พายุรักแห่งเม็ดทราย นิยาย บท 21

ความสำราญเสียวซ่านไม่ได้มอบให้ปทุมงามแค่เพียงด้านเดียว ริมฝีปากร้อนผ่าวยิ่งกว่าลูกไฟได้ผละออกแล้วเข้าครอบครองมอบความสุขรัญจวนให้กับดอกบัวงามอีกด้านจนนาราภัทรหอบกระเส่าครางเสียงต่ำลึกไม่ได้หยุด

“เจ้าชาย...ได้โปรด...”

นาราภัทรครางปนสะอื้นไม่รู้สึกตัวสักนิดว่าตนเองกำลังทำอะไรลงไป สิ่งที่เธอต้องการในขณะนี้คือกองไฟแข็งแกร่งร้อนซ่าที่มือน้อยๆ ของเธอได้เลื่อนสอดเข้าไปกอบกุมลูบไล้เต็มทั้งสองมือ

“โอ...น้ำหนาว...อย่าหยุดทำต่อไป...”

เจ้าชายซารีฟร์กระซิบเสียงสั่นเรือนกายกระตุกความเสียวซ่านแล่นวูบวาบตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเมื่อมือน้อยๆ นุ่มนิ่มได้กอบกุมกองไฟร้อนแข็งแกร่งไว้เต็มอุ้มมือแล้วขยับลูบไล้หนักเบาจนเรือนกายเขาร้อนฉ่าปวดหนึบสั่นสะเทิ้มและเมื่อมองสบตากับดวงตาคู่สวยที่ปรือตาหวานฉ่ำมองยอดอกสีเข้มปรอยๆ ราวกับต้องการมอบความรัญจวนให้กับเขาบ้างจึงได้กระซิบเชิญชวนเสียงแหบแห้ง

“เอาสิน้ำหนาว บรรจงจุมพิตเหมือนที่เรามอบความสำราญให้กับเจ้า”

นาราภัทรแย้มยิ้มบางๆ ราวกับเด็กน้อยที่กล้าหาญขึ้นมาเมื่อได้รับคำอนุญาตจากผู้ใหญ่ มือบางลูบไล้กรีดเล็บเป็นทางยาววนรอบยอดอกสีเข้มทั้งสองข้างจากนั้นก็สะกิดหนักหน่วงอีกครั้งด้วยปลายเล็บ รับรู้ได้ถึงความชอบอกชอบใจเมื่อได้ยินเสียงสูดปากด้วยความเสียวซ่านหลุดออกมาจากเจ้าชายหนุ่ม หญิงสาวยิ้มกริ่มถูกใจกับผลงานของตนเองจากนั้นก็ลดเรียวปากเข้าไปกลืนกินแทนที่นิ้วเรียวยาวของตนเองบ้าง หญิงสาวขบเม้มยอดอกสีเข้มดูดดึงหนักหน่วงจนเจ้าชายซารีฟร์สะดุ้งเฮือก เธอตวัดปลายลิ้นโลมเลียกระหวัดชิมดุนดันเพิ่มความซาบซ่านให้เจ้าชายหนุ่มอีกเท่าตัว

“น้ำหนาวทำถูกหรือเปล่าคะ”

“ยะ...ยิ่งกว่าถูกเสียอีก”

เจ้าชายซารีฟร์ครางแทบไม่เป็นภาษาเรือนกายสั่นเทิ้มหายใจติดขัดเมื่อนาราภัทรมอบความสำราญทั้งจากมือนุ่มและเรียวปากอวบอิ่ม เขาลดใบหน้าลงเข้ากดจุมพิตตรงซอกคอระหงกัดเบาๆ ตรงแอ่งชีพจร มือหนาร้อนผ่าวรูดกางเกงที่นาราภัทรสวมอยู่ลงมากองอยู่ตรงหัวเข่าจากนั้นก็สร้างความสำราญซาบซ่านให้กับแก้วตาดวงใจอีกครั้งด้วยปลายนิ้วแข็งแกร่งที่เลื่อนไปลูบไล้สร้างความร้อนผ่าวสุขสมให้กับกลีบดอกไม้งามและจุดแห่งความหรรษาที่สร้างความเสียวซ่านได้มากที่สุด

“เจ้าชาย...น้ำหนาวทรมาน ปลดปล่อย...ช่วยน้ำหนาวด้วย”

