ชีวิตที่เป็นอมตะเหรอ?
เซี่ยซีหว่านขมวดคิ้วเล็กน้อย บนโลกนี้มีชีวิตที่เป็นอมตะที่ไหนกัน ในสมัยโบราณกษัตริย์เหล่านั้นที่โหยหาชีวิตที่เป็นอมตะต่างหลงงมงายเกี่ยวกับลัทธิเต๋าเหล่านั้น บางคนเรียกเขาว่าเซียนวาน เขานั่งเรือไปยังเฝิงหลายที่เป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ไม่เพียงแต่ประสบกับความล้มเหลวเท่านั้น แต่เขายังพบกับจุดจบที่เลวร้ายอีกด้วย
คุณท่านเยี่ยผู้นี้ทำไมถึงหมกมุ่นกับสิ่งนี้?
เซี่ยซีหว่านนึกถึงเมื่อครู่นี้ที่เธอสบตากับคุณท่านเยี่ย ดวงตาคู่นั้นของคุณท่านเยี่ยซ่อนความมืดมิดอันโหดเหี้ยมเอาไว้ ทำให้เธอรู้สึกไม่สงบสุขเป็นอย่างมาก และเธอเองก็ความรู้สึกได้ว่าคุณท่านเยี่ยกำลังปฏิบัติต่อเธออย่างเย็นชา อาจเป็นเพราะหลานสาวของเขาเยี่ยหมิงจูไม่ชอบเธอ
เซี่ยซีหว่านระแวดระวังอยู่ภายในใจ การคัดเลือกวันนี้เธอกลัวว่ามันอาจจะไม่ราบรื่นอย่าวที่คิดไว้ รวมถึงสถาบันวิทยาศาสตร์ที่เธอต้องการ เธอก็กลัวว่าอาจเกิดความยุ่งยากขึ้นมาไม่น้อย
แต่ทว่ากล่องสมบัติใบที่สองของหม่ามี๊อยู่ที่สถาบันวิทยาศาสตร์ เธอจะต้องเข้าสถาบันวิทยาศาสตร์เพื่อเอากล่องสมบัติมาให้ได้ ใครก็ขัดขวางเธอไม่ได้
ทันใดนั้นด้านหน้าของเธอก็ปรากฏเงาประมาณสองสามคนเดินเข้ามา นั่นคือ ลี่เหยียนหลานและบรรดานักศึกษาหญิงสองสามคนจากมหาวิทยาลัย T
นักศึกษาหญิงสองสามคนนั้นกำลังล้อมรอบลี่เหยียนหลานอยู่ตรงกลางราวกับลี่เหยียนหลานเป็นเจ้าหญิง
“ว้าว เหยียนหลาน เธอจะหมั้นหมายกับประธานลู่แล้วจริง ๆ เหรอ?”
“ประธานลู่ดูเย็นชามาก หรือว่าเหยียนหลานจะมีวิธีดีดีจนคว้าประธานลู่มาครอบครองได้ เราเริ่มจะรู้สึกอิจฉาเธอแล้วสิ !”
เมื่อฟ่านเถียนและคนอื่น ๆ ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของนักศึกษาหญิงสองสามคน ฟ่านเถียนจึงพูดซุบซิบกับคนอื่น ๆ ว่า “ลี่เหยียนหลานกำลังจะหมั้นกับประธานลู่เหรอ?”
“น่าจะใช่นะ เมื่อเร็ว ๆ นี้ทั่วทั้งมหานครอิมพีเรียลต่างแพร่กระจายข่าวการเกี่ยวดองของตระกูลลู่ และตระกูลลี่ แต่มันก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่หรอกนะ”
“ประธานลู่ดูเป็นคนที่คนแปลกหน้าห้ามเข้าใกล้ ดูเป็นนักพรตเต็มตัว นึกไม่ถึงว่ารสนิยมจะเป็นแบบนี้ เขาชอบสาวสวยแบบลี่เหยียนหลานหรอกเหรอ”
ในขณะเดียวกันนั้นเมื่อลี่เหยียนหลานเห็นเซี่ยซีหว่าน เธอก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วด้วยท่าทางภาคภูมิใจและพูดอย่างมีความสุขว่า “เซี่ยซีหว่าน พวกเธอกำลังพูดคุยเรื่องอะไรกันอยู่เหรอ กำลังคุยเรื่องวันหมั้นของฉันกับพี่หานถิงอยู่หรือเปล่า เธอได้ยินมาไม่ผิดหรอก พวกเรากำลังจะหมั้นหมายกันแล้ว วันหมั้นก็เลือกเรียบร้อยแล้วด้วย คือสามวันหลังจากนี้ไงล่ะ”
สามวันหลังจากนี้เหรอ?
