พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 198

นัทธีที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็เงยหน้าขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลา

เขาไม่ได้ดูโทรศัพท์ของเธอ แต่กลับยกเปลือกตาขึ้นแล้วพูดว่า “ ผมรู้ เธอมีพรสวรรค์ ในด้านการออกแบบมาก การแข่งขันเล็กๆแบบนี้ ทำอะไรเธอไม่ได้หรอก ”

“ดูคุณมั่นใจในตัวคุณวารุณีมากเลยนะคะ” รอยยิ้มของนวิยาแน่นิ่ง

นัทธีก้มหน้าลงอีกครั้ง“ ไม่เพียงแค่ผมมั่นใจในตัวเธอ พรสวรรค์ของเธอ มีมากพอให้ทุกคนมั่นใจในตัวเธอด้วยเช่นกัน ”

“เหรอคะ” ดวงตาของนวิยาฉายแสงสลัว และไม่ได้พูดอะไรอีก

ผ่านไปสักพัก เธอเห็นวารุณีวาดแบบใกล้จะเสร็จแล้ว เหลือเพียงยังไม่ได้ลงสี และในจังหวะที่นัทธีไม่ได้สังเกต เธอก็แคปรู้หน้าจองานแบบของวารุณีไว้ จากนั้นก็ดึงผ้าห่มออก

“นัทธี”แก้มของนวิยาขึ้นสีเล็กน้อย เอ่ยเรียกนัทธีไปอย่างเขินอาย

นัทธีเงยหน้าขึ้นมองเธอ“เป็นอะไร?”

“ฉันอยากจะเข้าห้องน้ำ”นวิยาหยิบโทรศัพท์มือถือใส่ลงในกระเป๋าเสื้อคนป่วย

นัทธีเห็นแล้ว แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร ปิดคอมพิวเตอร์ลงแล้ววางมันไว้ข้างๆ พยุงร่างเธอลงจากเตียง แล้วประคองไปยังหน้าห้องน้ำ“คุณเข้าไปคนเดียวได้ไหม หากไม่ได้ ผมจะตามให้พยาบาลมาช่วย”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ”นวิยาโบกมือแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “ ถึงฉันจะไม่ค่อยมีแรง แต่เข้าห้องน้ำก็ยังพอช่วยตัวเองได้อยู่ค่ะ ”

พูดจบ เธอก็ปิดประตูห้องน้ำลง

ผ่านไปสักพัก นวิยาก็ออกมาจากห้องน้ำ

นัทธีก็ประคองเธอมายังเตียงคนป่วย

หลังจากที่ขึ้นมาบนเตียงแล้ว เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า และกดเข้าไปดูการถ่ายทอดสดอีกครั้ง เพื่อดูการแข่งขัน

ณ สนามแข่ง วารุณีที่กำลังระบายสีอยู่

เธอระบายสีได้เร็วมาก มือราวกับเต้นระบำอยู่ในแสงเงา

ในขณะที่เธอกำลังลงสีบนแบบหลากสีสัน รอยยิ้มบนใบหน้าก็เพิ่มทวีมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

เมื่อพิชญาเห็น ไม่เพียงแค่เหงื่อแตกพลั่ก ในใจก็มีแรงกดดันมากขึ้นอีกด้วย

มองดูท่าทีของวารุณี หญิงสาวจะไม่รู้ได้ยังไงว่าแบบร่างของวารุณีใกล้จะเสร็จแล้ว แต่ตัวเธอเอง ยังคงเป็นเพียงกระดาษเปล่าแผ่นหนึ่ง

“จะแพ้แล้วเหรอ?”พิชญาตกอยู่ในภวังค์จ้องมองกระดาษเปล่าตรงหน้า ในใจไม่อยากจะจำนน แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะเธอวาดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ

และในตอนนี้เอง มีนักข่าวคนหนึ่งเดินผ่านมาทางพิชญา แล้วโยนกระดาษก้อนกลมขนาดเล็กมาที่สมุดวาดของเธออย่างเร็ว

พิชญาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ คว้ากระดาษก้อนกลมๆนั่นแล้วมือกุมปิดมันไว้ จากนั้นก็หันไปมองนักข่าวคนนั้น

นักข่าวคนนั้นยิ้มให้เธอ แล้วทำท่าทำทาง ส่งสัญญาณให้เธอเปิดกระดาษก้อนกลมๆนั้นออกดู

พิชญาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ทำตาม แอบเปิดกระดาษก้อนกลมๆนั้นออกดู จากนั้นก็เห็นในกระดาษเขียนไว้ว่า :อยากชนะ ไปที่ห้องน้ำ

คำพูดสั้นๆ ทันใดนั้นก็ทำให้ดวงตาของพิชญาสว่างไสว หัวใจเต้นแรงขึ้นมา

แม้ไม่รู้ว่านักข่าวคนนั้นต้องการอะไร และทำไมต้องช่วยเธอ แต่เพื่อชัยชนะ เธอก็ต้องลองเสี่ยงมันดู

เมื่อคิดได้ดังนั้น พิชญาก็ยกมือขึ้น “หัวหน้าเอริค!”

ทุกคนต่างมองมาที่เธอ

มือที่กำลังระบายสีอยู่ของวารุณีก็หยุดชะงักลง แล้วมองไปที่พิชญา

พิชญาเอามือลง“ ฉันอยากจะขอเข้าห้องน้ำหน่อยค่ะ”

“เชิญ ให้เวลาสิบนาที ” หัวหน้าเอริคขมวดคิ้ว แต่ก็ตอบตกลง

“ค่ะ”พิชญาดีใจมาก บังคับรถเข็นแล้วออกจากห้องประชุมไป

วารุณีมองตามไปยังทิศทางที่เธอไป หรี่ดวงตาคู่สวยของเธอลง

พิชญาไปห้องน้ำในเวลานี้ เธอต้องการเข้าห้องน้ำจริงๆเหรอ ?

คิดอยู่ชั่วครู่ ก็ไม่รู้ว่าพิชญานั้นไปเข้าห้องน้ำจริงๆ หรือแค่หลอกๆ วารุณีก็ไม่ได้เก็บมันมาคิดต่อ ก้มหน้าลง แล้วลงสีในงานแบบของตัวเองต่อ

ถึงแม้ว่าพิชญาจะขอไปเข้าห้องน้ำหลอกๆ เธอก็ไม่เชื่อ ว่าเวลาสั้นๆเพียงสิบนาที พิชญาจะทำอะไรได้

หัวหน้าเอริคที่อยู่บนเวทีวางแบบของเธอทั้งสองคนไปบนหน้าจอขนาดใหญ่

ทันใดนั้น ทุกคนต่างก็ส่งเสียงร้องอุทาน

เห็นเพียงบนหน้าจอมีแบบสองแผ่นที่คล้ายคลึงกันมาก ยกเว้นแค่ที่ชายกระโปรงที่ต่างกันเล็กน้อย และสีของกระโปรงที่แตกต่างกันนอกนั้นก็คือเหมือนกันเกือบหมดทุกอย่าง

สถานการณ์แบบนี้ มีเพียงสาเหตุเดียวที่จะระบุได้อย่างชัดเจนว่า มีคนลอกเลียนแบบ

วารุณีโมโหจนแทบจะหักดินสอในมือทิ้ง สองมือกำเข้าหากันแน่น จนเล็บจิกเข้าไปที่เนื้อ

ไม่เลวนี่ ในที่สุดเธอก็รู้แล้วว่าทำไมพิชญาไปเข้าห้องน้ำกลับมา ถึงได้เปลี่ยนไป

ที่แท้ก็มีคนช่วยเขาขโมยงานแบบของเธอไปให้เขา !

“คุณสองคน มีใครบอกผมได้ไหม ว่าใครลอกแบบของใคร ? ” หัวหน้าเอริคที่อยู่บนเวที กวาดสายตามองไปที่วารุณีกับพิชญา แล้วถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยือก

ไม่รอให้วารุณีลุกขึ้นตอบ พิชญาก็ยกมือขึ้นแล้วพูดออกไปก่อน“หัวหน้าเอริค เธอลอกของฉันค่ะ”

วารุณีถึงกับหัวเราะลั่น ราวกับได้ยินเรื่องที่ตลกที่สุด มองไปยังพิชญาอย่างเหยียดๆ “ฉันลอกเธอ ? ตั้งแต่ฉันนั่งลงกับที่ ฉันก็ยังไม่ได้ลุกไปไหนเลย ขอถามหน่อยว่าฉันจะลอกเธอยังไง ?”

“นั่นสินะ”คนในห้องประชุมพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

และในคอมเม้นต์ของการถ่ายทอดสดก็มีข้อความมากมายที่ไม่เชื่อว่าวารุณีลอกแบบ

“นัทธี คุณวารุณีรู้สึกจะตกที่นั่งลำบากแล้ว”นวิยาที่ดูการถ่ายทอดสดอยู่ แววตามีประกายไหววูบ แต่ท่าทีก็ยังคงทำราวกับเป็นห่วงวารุณีอย่างมาก

“มีปัญหาอะไร?”นัทธีหยุดพิมพ์คีย์บอร์ดแล้วมองมาที่เธอ

เมื่อเห็นชายหนุ่มเป็นห่วงและใส่ใจวารุณีแบบนี้ สายตาของนวิยาก็เย็นเยือก มือที่ถือโทรศัพท์อยู่ก็กำแน่นขึ้น

แต่น้ำเสียงในการพูด ก็ยังคงความอ่อนโยนอยู่ “คือแบบนี้ คุณวารุณีกับอดีตคู่หมั้นคุณกำลังเถียงกันเรื่องลอกเลียนแบบ ผลงานการออกแบบในรอบชิงที่ส่งไปนั้น เหมือนกันอย่างกับก๊อบปี้วาง ที่ต่างกันก็มีเพียงแค่ที่ชายกระโปรงกับสี ”

“อะไรนะ?”นัทธีหรี่ตาลง แล้วแย่งโทรศัพท์มือถือของเธอมาทันที

ในที่เกิดเหตุ พิชญาเหยียดมุมปากอย่างดูถูก แล้วส่งเสียงหึออกมา“ทำไม คุณวารุณีหมายความว่า ฉันลุกออกไปจากที่นั่ง ก็คือฉันลอกแบบของคุณงั้นเหรอ? ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