พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 194

“คุณอานัทธีจะไปแล้วเหรอคะ ? ” ไอริณมองไปที่นัทธี อย่างอาลัยอาวรณ์

อารัณไม่ได้พูดอะไร แขนเล็กๆมือกอดอก ท่าทีราวกับผู้ใหญ่

“ใช่จ้า เพื่อนของคุณอานัทธีไม่สบาย คุณอานัทธีจะต้องไปเยี่ยมเธอ”วารุณีลูบไปที่ศีรษะของไอริณ “ไป เราลงจากรถกันเถอะ ”

พูดจบ เธอก็เปิดประตูรถ เพื่อให้เด็กทั้งสองคนลงไป

เด็กทั้งสองต่างก็เชื่อฟัง ลงจากรถไปโดยดี

ในตอนที่วารุณีโน้มตัวลง เตรียมที่จะลงไปจากรถนั้น นัทธีก็คว้าไปที่แขนของเธอ

“มีอะไรเหรอคะประธานนัทธี?”วารุณีหันกลับมามองเขาอย่างงงๆ

นัทธีจ้องมองไปที่ดวงตาของเธอ “ขอโทษ”

วารุณีรู้สึกตกใจ จากนั้นก็ยกยิ้มให้ “ประธานนัทธีจะขอโทษฉันทำไมคะ ? ”

“เพราะผมพาเด็กๆมา การแข่งของคุณก็ยังไม่จบเลย ไม่มีเวลามาดูแลพวกเขาด้วย ผมจะหาคนมาช่วยคุณ”

นัทธีปล่อยแขนเธอ

วารุณีก็เพิ่งจะรู้ตัว ว่าที่เขาพูดคำว่าขอโทษเพราะเรื่องนี้

“ไม่ต้องหรอกค่ะประธานนัทธี”เธอโบกมือให้ “ คุณพาเด็กๆไปประชุมผู้ปกครอง ก็รบกวนคุณมากแล้ว ฉันจะรบกวนคุณต่อไปอีกได้ยังไง ฉันจะขอห้องรับรองกับประธานวรวี แล้วให้พวกเขาพักผ่อนอยู่ในนั้น เพราะฉะนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วง ไปดูคุณนวิยาเถอะค่ะ”

พูดจบ วารุณีก็ลงรถไป หันกลับมาแล้วโบกมือให้กับนัทธี จากนั้นก็ปิดประตูรถให้เขา

ในที่สุดนัทธีก็ขับรถแล่นออกไป

วารุณีจูงมือของเด็กทั้งสองเฝ้ามองดูเขา จนลับตาไป จากนั้นจึงได้พาเด็กๆเดินเข้าไปในอาคารของสมาคม

“หม่ามี๊ คนที่คุณอานัทธีไปเยี่ยม ใช่คุณน้าคนไข้ของพ่อบุญธรรม ที่หม่ามี๊ไม่ให้เราเจอคนนั้นใช่ไหมคะ?”อารัณที่เดินไปด้วย ก็เงยหน้าขึ้นแล้วถามไปด้วย

วารุณีไม่ได้ปฏิเสธ พยักหน้าให้ “ใช่แล้ว”

“คุณอานัทธีกับคุณน้าคนนั้น เป็นอะไรกันครับ?” อารัณกะพริบตาปริบๆ

ไอริณยกมือน้อยๆขึ้น “ไอริณก็อยากรู้เหมือนกันค่ะ”

วารุณีบีบมือเล็กๆของเด็กทั้งสองอย่างจนใจ “เป็นเด็กเป็นเล็กถามอะไรมากมาย นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราควรรู้นะ”

“หึ หม่ามี๊ก็พูดแบบนี้ทุกครั้ง” ไอริณยู่ปาก

“ใช่!” อารัณก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

วารุณีปล่อยมือจากเด็กทั้งสอง แล้วจี้ไปที่รักแร้ของพวกเขา “ ว่าไงนะ เจ้าเด็กสองคนนี้กล้าล้อเลียนหม่ามี๊เหรอ”

เด็กทั้งสองคนต่างก็หลบ แล้วหัวเราะเอิ๊กอ๊ากออกมา

แม่ลูกสามคนเล่นหยอกล้อกันสนุกสนานจนมาถึงที่ห้องทำงานของประธานวรวี

เดิมทีประธานวรวีเองก็พอใจในตัววารุณีอยู่มาก เมื่อทราบในสิ่งที่เธอร้องขอ ก็ให้คนเปิดห้องรับรองให้เธอทันทีอย่างไม่อิดออด

วารุณีเอ่ยพูดขอบคุณประธานวรวีอยู่ซ้ำๆ แล้วจึงพาลูกทั้งสองคนไปที่ห้องรับรอง

หลังจากที่ทานข้าวในห้องรับรองเสร็จ ก็เล่นเป็นเพื่อนลูกอยู่สักพัก เมื่อเห็นว่าเวลาการแข่งขันใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว หลังจากที่วารุณีได้สั่งกำชับเด็กทั้งสองคนว่าห้ามเดินเพ่นพ่าน จึงได้ออกไปจากห้องรับรองอย่างสบายใจ แล้วเดินไปที่ห้องประชุม