เซี่ยซีหว่านเพิ่งหายจากอาการป่วยหนัก แต่หัวใจของเธอกลับรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงเมื่อได้ยินเรื่องวันหมั้นของพวกเขา เธอไม่คิดว่าวันหมั้นของพวกเขาจะเร่งด่วนขนาดนี้
“พี่หานถิงบอกว่าอยากจะหมั้นกับฉันให้เร็วหน่อย สามวันหลังจากนี้ก็เป็นวันมงคลพอดี เซี่ยซีหว่าน ฉันจะให้บัตรเชิญเธอนะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่งานเลี้ยงหมั้นหมายระหว่างฉันกับพี่หานถิงนะ ”
ลี่เหยียนหลานมองดูใบหน้าที่ซีดเซียวของเซี่ยซีหว่าน ภายในใจของเธอเธอก็รู้สึกมีความสุขขึ้นในทันที นับตั้งแต่ที่เซี่ยซีหว่านปรากฏตัวขึ้นในมหานครอิมพีเรียล เซี่ยซีหว่านก็แย่งความเจิดจรัสจากเธอไปหมดจนทำให้เธอรู้สึกมืดมนราวกับไม่มีตัวตน
ตอนนี้เธอกำพลังหมั้นกับลู่หานถิง จุดประสงค์อีกเรื่องหนึ่งคือการทำให้เซี่ยซีหว่านกลับสู่จุดเดิมเป็นดอกไม้ป่าดอกหนึ่งที่ไม่รู้ว่าเติบโตมาจากมุมไหน ซึ่งไม่คู่ควรที่จะสู้กับเธอ เธอคือสาวน้อยผู้ภาคภูมิแห่งสรวงสวรรค์เชียวนะ?
เซี่ยซีหว่านไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา ดวงตาอันสดใสของเธอมองไปที่ลี่เหยียนหลานและพูดว่า “ถ้างั้นฉันก็ขอแสดงความยินดีกับเธอด้วยนะ การแสดงความยินดีฉันได้พูดต่อหน้าเธอด้วยตัวเองแล้ว ดังนั้น จดหมายเชิญของเธอก็ไม่จำเป็นแล้วล่ะ”
เมื่อเซี่ยซีหว่านพูดจบ เธอก็เดินจากไปในทันที
ลี่เหยียนหลานมองเงาร่างผอมเพรียวของเซี่ยซีหว่านที่ค่อย ๆ เดินหายไปจากสายตาของเธอ ลี่เหยียนหลานกัดฟันแน่น ท่าทางที่ไม่ใส่ใจของเซี่ยซีหว่านทำให้เธอรู้สึกว่าเธอกำลังโดนเยาะเย้ยอย่างรุนแรง
แต่ในไม่ช้าเธอก็เม้มริมฝีปากแดงเข้าหากันแน่น เซี่ยซีหว่านกำลังจะไปเตรียมตัวสำหรับการคัดเลือกบุคคลที่มีความสามารถของสถาบันวิทยาศาสตร์ แต่ช่างน่าเสียดายนักที่เธอถูกกำหนดให้ไม่มีวาสนาต่อสถาบันวิทยาศาสตร์แล้ว
...
เซี่ยซีหว่านบังคับตัวเองให้ลืมเรื่องการหมั้นของลู่หานถิงและลี่เหยียนหลาน เธอรู้แล้วว่าลู่หานถิงเกลียดเธอจนถึงขีดสุดแล้ว วันนั้นในเอมพีเรียลบาร์ก็เป็นข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด คุณชายลู่ของเธอหายไปแล้ว และตอนนี้ก็เป็นเพียงแค่ลู่หานถิงเท่านั้น เธอไม่จำเป็นต้องเสียใจเพราะเขาอีกแล้ว
เธอยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ การมามหานครอิมพีเรียลในครั้งนี้ก็เพื่อเข้าสถาบันวิทยาศาสตร์ให้ได้ และตอนนี้การคัดเลือกมาถึงแล้ว เธอไม่สามารถเสียสมาธิได้
ทันใดนั้นก็มีพนักงานเดินเข้ามา และพูดว่า “สวัสดีครับ ขอสอบถามหน่อยครับ คุณคือคุณหนูเซี่ยหรือเปล่าครับ?”
เซี่ยซีหว่านรู้ว่าการคัดเลือกครั้งนี้จะไม่ราบรื่นอย่างที่เธอคิด แต่เธอคาดไม่ถึงว่าผู้อำนวยการท่านนี้จะปฏิเสธเธออย่างตรงไปตรงมาเพื่อตัดหนทางของเธอที่จะเข้าสถาบันวิทยาศาสตร์เช่นนี้
“เพราะอะไรคะ?”
