหล่อเหลาและเย็นชาเป็นพิเศษ เมื่อหยาดฝนตกลงมากระทบกับร่มสีดำของเขาและไม่สาดกระเซ็นใส่ตัวเขาแม้แต่น้อยนั้นยิ่งช่วยทำให้บุคลิกของเขาดูลึกลับมากยิ่งขึ้น
ซูซีคนนี้เป็นคนแบบไหนกันแน่?
เขาเชื่อฟังแม่เธอทั้งหมดเลยเหรอ?
เซี่ยซีหว่านรู้ว่าแม่ของเธอชอบซูซีมาก ในตอนนั้นมือข้างหนึ่งของแม่มักจะจูงมือเธอและอีกมือหนึ่งก็จะจูงมือซูซีด้วย เมื่อหลายปีก่อนนั้นแม่เป็นคนพาซูซีออกมาด้วยตัวเอง
ดูเหมือนเธอจะไม่ทันสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
เซี่ยซีหว่านกําลังใช้ความคิดอย่างหนัก เธอจึงไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีรถยนต์สุดหรูคันยาวสำหรับนักธุรกิจคันหนึ่งที่กำลังจอดอยู่ด้านหน้าสุสาน ลู่หานถิงก็มาที่นี่เช่นกัน
ลู่หานถิงกำลังนั่งอยู่บนเบาะหลัง เขาออกจากโรงพยาบาลแล้ว และวันนี้เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนคไทและสวมทับด้วยเสื้อกั๊กธุรกิจ ด้านนอกสุดเขาสวมเสื้อโค้ทสีดําคลุมทับไว้อีกชั้นหนึ่ง เขาเพิ่งออกมาจากการประชุมระดับสูงของบริษัท รูปร่างของเขาช่างดูดีใบหน้าหล่อเหลาและดูสูงส่ง ทุกท่วงท่าล้วนเต็มไปด้วยความภูมิฐานและสง่างาม
ตอนนี้ดวงตาเฉี่ยวอันคมเข้มของเขากำลังมองไปที่หญิงสาวผ่านหน้าต่างรถ เขาเห็นเธอกําลังจ้องมองตามแผ่นหลังของซูซีไป จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วคมเข้าหากัน บนหว่างคิ้วราวกับมีชั้นน้ำแข็งอันหนาทึบปกคลุมไปทั่ว
เหยียนอี้ที่นั่งอยู่บนเบาะคนขับรู้สึกได้ถึงความเย็นชาที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของชายหนุ่มในทันใด ช่วงนี้ท่านประธานของเขาไม่ได้มีอารมณ์แปรปรวนแต่อย่างใด แต่สีหน้าไร้อารมณ์ที่มากเกินไปของเขานั้นมักจะแสดงความเย็นชาและหมางเมินออกมาจนทำให้ทั้งบริษัทรู้สึกกดดัน และไม่กล้าระบายออกมา
จากนั้นด้านนอกก็ปรากฏร่างอันสูงโปร่งและหล่อเหลาขึ้น เขาคือลู่จื่อเซียนที่กําลังเดินมาพร้อมกับร่มสีดํา
เหยียนอี้รู้สึกขนลุกซู่เล็กน้อย เขามองผ่านกระจกมองหลังไปยังชายหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะหลัง และพูดว่า “ท่านประธาน คุณ...คุณภรรยาของคุณคนนี้เป็นที่หมายปองจริง ๆ เพิ่งจะหย่ากับคุณไปได้ไม่นานเอง คนพวกนี้ก็อดทนรอไม่ไหวแล้ว”
ลู่หานถิงมาถึงที่นี่นานแล้ว เขามองดูเซี่ยซีหว่านอยู่ในรถตลอด เขารู้ว่าเธอกำลังรู้สึกเสียใจมาก แต่เขาไม่สามารถเข้าไปใกล้เธอและปลอบใจเธอได้
หลังจากที่เขาเห็นซูซีมาที่นี่ และตอนนี้ลู่จื่อเซียนเองก็มาที่นี่ด้วย...
ลู่หานถิงเงยหน้าขึ้นจากนั้นดวงตาคมกริบดุจเหยี่ยวก็ตวัดมองใบหน้าของเหยียนอี้อย่างดุดัน
เสียง “เฮือก” ของเหยียนอี้ติดอยู่ในลําคอ เขาไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้ เขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ สายตาหึงหวงของท่านประธานน่ากลัวจริง ๆ
“กลับเถอะ” ลู่หานถิงเอ่ยขึ้น เขาไม่รู้ว่าจะอยู่ที่นี่ต่อไปอีกได้อย่างไร เขากลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้
“รับทราบครับ ท่านประธาน”
จากนั้นรถยนต์สุดหรูคันยาวสำหรับนักธุรกิจก็แล่นออกไปอย่างรวดเร็ว
...
ณ หน้าป้ายหลุมศพ ลู่จื่อเซียนนําดอกไม้ในมือมาเคารพที่หน้าป้ายหลุมศพด้วย จากนั้นเขาก็หันไปมองเซี่ยซีหว่าน และพูดว่า “ซีหว่าน ต่อจากนี้คุณวางแผนจะทำอะไรครับ อีกสองวันผมจะไปจากที่นี่ แล้วกลับมหานครเอมพีเรียล”
“คุณจะไปแล้วเหรอคะ?”