นาราภัทรครางเร่งเร้าแอ่นกายเข้าหามือหนาที่ยังคงมีชีวิตชีวาสร้างความเสียวซ่านให้กับเธอไม่ได้หยุดหย่อน

“บอกสิ น้ำหนาว เจ้าต้องการใคร เจ้าเป็นของใคร”

เจ้าชายซารีฟร์กระซิบถามเสียงแหบพร่าเรือนกายร้อนฉ่าปวดหนึบแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความรัญจวนใจที่ไม่เคยมีหญิงใดทำให้เขาสุขสมได้เท่ากับนาราภัทร

“คุณ...เจ้าชาย...น้ำหนาวต้องการเจ้าชายซารีฟร์...”

นาราภัทรตอบปนสะอื้นพยายามหยัดกายเข้าหาแก่นกายร้อนผ่าวที่อยู่ใกล้กับกลีบดอกไม้หวาน มือบางขยุ้มตรงบ่ากว้างจิกเล็บลงไปแล้วรั้งให้เรือนกายกำยำริมฝีปากสีสดกดจุมพิตลงมาที่เรียวปากของตนเองซึ่งได้เผยอรอรับอยู่แล้ว

เจ้าชายซารีฟร์คลี่ยิ้มด้วยความพึงพอใจหัวใจอุ่นวาบขึ้นมาเมื่อได้รับคำตอบเด่นชัดจากหญิงงามในอ้อมแขนถึงแม้จะเป็นการเอ่ยตอบในขณะที่จิตใจร่างกายถูกครอบงำด้วยฤทธิ์ยานรกแต่เขาก็รู้สึกอิ่มเอมหัวใจพองโตกับคำตอบของนาราภัทร ริมฝีปากร้อนผ่าวที่ก้มลงไปกดจูบได้บรรจงมอบจุมพิตที่หวานฉ่ำซาบซ่านเต็มไปด้วยความรักใคร่ภักดีที่สื่อผ่านภาษากาย ปลายนิ้วแข็งแกร่งยังคงสร้างความสุขรัญจวนให้หญิงสาวไม่มีหยุด กลีบดอกไม้งามที่เต้นไหวเริงระบำสู้กับปลายนิ้วดิ้นกระเส่าหยัดกายเข้าหามากขึ้นทำให้รู้ว่านาราภัทรพร้อมพรักสำหรับเขาแล้ว มือหนาผละออกแล้วจับร่างบอบบางหอมจรุงใจได้นอนราบกับเบาะรถ เขาขัดเคืองใจเล็กน้อยที่พื้นที่ในการบรรเลงเพลิงรักนั้นคับแคบไม่ได้ดังใจต้องการ

“เจ้าชาย...ได้โปรด...อย่าหนีน้ำหนาว”

นาราภัทรครางเสียงปนสะอื้นยื่นมือทั้งสองออกไปไขว่ขว้าพยายามฉุดรั้งให้เจ้าชายซารีฟร์ได้กลับมามอบความสุขเสียวซ่านให้กับตนเอง

“ใจเย็นๆ ยอดรัก รอสักครู่”

เจ้าชายซารีฟร์กัดฟันกรอดกระซิบบอกพร้อมด้วยรอยยิ้มบางๆ มือร้อนผ่าวดึงกางเกงทั้งชั้นนอกและชั้นในลงมากองที่ปลายเท้าจากนั้นก็ใช้หัวเข่าของตนเองแยกต้นขาเรียวยาวให้เปิดออกกว้างเผยดอกไม้งามบานฉ่ำให้เห็นเต็มใจรัก เขาอยากกลืนกินดูดด่ำน้ำหวานจากกลีบดอกกุหลาบยิ่งนัก แต่เวลาและสถานที่ที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้ต้องตัดใจเก็บความต้องการของตนเองไว้สำหรับเพลิงสวาทในครั้งต่อไป

“โอ...เจ้าชาย...อย่ารออีกเลย...”

“เจ้าชาย...ปลดปล่อยน้ำหนาวเดี๋ยวนี้”

“เรารู้ยอดรัก เรารู้...”

