พ่ายรักคุณสามี นิยาย บท 240

เซี่ยซีหว่านเปิดประตูห้องทำงานและชำเลืองมองเข้าไปด้านใน ภายในห้องทำงานมีศาสตราจารย์ทางการแพทย์จากต่างประเทศหลายคน ทุกคนล้วนเป็นบุคคลชั้นนำในด้านประสาทวิทยา พวกเขาทุกคนถือเวชระเบียนของลู่หานถิงเอาไว้ในมือและโต้เถียงกันอย่างดุเดือดอย่างหน้าดำหน้าแดงกันไปหมดเกี่ยวกับเรื่องบางอย่างจนเสียงดังโวยวายออกมานอกห้อง และสุดท้ายก็พากันส่ายหัวไปมา

สายตาของเซี่ยซีหว่านจ้องมองไปที่หน้าต่างบานหนึ่ง ทันใดนั้นหน้าต่างก็ถูกเปิดออก และมีร่างสูงใหญ่ที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ที่นั่นอย่างสงบนิ่ง

การทะเลาะวิวาทของคนเหล่านี้ไม่มีผลกับเขา ปลายนิ้วของเขาเต็มไปด้วยควันบุหรี่ และเมื่อเขาได้ยินเสียงเปิดประตู เขาก็หันมามองเธอด้วยดวงตาทั้งสองข้างที่มีสีดำสนิทเหมือนสีน้ำหมึก

สองวินาทีต่อมาเขาจึงเดินกลับมาที่ข้างโต๊ะทำงาน มือข้างหนึ่งของเขาล้วงอยู่ในกระเป๋า เขาโค้งตัวลงเล็กน้อยเพื่อเอาบุหรี่ที่เหลือครึ่งหนึ่งออกจากปลายนิ้วและดับลงในที่เขี่ยบุหรี่ ขณะที่เขากำลังก้มลงนั้นพู่เข็มกลัดที่ติดอยู่ที่หน้าอกบนเสื้อกั๊กสไตล์นักธุรกิจก็แกว่งไปมาในอากาศอย่างงดงาม

เซี่ยซีหว่านเคยเห็นลู่ซือเจี๋ยในนิตยสารธุรกิจแล้ว แต่ตอนนี้เธอกลับได้เห็นเขาตัวจริง เธอยังคงรู้สึกหวาดกลัวเขา ชายในตำนานของยุคแห่งธุรกิจที่น่าทึ่ง สง่างามและมีฐานะสูงส่งกว่าที่เธอคิด เธอก็เคยเห็นคุณชายแห่งมหานครเอมพีเรียลมาหลายคนแล้ว ทั้งลู่หานถิง ลู่จื่อเซียน สวี่เส้าหนาน... ล้วนเป็นผู้มีอิทธิพล แต่เมื่อเทียบกับผู้อาวุโสอย่างลู่ซือเจี๋ยท่านนี้พวกเขากลับมีบางสิ่งบางอย่างที่ดูแตกต่างกว่าเล็กน้อย

เซี่ยซีหว่านรู้ว่าสิ่งที่พวกเขาขาดหายไปคือกลิ่นอายของความเป็นชนชั้นสูงที่เปล่งประกายที่สุดของลู่ซือเจี๋ยเช่นเดียวกับออร่าของชายคนหนึ่งที่แทรกซึมอยู่ในวงการธุรกิจมานานหลายสิบปี และอยู่ในระดับราชาของวงการธุรกิจระดับสูง

สายตาที่เขามองเธอเมื่อครู่นี้ดูสงบนิ่งไม่มีอารมณ์ใด ๆ แต่เซี่ยซีหว่านรู้สึกว่าเขาได้เห็นส่วนลึกจากจิตวิญญาณของเธอ และมองเห็นเธอได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

ทันใดนั้น เสียงเคาะประตู “ก๊อกก๊อก” ดังขึ้น ซ่งหมิงยืนอยู่ข้างประตูและมองดูศาสตราจารย์ต่างประเทศสองสามท่าน เขาใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารสองสามประโยคกับพวกเขาได้อย่างคล่องแคล่ว ศาสตราจารย์ต่างประเทศสองสามท่านนั้นจึงกลับไป

ซ่งหมิงมองดูลู่ซือเจี๋ยที่อยู่ข้างในอีกครั้งด้วยความเคารพ จากนั้นจึงปิดประตูลง

เซี่ยซีหว่านกับซ่งหมิงเพิ่งจะรู้จักกัน แต่ความประทับใจครั้งแรกของซ่งหมิงที่เธอมองเห็นนั้นคือความฉลาดเฉียบแหลมและเย่อหยิ่งและมีความสามารถมาก แต่ซ่งหมิงมองลู่ซือเจี๋ยด้วยความเคารพที่มีความจงรักภักดีและเลื่อมใสศรัทธาต่อเจ้านาย การที่เขาสามารถทำให้ลูกน้องทุ่มเทได้อย่างนี้จะต้องเป็นเสน่ห์ส่วนตัวของลู่ซือเจี๋ยเจ้านายคนนี้แน่นอน

ในห้องทำงานเหลือแค่เธอกับเขาสองคน ลู่ซือเจี๋ยนั่งบนเก้าอี้ทำงาน เขาใช้สายตาชี้ไปที่เก้าอี้ตรงข้ามเขานิดหน่อยแล้วพูดว่า “คุณเซี่ย เชิญนั่งครับ”

เสียงทุ้มต่ำของเขาเหมือนดั่งไวน์แดงฝรั่งเศสที่นักสะสมชื่นชอบ น้ำเสียงของเขามีเสน่ห์ดึงดูดน่าฟังมาก

