เสียงของเธอไม่ถือว่าดัง แต่ในโกดังที่เงียบผิดปกติ กลับดังขึ้นมาอย่างชัดเจน
ทุกคนต่างมองไปที่เธอ สายตาเต็มไปด้วยความสงสัยและไม่อยากจะเชื่อ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิชญา ตาขาวแทบจะกลอกไปถึงฟ้าแล้ว
นัทธีกลับไม่มีการแสดงออกใดๆ“คุณจะบอกว่า คุณสามารถเอาผ้าพวกนี้ไปเก็บเข้าที่ได้ ภายในหนึ่งชั่วโมงครึ่ง?”
“ฉันทำคนเดียวไม่ได้ค่ะ แต่ถ้าประธานนัทธีหาผู้ช่วยสองคนให้ฉัน……”
“เธอเนี่ยนะ?”วารุณียังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกพิชญาชี้หน้าใส่ตัดบทอย่างดูถูก “เธอที่ออกจากเรียนกลางคัน กลัวว่าองค์ประกอบของเสื้อผ้าคืออะไรยังไม่รู้เลยมั้ง แล้วมาพูดโม้อย่างไม่ละอายใจว่าเก็บผ้าพวกนี้เข้าที่ได้เนี่ยนะ?”
วารุณีทำเหมือนไม่ได้ยินเธอพูด เดินไปหานัทธี พอถึงตรงหน้าเขาก็หยุดลง มองเขานิ่งๆ“ประธานนัทธีเชื่อฉันไหม?”
นัทธีไม่พูดมาก“งั้นก็ฝากคุณด้วย”
วารุณีเพิ่งจะพยักหน้า พิชญาก็กระโดดออกมาอีกทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ“นัทธี คุณเชื่อจริงๆเหรอว่าเธอเก็บผ้าพวกนี้เข้าที่ได้?”
“ในเมื่อเธอกล้าพูดแบบนี้แล้ว ทำไมผมจะไม่กล้าเชื่อล่ะ?”นัทธีเหลือบมองเธอ แล้วพูดอย่างเย็นชา
พิชญารู้สึกสำลัก จากนั้นจึงกัดปากอย่างไม่พอใจ“แต่ว่าเธอไม่จบมหาวิทยาลัย และพวกเราดีไซเนอร์ในนี้มีใครบ้างที่ไม่ได้จบมหาวิทยาลัยชื่อดัง ผ้าบางอย่างพวกเขายังไม่เคยเห็น เธอจะรู้ได้ไง”
“ใช่ไหม?”นัทธีมองไปที่วารุณี
เขาไม่เชื่อว่าลูกศิษย์ของเมอร์เซเดอ จะไม่ได้จบแม้แต่มหาวิทยาลัย
วารุณียิ้มบางๆ ตอบอย่างสบายๆว่า:“ฉันเรียนไม่จบจากมหาวิทยาลัยในประเทศจริงๆค่ะ เพราะว่าเรื่องส่วนตัวจึงต้องออกกลางคัน แต่มหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศ ฉันไม่เพียงแต่เรียนจบอย่างประสบความสำเร็จ แต่ยังได้ใบประกาศนียบัตรมาด้วย ใช่สิ ฉันลืมบอกไปว่า ที่ฉันเรียนที่ต่างประเทศคือราชวิทยาลัยการออกแบบซาชิโอ”
ฮะ……
ทุกคนในที่นั้นต่างตกตะลึง
ราชวิทยาลัยการออกแบบซาชิโอ นั่นเป็นราชวิทยาลัยการออกแบบเสื้อผ้าชั้นนำของโลกเชียว ทุกปีรับนักเรียนแค่สามร้อยคน ดังนั้นเข้าไปได้ ต่างเป็นคนที่มีพรสวรรค์สุดๆ
คิดไม่ถึงว่าคนนี้จะเป็นหนึ่งในนั้น
ในเวลาอันสั้น สายตาที่ดีไซเนอร์พวกนี้มองวารุณีก็เปลี่ยนไป จากดูถูกเหยียดหยาม ก็กลายเป็นดูถูกอย่างมาก
แม้แต่นัทธีก็คิดไม่ถึงว่าวารุณีจะมาจากมหาวิทยาลัยนี้
พอเธอไป นัทธีก็ไล่คนอื่นออกไป เหลือเพียงแต่คนสองคนที่จะมาเป็นลูกมือให้วารุณีชั่วคราว
วารุณีก็ไม่เสียเวลาต่อไป ให้ผู้ช่วยสองคนเอาผ้าที่รู้จักไปเก็บก่อน จากนั้นเธอค่อยจัดการที่เหลือให้เสร็จ
หลังจากผู้ช่วยสองคนนี้ทำผ้าที่พวกเขารู้จักเสร็จ เวลาก็ผ่านไปสี่สิบนาทีแล้ว
วารุณีวางข้อมูลโครงการที่อยู่ในอ้อมแขนลง ค่อยๆเข้าไป มองดูผ้าร้อยกว่าผืนที่เหลือ ชี้ทีละอันแล้วพูดว่า“นี่คือผ้าฝ้ายผสมโพลิเอสเตอร์ นี่คือผ้าฝ้ายเทียม นี่คือผ้าซาติน นี่คือผ้าไหมแท้ ……”
แป๊บเดียว สิบนาทีก็ผ่านไป นัทธีพบว่าเธอได้เก็บผ้าหลายสิบผืนแล้ว
และเมื่อดูจากสายตาของผู้ช่วยสองคนนั้นที่เอาข้อมูลเข้าคลังมาเปรียบเทียบแล้ว และก็คอยอุทานออกมาตลอด ก็สามารถคาดการณ์ได้ว่า เธอเก็บเข้าที่ถูกหมด
นัทธีมองวารุณี สายตาค่อยๆกลายเป็นชื่นชม
บางทีเธออาจจะรับหน้าที่เป็นหัวหน้าดีไซเนอร์ของBath fire rebirthได้
“เอ๋?”เหมือนว่าจะเจอปัญหายาก ทันใดนั้นเองวารุณีก็ส่งเสียงสงสัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...