เจ้าชายซารีฟร์กัดฟันครางตอบเสียงแหบแห้งแทบไม่พ้นลำคอ ไฟรักที่โลมเลียแผดเผาคลื่นความซาบซ่านที่ซัดกระหน่ำใกล้ถึงฟากฝั่งที่สวยงามทำให้เขารวบรวมเรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดผลักดันโยกขยับรุนแรงเป็นครั้งสุดท้ายจนนาราภัทรกระตุกเกร็งครางเสียงกระเส่าเมื่อล่องลอยเข้าไปสัมผัสกับดวงดาวที่สุกสกาวพรากพราวเต็มท้องฟ้ากว้างและอีกไม่กี่นาทีต่อมาเรือนกายของเขาก็กระตุกชาวูบครางลั่นราวกับราชสีห์ได้รับบาดเจ็บขณะความสุขสมได้ปะทุแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ธารลาวาร้อนรุ่มแห่งความรักถูกปลดปล่อยออกมาทุกหยาดหยดเข้าไปในดอกกุหลาบหวานฉ่ำ

เรือนกายที่ถูกหล่อหลอมจากเบ้าอันเดียวกัน จังหวะท่วงทำนองเพลงรักที่ถูกสวรรค์บรรจงร้อยเรียงตัวโน๊ตโดย

เฉพาะได้สร้างคลื่นกระแสแห่งความรักที่รุนแรงเร่าร้อนแก่หนุ่มสาวต่างชาติต่างภาษาแต่มีจิตใจอันหนึ่งอันเดียวกันและเกิดมาเพื่ออยู่เคียงคู่กันโดยที่ฟากฟ้ามิอาจขวางกั้นได้

เจ้าชายซารีฟร์ซบหน้านิ่งกับซอกคอระหงแล้วใช้ปลายลิ้นดูดซับเหงื่อที่แตกพราวออกจากลำคอใบหน้างามหวานดวงตาคู่สวยที่หวานเยิ้มปรือมองอย่างงุนงง มือหนาบรรจงสวมกางเกงกลับเข้าที่สะโพกผายมนเอวคอดกิ่วให้อย่างอ่อนโยน เขาควานหาเสื้อโค้ทตัวใหญ่ของตนเองที่ขวางทิ้งไปก่อนหน้านี้มาสวมใส่ให้ความอบอุ่นกับร่างบอบบางจากนั้นก็โอบกอดเรือนกายหอมกรุ่นจรุงใจให้นั่งซ้อนบนตักกว้าง มือหนาโอบไปรอบศีรษะกลมทุยปกคลุมด้วยเส้นผมนุ่มยาวสลวยถึงกลางหลัง

“พักสักครู่น่ะน้ำหนาว”

ซุ่มเสียงที่กระซิบปลอบแนบกับกลุ่มผมนุ่มสลวยเต็มไปด้วยความอบอุ่นระคนรักใคร่ภักดี แต่คนที่ถูกปลอบไม่ได้พักตามถ้อยคำของเจ้าชายแห่งทะเลทราย ฤทธิ์ของยายังไม่หมดลงง่ายๆ นาราภัทรเริ่มร้อนรุ่มปวดหนึบทั่วกายอีกครั้งมือบางพยายามสอดเข้าไปสัมผัสอกแข็งแกร่งที่เต็มไปด้วยไรขนอ่อนๆ เรียวปากอิ่มเอิบไล่จูบทั่วซอกคอและริมฝีปากสีสดร้อนผ่าว

“โอ...พระเจ้า”

เจ้าชายซารีฟร์กดจูบตอบอย่างเร่าร้อนรุนแรงดูดดื่มเนิ่นนานตามความต้องการของนาราภัทรก่อนจะผละออกแล้วครางเสียงต่ำลึกภาวนาให้ราชิตขับรถถึงห้องชุดโดยเร็วไว เขาไม่อยากนึกถึงวันพรุ่งนี้ในกาลเวลาที่ยาหมดฤทธิ์และนาราภัทรกลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง ริมฝีปากร้อนผ่าวกดจุมพิตลงไปบนกระหม่อมบางแล้วซบหน้าหลับตานิ่งครางออกมาแผ่วเบา

“พรุ่งนี้เราจะกลายเป็นปีศาจร้ายเป็นจอมเผด็จการเป็นเจ้าชายที่เย็นชาในสายตาของเจ้าดังเดิมใช่ไหมยอดรัก”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พายุรักแห่งเม็ดทราย