“ครับ ผมมีเวลาแค่ปีเดียว และตอนนี้เวลาของผมก็หมดลงแล้ว ผมจากบ้านมานานเกินไปไม่ได้ อีกอย่างแม่ของผมก็เร่งให้ผมกลับไปอยู่ตลอดเวลา ซีหว่าน คุณกลับไปกับผมเถอะ”
ตรงข้างเตียงของเขามีเด็กสาวแปลกหน้าคนหนึ่ง มองดูแล้วน่าจะอายุราว ๆ ยี่สิบปี เธอดูน่ารักและใสซื่อแบบที่เขาชอบ ดวงตาดําขลับแวววาวดูคล้ายเซี่ยซีหว่านมาก เธอรู้สึกตกใจที่ถูกเขาดึงมือไว้จึงพูดอย่างลนลานว่า “คุณ...คุณชาย หนู…”
ลู่หานถิงสะบัดมือเธอออกไป แล้วรีบลุกขึ้นทันที เขาเม้มริมฝีปากบางเป็นเส้นโค้งจนซีดเซียว แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งครึมว่า “เธอเข้าใจกฎดีหรือเปล่า ใครให้เธอเข้ามาในห้องนี้?”
สาวใช้ตัวน้อยกล้าปีนขึ้นเตียงของเจ้านาย ที่สวนโหย่วหลานไม่เคยมีสาวใช้แบบนี้มาก่อน !
จากนั้นสาวใช้ตัวน้อยก็หน้าซีดเผือดและพูดว่า “คุณชายคะ หนู…”
จากนั้นประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออก หญิงชราลู่เดินตามเข้ามาแล้วพูดว่า “หานถิง อย่าทําให้เธอรู้สึกลําบากใจเลย ย่าเป็นคนให้เธอเข้ามาเอง”
สีหน้าของลู่หานถิงดูไม่ค่อยดีนัก หว่างคิ้วได้รูปขมวดเข้าหากันเป็นเส้น “| | |” สามเส้นเรียงกันบนใบหน้าทันที แค่เขาคิดว่ามือของสาวใช้ได้ลูบไล้ไปตามเสื้อผ้าของเขา เขาก็อยากจะวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ แล้วอาบน้ำถูตัวแรง ๆ
สกปรกที่สุด !
“คุณย่าครับ !”
คุณท่านลู่มองสาวใช้ตัวน้อยคนนั้นแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า “เธอลงไปก่อนเถอะ”
“ค่ะ” สาวใช้ตัวน้อยหวาดกลัวจนวิ่งหนีไป
จากนั้นประตูห้องนอนก็ถูกปิดลง คุณท่านลู่มองสีหน้าที่คุกกรุ่นของลู่หานถิงแล้วพูดอย่างคับข้องใจว่า “หานถิง ย่าเองก็ไม่รู้จะทำยังไง ถึงแม้ว่าหลานจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่หลานไม่พูดอะไรเกี่ยวกับร่างกายของตัวเองเลย ย่าเลยทําได้แค่หาคนมาทดสอบหลาน สาวใช้ตัวน้อยเมื่อครู่คนนั้นก็หามาตามลักษณะของหว่านหว่าน คงไม่ถึงกับขัดหูขัดตานักหรอก ย่ารู้ว่าในใจหลานยังคิดถึงหว่านหว่านอยู่”
ขณะที่หญิงชราพูดอยู่นั้นสายตาของคุณท่านลู่ก็จับจ้องไปบนเตียงใหญ่นุ่มนิ่ม ชุดผ้าไหมสีแชมเปญตัวนั้นยังคงวางอยู่ตรงที่เดิม
ลู่หานถิงรู้สึกอับอายขายหน้าเล็กน้อย ความคิดของเขาไม่อาจปิดบังคุณย่าได้เลย เขารีบดึงผ้าห่มมาคลุมชุดนอนผ้าไหมสีแชมเปญตัวนั้นเอาไว้ แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “คุณย่าครับ ต่อไปนี้คุณย่าไม่ต้องทดสอบผมแล้วนะครับ”
“ก็ได้ ก็ได้ ก็ได้” คุณท่านลู่ตบไปที่ช่วงอกของตัวเองเบา ๆ พลางคิดว่ายังดีที่รอดพ้นจากหายนะมาได้ เธอกะพริบตาปริบ ๆ แล้วเดินเข้าไปถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “หานถิง ถ้าอย่างนั้นหลานต้องบอกย่ามาก่อนว่า ช่วงล่างของหลานตอนนี้...?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี
กลับมาลงเรื่องนี้ต่อหน่อยค่ะ😁😁😁...
รอตอนต่อไปนานมากแล้ว ครับ...
นิยายแปลที่ติดตามก็ไม่มีการอัปเดทนิยายไทยก็เดิมฯเรื่องใหม่ก็เค้าโคลงจากเรื่องเดิมแม้จะเปลี่ยนชื่อแต่คนอ่านก็จำได้ค่ะ บางเรื่องที่ติดตามไปติดเหรียญที่เเอปอื่น ยังไงต่อไปดี...
ไม่มีอัพเดตต่อ...หรือเลิกแปลเรื่องนี้ไปแล้ว...
เรื่องนี้รออัปเดทนานมากค่ะนิ่งเลยค่ะ...