เห็นได้ชัดว่ามันเป็นน้ำเสียงที่ธรรมดามาก แต่กลับมีความสง่างามน่าเกรงขามอย่างลึกซึ้งที่ไม่สามารถอธิบายได้และทำให้ผู้คนยอมจำนน

เซี่ยซีหว่านเดินเข้าไปนั่งฝั่งตรงข้ามของเขาในทันที

ลู่ซือเจี๋ยเงยหน้ามองเธอด้วยสีหน้าเฉยเมยมาโดยตลอด เขาไม่แสดงความปิติยินดีและความโกรธใด ๆ ออกมาเลย “ผมบุ่มบ่ามเชิญคุณเซี่ยมาได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยนะครับ แต่เราต้องพูดคุยกันเกี่ยวกับอาถิง”

ดวงตาสดใสของเซี่ยซีหว่านมองลู่ซือเจี๋ยโดยไม่มีความประหม่าแม้แต่น้อยและพูดว่า “คุณลุงลู่ ต้องการจะคุยอะไรกับฉันเหรอคะ?”

ลู่ซือเจี๋ยหยิบซองจดหมายออกมาฉบับหนึ่งแล้วยื่นมาตรงหน้าเธอ

เซี่ยซีหว่านเปิดซองจดหมายฉับับนั้น ข้างในเต็มไปด้วยรูปถ่าย

เธอหยิบรูปถ่ายขึ้นมาหนึ่งใบ รูปนี้เป็นถูกถ่ายหลังจากที่เธอออกจากโรงพยาบาลและสูญเสียการมองเห็นอย่างกะทันหัน เธอยืนอยู่บนถนนเพื่อโทรหาเขาและหวังว่าเขาจะมารับเธอ

ขณะนั้นที่เขากำลังคุยโทรศัพท์กับเธอนั้น เขามีท่าทีไม่แยแสและใจจืดใจดำ เธอบอกไม่ได้ว่าเธอรู้สึกถึงเขาเวลาข้ามถนน เธอจึงยื่นมือออกมาข้างหน้าเพื่อควานหาเขาแล้วถามว่า คุณชายลู่คะ ใช่คุณหรือเปล่า?

เซี่ยซีหว่านมองรูปใบนั้นทั่วทั้งเมืองไห่เฉิงสว่างไสวด้วยแสงนีออน เธอกับเขายืนอยู่กลางถนน เธอยื่นมือออกไปหาเขา เขามองเธออย่างเจ็บปวดและอาลัยรัก เมื่อเธอเห็นภาพนี้ก็รับรู้ได้ในทันทีว่าขณะนั้นเมืองแห่งหนึ่งกลับเงียบสงบเพราะพวกเขา

เซี่ยซีหว่านพยักหน้าตอบรับว่า “ใช่ค่ะ”

“คุณเซี่ยครับ ผมต้องการให้คุณช่วยอาถิง ผมรู้สึกว่าคุณเป็นคนเดียวที่สามารถช่วยอาถิงได้” ลู่ซือเจี๋ยพูดยืนยันอย่างหนัก

เซี่ยซีหว่านมองรูปเหล่านั้นอีกครั้ง “ถ้าฉันช่วยเขา แล้วฉันล่ะคะ? ถ้าฉันเลือกที่จะช่วยเขา ฉันคงจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย”

“ผมจะเตรียมหมอที่ดีที่สุดมาให้คุณและจะพยายามให้มากที่สุดเพื่อช่วยคุณ แน่นอนว่าผมรู้ว่านี่อาจจะเป็นการกระทำที่ไร้สาระ เพราะการช่วยชีวิตอาถิงครั้งนี้จะเป็นการเอาชีวิตแลกกับชีวิต อันที่จริงแล้วผมมีบางสิ่งที่จะมาแลกเปลี่ยน แต่ผมรู้สึกว่าคุณเซี่ยคงไม่ชอบของเหล่านั้นหรอก ดังนั้นผมจึงทำได้แค่วางเดิมพันกับคุณ ผมขอวางเดิมพันความรักที่คุณมีต่ออาถิง เดิมพันความเต็มใจที่จะใช้ชีวิตแลกชีวิตของคุณกับเขา ใช้จุดจบของชีวิตคุณแลกกับการเกิดใหม่ของเขา”

ริมฝีปากแดงของเซี่ยซีหว่านยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสดใสของเธอเปล่งประกายระยิบระยับมากยิ่งขึ้นราวกับน้ำตาได้ช่วยชำระล้างจนสะอาดสะอ้าน “เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาแล้ว คุณจะพาเขากลับไปที่มหานครเอมพีเรียลไหมคะ?”

ลู่ซือเจี๋ยพยักหน้า “ใช่ครับ”

“คุณรักเขาไหมคะ?” เซี่ยซีหว่านเอ่ยถามลู่ซือเจี๋ย

รัก...

ลู่ซือเจี๋ยไม่ได้ยินคำ ๆ นี้มาเป็นเวลานานมากจนไม่คุ้นแล้ว เขาจึงนิ่งชะงักในทันทีและตอบว่า “อาถิงเป็นลูกชายของผม หลังจากที่ผมพาเขากลับไป ผมจะให้เขาสืบทอดอาณาจักรตระกูลลู่ และเพื่อเขาผมจะ...”

ทันใดนั้นเซี่ยซีหว่านก็พูดขัดจังหวะเขาขึ้นมาว่า “ฉันถามว่าคุณรักเขาไหมคะ ถ้าคุณรักเขา ฉันจะให้เขากับคุณ ถ้าคุณไม่รักเขา คุณมาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลยค่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี