“คุณอานัทธีจะไปแล้วเหรอคะ ? ” ไอริณมองไปที่นัทธี อย่างอาลัยอาวรณ์
อารัณไม่ได้พูดอะไร แขนเล็กๆมือกอดอก ท่าทีราวกับผู้ใหญ่
“ใช่จ้า เพื่อนของคุณอานัทธีไม่สบาย คุณอานัทธีจะต้องไปเยี่ยมเธอ”วารุณีลูบไปที่ศีรษะของไอริณ “ไป เราลงจากรถกันเถอะ ”
พูดจบ เธอก็เปิดประตูรถ เพื่อให้เด็กทั้งสองคนลงไป
เด็กทั้งสองต่างก็เชื่อฟัง ลงจากรถไปโดยดี
ในตอนที่วารุณีโน้มตัวลง เตรียมที่จะลงไปจากรถนั้น นัทธีก็คว้าไปที่แขนของเธอ
“มีอะไรเหรอคะประธานนัทธี?”วารุณีหันกลับมามองเขาอย่างงงๆ
นัทธีจ้องมองไปที่ดวงตาของเธอ “ขอโทษ”
วารุณีรู้สึกตกใจ จากนั้นก็ยกยิ้มให้ “ประธานนัทธีจะขอโทษฉันทำไมคะ ? ”
“เพราะผมพาเด็กๆมา การแข่งของคุณก็ยังไม่จบเลย ไม่มีเวลามาดูแลพวกเขาด้วย ผมจะหาคนมาช่วยคุณ”
นัทธีปล่อยแขนเธอ
วารุณีก็เพิ่งจะรู้ตัว ว่าที่เขาพูดคำว่าขอโทษเพราะเรื่องนี้
“ไม่ต้องหรอกค่ะประธานนัทธี”เธอโบกมือให้ “ คุณพาเด็กๆไปประชุมผู้ปกครอง ก็รบกวนคุณมากแล้ว ฉันจะรบกวนคุณต่อไปอีกได้ยังไง ฉันจะขอห้องรับรองกับประธานวรวี แล้วให้พวกเขาพักผ่อนอยู่ในนั้น เพราะฉะนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วง ไปดูคุณนวิยาเถอะค่ะ”
พูดจบ วารุณีก็ลงรถไป หันกลับมาแล้วโบกมือให้กับนัทธี จากนั้นก็ปิดประตูรถให้เขา
ในที่สุดนัทธีก็ขับรถแล่นออกไป
วารุณีจูงมือของเด็กทั้งสองเฝ้ามองดูเขา จนลับตาไป จากนั้นจึงได้พาเด็กๆเดินเข้าไปในอาคารของสมาคม
“หม่ามี๊ คนที่คุณอานัทธีไปเยี่ยม ใช่คุณน้าคนไข้ของพ่อบุญธรรม ที่หม่ามี๊ไม่ให้เราเจอคนนั้นใช่ไหมคะ?”อารัณที่เดินไปด้วย ก็เงยหน้าขึ้นแล้วถามไปด้วย
วารุณีไม่ได้ปฏิเสธ พยักหน้าให้ “ใช่แล้ว”
“คุณอานัทธีกับคุณน้าคนนั้น เป็นอะไรกันครับ?” อารัณกะพริบตาปริบๆ
ไอริณยกมือน้อยๆขึ้น “ไอริณก็อยากรู้เหมือนกันค่ะ”
วารุณีบีบมือเล็กๆของเด็กทั้งสองอย่างจนใจ “เป็นเด็กเป็นเล็กถามอะไรมากมาย นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราควรรู้นะ”
“หึ หม่ามี๊ก็พูดแบบนี้ทุกครั้ง” ไอริณยู่ปาก
“ใช่!” อารัณก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
วารุณีปล่อยมือจากเด็กทั้งสอง แล้วจี้ไปที่รักแร้ของพวกเขา “ ว่าไงนะ เจ้าเด็กสองคนนี้กล้าล้อเลียนหม่ามี๊เหรอ”
เด็กทั้งสองคนต่างก็หลบ แล้วหัวเราะเอิ๊กอ๊ากออกมา
แม่ลูกสามคนเล่นหยอกล้อกันสนุกสนานจนมาถึงที่ห้องทำงานของประธานวรวี
เดิมทีประธานวรวีเองก็พอใจในตัววารุณีอยู่มาก เมื่อทราบในสิ่งที่เธอร้องขอ ก็ให้คนเปิดห้องรับรองให้เธอทันทีอย่างไม่อิดออด
วารุณีเอ่ยพูดขอบคุณประธานวรวีอยู่ซ้ำๆ แล้วจึงพาลูกทั้งสองคนไปที่ห้องรับรอง
หลังจากที่ทานข้าวในห้องรับรองเสร็จ ก็เล่นเป็นเพื่อนลูกอยู่สักพัก เมื่อเห็นว่าเวลาการแข่งขันใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว หลังจากที่วารุณีได้สั่งกำชับเด็กทั้งสองคนว่าห้ามเดินเพ่นพ่าน จึงได้ออกไปจากห้องรับรองอย่างสบายใจ แล้วเดินไปที่ห้องประชุม
แต่ในระหว่างทาง ก็ถูกหนึ่งในคนกลุ่มหนึ่งเรียกเอาไว้ “แม่หนูวารุณี”
“คุณปู่วัชระ”วารุณีหยุดเดิน แล้วมองไปยังกลุ่มคนของนายท่านวัชระ
นายท่านวัชระหันหน้าไปคุยอะไรบางอย่างกับคนข้างๆ คนพวกนั้นก็พยักหน้ารับ จากนั้นก็มองมาที่วารุณี แล้วเดินจากไป
นายท่านวัชระถือไม้เท้าแล้วเดินมาหยุดลงตรงหน้าของวารุณี
วารุณีเอียงคอแล้วเอ่ยถามไปด้วยความสงสัย “คุณปู่วัชระ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ ? แล้วคนเมื่อครู่เหล่านั้น ......”