“ฉันได้ยินมาว่าเธอเพิ่งมาที่มหานครอิมพีเรียลเมื่อเดือนที่แล้ว และตั้งหลักปักฐานอยู่ในมหานครอิมพีเรียลนี้แล้ว ชื่อเสียงของเธอโด่งดังไปทั่วจนเข้าหูฉัน ทุกที่ต่างก็มีมาตรฐานของตัวเอง ในแวดวงสตรีที่มีชื่อเสียงของมหานครอิมพีเรียลก็เช่นกัน เรามีกลุ่มของสตรีที่มีชื่อเสียงของมหานครอิมพีเรียล เธอเป็นคนนอก จู่ ๆ ก็เข้ามาทำลายความสมดุลนี้ ถ้าหากเธอเข้าสถาบันวิทยาศาสตร์ ฉันมีลางสังหรณ์ว่าเธอจะทำลายความสมดุลที่มีอยู่ของสถาบันวิทยาศาสตร์ด้วยเช่นกัน ฉันในฐานะผู้นำของสถาบันวิทยาศาสตร์ ฉันจะไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด”
เมื่อเซี่ยซีหว่านได้ฟังเธอก็เข้าใจในทันที เธอยืดแผ่นหลังอันงดงามของเธอให้ตั้งตรงขึ้น เธอพูดตอบกลับด้วยน้ำเสียงอันไพเราะและดวงตาอันสดใสที่เปล่งประกายว่า “คุณท่านเยี่ยคะ คุณเป็นคนที่หัวโบราณและดื้อรั้นนัก สถาบันวิทยาศาสตร์คืออะไรคะ สถาบันวิทยาศาสตร์มีเพื่อให้นักศึกษาแพทย์ถือกำเนิดขึ้น ไม่ใช่อาณาเขตส่วนตัวของคุณคนเดียว คุณต้องการควบคุมสถาบันวิทยาศาสตร์ด้วยมือของคุณเอง และไม่ยอมให้ใครมาท้าทายอำนาจของคุณ คุณยึดติดกับกฎเก่าไม่แสวงหาความก้าวหน้า ถ้าคุณไม่เดินหน้า คุณก็จะถอยหลังค่ะ”
ทันใดนั้นสีหน้าของคุณท่านเยี่ยก็เปลี่ยนไป เขาลุกขึ้นยืนและจ้องมองไปยังเซี่ยซีหว่านด้วยความตกใจ และพูดว่า “เธอ...แท้จริงแล้วเธอเป็นใครกันไหน?”
คำพูดเหล่านี้ เคยมีคนพูดกับเขาเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว
เซี่ยซีหว่านมองสีหน้าของคุณท่านเยี่ยที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน ทันใดนั้นดวงตาคู่สวยของเธอก็ยิ่งเปล่งประกายขึ้น เธอจึงพูดด้วยท่าทีสงบนิ่งว่า “ทำไมคะ คุณคิดว่าฉันเป็นใครเหรอคะ?”
คุณท่านเยี่ยตกอยู่ในภวังค์และกำลังทบทวนความทรงจำของตัวเอง จากนั้นเขาก็พูดว่า “คำพูดเหล่านี้เคยมีคนพูดกับฉันเมื่อ 20 กว่าปีก่อน คน ๆ นั้นก็คือ...อาจารย์ของฉัน !”
อะไรนะ?
เมื่อเซี่ยซีหว่านเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของคุณท่านเยี่ย เธอก็รู้ได้ในทันที่ว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับหม่ามี๊ของเธออย่างแน่นอน แต่เธอนึกไม่ถึงว่า...หม่ามี๊ของเธอนั้นเป็นอาจารย์ของคุณท่านเยี่ยอย่างนั้นเหรอ?
พระเจ้า
เรื่องนี้น่าเหลือเชื่อจริง ๆ
“เมื่อประมาณ 20 กว่าปีก่อน หญิงสาวผู้ลึกลับคนหนึ่งมาที่มหานครอิมพีเรียล เธอรับลูกศิษย์รุ่นสุดท้ายไว้สองสามคน หนึ่งในลูกศิษย์ของเธอที่อายุมากที่สุดคือ ฉัน เธอสอนทักษะทางการแพทย์ให้ฉัน เธอสอนฉันให้ก่อตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์ และสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้แก่วงการแพทย์แผนจีนแห่งมหานครอมพีเรียลจนกลายมาเป็นยุครุ่งเรืองของวงการแพทย์แผนจีนในปัจจุบันนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี
กลับมาลงเรื่องนี้ต่อหน่อยค่ะ😁😁😁...
รอตอนต่อไปนานมากแล้ว ครับ...
นิยายแปลที่ติดตามก็ไม่มีการอัปเดทนิยายไทยก็เดิมฯเรื่องใหม่ก็เค้าโคลงจากเรื่องเดิมแม้จะเปลี่ยนชื่อแต่คนอ่านก็จำได้ค่ะ บางเรื่องที่ติดตามไปติดเหรียญที่เเอปอื่น ยังไงต่อไปดี...
ไม่มีอัพเดตต่อ...หรือเลิกแปลเรื่องนี้ไปแล้ว...
เรื่องนี้รออัปเดทนานมากค่ะนิ่งเลยค่ะ...