แต่ในระหว่างทาง ก็ถูกหนึ่งในคนกลุ่มหนึ่งเรียกเอาไว้ “แม่หนูวารุณี”

“คุณปู่วัชระ”วารุณีหยุดเดิน แล้วมองไปยังกลุ่มคนของนายท่านวัชระ

นายท่านวัชระหันหน้าไปคุยอะไรบางอย่างกับคนข้างๆ คนพวกนั้นก็พยักหน้ารับ จากนั้นก็มองมาที่วารุณี แล้วเดินจากไป

นายท่านวัชระถือไม้เท้าแล้วเดินมาหยุดลงตรงหน้าของวารุณี

วารุณีเอียงคอแล้วเอ่ยถามไปด้วยความสงสัย “คุณปู่วัชระ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ ? แล้วคนเมื่อครู่เหล่านั้น ......”

“หนูมากับฉัน”นายท่านวัชระไม่ได้ตอบคำถามเธอ แต่กวักมือเรียกให้เธอเดินตามเขา

เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่จริงจังของเธอ ท่าทีของปาจรีย์ก็จริงจังตามไปด้วย“ให้ช่วยอะไร พูดมาเลย”

“วารุณีมีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?” พงศกรยืดหลังตรงแล้วถามออกไป

ปาจรีย์ส่ายหัวให้เขา เพื่อบ่งบอกว่ายังไม่รู้

“คืออย่างนี้นะ ฉันอยากให้เธอไปที่คอนโดฉัน ที่โต๊ะน้ำชามีซองเอกสารอยู่ และที่ห้องนอนบนหัวเตียงของฉันมี USB อีกอันเอามันมาให้ฉันที่นี่ที”วารุณีหยุดลงแล้วพูดอยู่ตรงด้านนอกของห้องประชุม

“เอาพวกนี้ไปทำอะไร ด่วนมากเหรอ ? ”ปาจรีย์เอียงศีรษะ แล้วหนีบมือถือไปกับหัวไหล่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ

“ด่วนมาก” วารุณีพยักหน้าอย่างหนักแน่น แล้วกดเสียงต่ำ “ พวกนั้นมันเป็นหลักฐานที่พิชญาลอกเลียนแบบ อีกเดี๋ยวฉันจำเป็นต้องใช้มัน”

เมื่อได้ยินดังนั้น ปาจรีย์ก็ลุกยืนขึ้นอย่างตื่นเต้น “วารุณี เธอจะเปิดโปงพิชญาเหรอ ?”

“ถูกต้อง”

“ได้ ฉันรู้แล้ว ฉันจะไปเอาให้เธอเดี๋ยวนี้ !”

“เร็วหน่อยนะ” วารุณีพูดย้ำไปอีกคำหนึ่ง จากนั้นก็วางสายไปแล้วเดินเข้าห้องประชุม

คนในห้องประชุมต่างก็มากันครบแล้ว พิชญาและนักออกแบบอีกสองคนก็นั่งประจำที่กันแล้ว

วารุณีกวาดตามองไปที่พวกเขาแวบหนึ่ง แล้วเดินไปประจำที่ของตัวเอง

ในขณะที่เธอเดินผ่านที่นั่งของพิชญา พิชญาก็ยื่นขาเรียวๆของเขาออกมา ขวางทางเดินเธอเอาไว้

วารุณีที่ไม่ทันได้ระวัง ถูกเท้าของเขาขัดเอาไว้ จึงได้ส่งเสียงร้องออกมา แล้วร่างก็ล้มคะมำไปด้านหน้า

เหตุการณ์นี้ ทำให้ผู้คนในห้องประชุมและผู้ที่ดูถ่ายทอดสดอยู่ต่างก็ตกตะลึง มีเพียงพิชญาเท่านั้นที่ยกยิ้มมุมปากอย่างมีชัย รอดูภาพที่วารุณีได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น

แต่สิ่งที่เธอวาดหวังไม่ได้เกิดขึ้น ในขณะที่วารุณีกำลังจะล้มคะมำ และในจังหวะที่กำลังจะล้มลงกับพื้น มีนักข่าวคนหนึ่งเห็นเข้า ก็รีบพุ่งตรงเข้ามา แล้วดึงรั้งร่างของวารุณีเอาไว้

จากความช่วยเหลือของนักข่าว วารุณีก็ลุกยืนขึ้นด้วยใบหน้าซีดเผือด หลังจากที่กล่าวขอบคุณกับนักข่าวแล้ว ก็หันกลับมา แล้วจ้องเขม็งมองพิชญาด้วยสายตาที่เย็นชา “เธอจงใจใช่ไหม ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