“หนูมากับฉัน”นายท่านวัชระไม่ได้ตอบคำถามเธอ แต่กวักมือเรียกให้เธอเดินตามเขา
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่จริงจังของเธอ ท่าทีของปาจรีย์ก็จริงจังตามไปด้วย“ให้ช่วยอะไร พูดมาเลย”
“วารุณีมีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?” พงศกรยืดหลังตรงแล้วถามออกไป
ปาจรีย์ส่ายหัวให้เขา เพื่อบ่งบอกว่ายังไม่รู้
“คืออย่างนี้นะ ฉันอยากให้เธอไปที่คอนโดฉัน ที่โต๊ะน้ำชามีซองเอกสารอยู่ และที่ห้องนอนบนหัวเตียงของฉันมี USB อีกอันเอามันมาให้ฉันที่นี่ที”วารุณีหยุดลงแล้วพูดอยู่ตรงด้านนอกของห้องประชุม
“เอาพวกนี้ไปทำอะไร ด่วนมากเหรอ ? ”ปาจรีย์เอียงศีรษะ แล้วหนีบมือถือไปกับหัวไหล่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
“ด่วนมาก” วารุณีพยักหน้าอย่างหนักแน่น แล้วกดเสียงต่ำ “ พวกนั้นมันเป็นหลักฐานที่พิชญาลอกเลียนแบบ อีกเดี๋ยวฉันจำเป็นต้องใช้มัน”
เมื่อได้ยินดังนั้น ปาจรีย์ก็ลุกยืนขึ้นอย่างตื่นเต้น “วารุณี เธอจะเปิดโปงพิชญาเหรอ ?”
“ถูกต้อง”
“ได้ ฉันรู้แล้ว ฉันจะไปเอาให้เธอเดี๋ยวนี้ !”
“เร็วหน่อยนะ” วารุณีพูดย้ำไปอีกคำหนึ่ง จากนั้นก็วางสายไปแล้วเดินเข้าห้องประชุม
คนในห้องประชุมต่างก็มากันครบแล้ว พิชญาและนักออกแบบอีกสองคนก็นั่งประจำที่กันแล้ว
วารุณีกวาดตามองไปที่พวกเขาแวบหนึ่ง แล้วเดินไปประจำที่ของตัวเอง
ในขณะที่เธอเดินผ่านที่นั่งของพิชญา พิชญาก็ยื่นขาเรียวๆของเขาออกมา ขวางทางเดินเธอเอาไว้
วารุณีที่ไม่ทันได้ระวัง ถูกเท้าของเขาขัดเอาไว้ จึงได้ส่งเสียงร้องออกมา แล้วร่างก็ล้มคะมำไปด้านหน้า
เหตุการณ์นี้ ทำให้ผู้คนในห้องประชุมและผู้ที่ดูถ่ายทอดสดอยู่ต่างก็ตกตะลึง มีเพียงพิชญาเท่านั้นที่ยกยิ้มมุมปากอย่างมีชัย รอดูภาพที่วารุณีได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น
แต่สิ่งที่เธอวาดหวังไม่ได้เกิดขึ้น ในขณะที่วารุณีกำลังจะล้มคะมำ และในจังหวะที่กำลังจะล้มลงกับพื้น มีนักข่าวคนหนึ่งเห็นเข้า ก็รีบพุ่งตรงเข้ามา แล้วดึงรั้งร่างของวารุณีเอาไว้
จากความช่วยเหลือของนักข่าว วารุณีก็ลุกยืนขึ้นด้วยใบหน้าซีดเผือด หลังจากที่กล่าวขอบคุณกับนักข่าวแล้ว ก็หันกลับมา แล้วจ้องเขม็งมองพิชญาด้วยสายตาที่เย็นชา “เธอจงใจใช่ไหม ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...