พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 247

“อะไรนะ?”วารุณีตะลึงงัน“ความลับเกี่ยวกับการตายของพ่อแม่ประธานนัทธี?”

“ถูกต้อง อารองกับอาสะใภ้รองของผมไม่ได้ตายอย่าง หลายปีมานี้ นัทธีสืบความจริงของการตายอารองกับอาสะใภ้รองมาโดยตลอด แต่ไม่เคยได้เบาะแสเลย และในมือของผมก็มีเบาะแสอยู่เล็กน้อย”นิรุตติ์กอดอกขึ้นมา มองเธอด้วยความพอใจ

วารุณีกัดริมฝีปาก เหมือนกำลังลังเล“พินัยกรรมที่ปู่ของพวกคุณทิ้งไว้ เนื้อหานั้นคืออะไร?”

ถ้าเกี่ยวกับด้านสมบัติ เธอยุ่งด้วยไม่ได้แน่

เหมือนจะอ่านความคิดของวารุณีออก สายตานิรุตติ์ก็สั่นคลอนเล็กน้อย เอามือสอดไว้ในกระเป๋ากางเกง“คุณวางใจเถอะ ไม่เกี่ยวกับบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ปแน่ เพราะว่าบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ปจัดสรรเรียบร้อยแล้วก่อนที่คุณปู่จะเสียไป ดังนั้นในพินัยกรรมไม่มีสมบัติอะไรเหลือไว้ เหลือไว้แค่ความลับเพียงอย่างเดียว”

“ความลับอีกแล้ว?”วารุณีขมวดคิ้วขึ้นมา

นิรุตติ์ที่ดูสบายๆก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเล็กน้อย“ใช่ ความลับอย่างหนึ่งที่สำคัญมาก ผมต้องได้มันมา แต่ว่าตอนที่คุณปู่เสีย ไม่ได้บอกใครว่าพินัยกรรมนั้นไว้ที่ไหน และผมก็บังเอิญรู้มาจากผู้ช่วยของคุณปู่ว่า มีพินัยกรรมอยู่”

ได้ยินดังนั้น วารุณีจึงหรี่นัยน์ตาดอกท้อที่สวยงามลง“จากที่คุณพูดแบบนี้ พินัยกรรมอันนั้น นอกจากผู้ช่วยของคุณปู่ที่รู้แล้ว ก็ไม่มีใครรู้ งั้นประธานนัทธีก็ไม่รู้แน่นอน คุณยังจะให้ฉันไปไปหาประธานนัทธีเพื่อรู้มาเกี่ยวกับพินัยกรรมนั้นอีก?”

“ง่ายมาก ความสัมพันธ์ของนัทธีกับคุณปู่นั้นดีที่สุด คุณปู่จะต้องใบ้เกี่ยวกับที่อยู่พินัยกรรมแก่เขาแน่ แค่นัทธีคิดให้ออกมาว่าคำใบ้นั้นคืออะไร ก็จะรู้ที่อยู่ของพินัยกรรมอย่างชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอ?”นิรุตติ์พูดด้วยรอยยิ้ม

ริมฝีปากบางๆของวารุณีขยับ ไม่พูด ผ่านไปสักพัก จึงพูดอีกครั้งว่า“คุณให้ฉันคิดก่อน”

“โอเค ผมให้เวลาคุณคิดหนึ่งวัน”ดวงตานิรุตติ์มีประกายแวบเข้ามา หัวเราะออกไป

หลังจากเขาไป วารุณีจึงเอนไปที่หลังเก้าอี้ ถูขมับอย่างปวดหัวเล็กน้อย

พูดตรงๆว่า เธอเองก็ไม่อยากไปยุ่งเรื่องของพวกเขาตระกูลไชยรัตน์

แต่ใครให้นิรุตติ์มาหาเธอ และเธอยังติดหนี้บุญคุณเขาอย่างใหญ่หลวงอยู่ล่ะ

“วารุณี”ตอนนี้เอง ปาจรีย์ถือภาพออกแบบบางอย่างเข้ามา

เธอเอาภาพออกแบบวางไว้ตรงหน้าวารุณี มองเธอ อ้ำๆอึ้งๆอยู่หลายครั้ง

วารุณียิ้มไปให้“อยากถามก็ถามเถอะ”

“งั้นก็ดี เธอพูดแล้วนะ”ปาจรีย์หายใจลึกๆ ถามไปว่า“อารัณกับไอริณ เป็นลูกของประธานนัทธีจริงๆเหรอ?”

วารุณีพยักหน้า ตอบอือ

ปาจรีย์สูดหายใจลึกๆด้วยความตกใจ“ไม่น่าล่ะอารัณหน้าเหมือนกับประธานนัทธีเป๊ะเลย ที่แท้พวกเขาก็พ่อลูกกัน แต่ว่ามันอะไรกันแน่ เธอกลับประเทศแล้วเพิ่งรู้จักประธานนัทธีชัดๆ ทำไมถึงไปมีอะไรกับเขาเมื่อห้าปีก่อนได้ล่ะ?”

เผชิญหน้ากับคำถามของเพื่อนรัก หลังจากวารุณีละสายตาลงแล้วเรียบเรียงคำพูดแล้ว ก็พูดที่มาที่ไปของเรื่องออกไป เริ่มพูดตั้งแต่ห้าปีก่อนที่เข้าห้องผิด

ยังไงปาจรีย์ก็ได้ยินหมดแล้ว ปิดบังไปก็ไม่มีความหมายอะไร

สองสามนาทีถัดมา หลังจากปาจรีย์ฟังทุกอย่างระหว่างวารุณีกับนัทธีจบ ก็ส่ายหน้าหงึกๆไปสองครั้ง“ที่แท้พวกเธอสองคนก็เป็นพรหมลิขิตกันนี่ ห้าปีก่อนนอนด้วยกันเพราะความผิดพลาดที่เกิดจากบังเอิญ ห้าปีถัดมาก็มาเจอกันอีกและได้รักกัน ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกันฟ้าดินต้องผิดหวังแน่”

ฟังเธอชมแบบนี้ วารุณีอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าอย่างผิดหวัง

แต่มีคำหนึ่งที่ปาจรีย์พูดถูก นั่นก็คือเธอกับนัทธี มีพรหมลิขิตต่อกันจริงๆ

เธอไม่เคยคิดเลยว่า ผู้ชายที่ตัวเองใจเต้นด้วยครั้งแรก จะบังเอิญขนาดนี้ เป็นพ่อของลูกทั้งสองคน

ปาจรีย์ลากเก้าอี้ตรงข้ามแล้วนั่งลงไป“วารุณี เธอคิดจะบอกประธานนัทธีเมื่อไหร่?”

วารุณีหยิบกระบอกเก็บความร้อนมา ดื่มไปคำหนึ่ง“ยังไม่รีบร้อน ไว้ค่อยพูด ถ้าต่อไปฉันกับเขาอยู่ด้วยกันอย่างมั่นคงจริงๆ ฉันก็จะบอกเขา ถ้าไม่ ฉันก็จะได้ดูลูกสองคนได้ทุกเมื่อ”

“ก็ใช่”ปาจรีย์พยักหน้า คิดว่ามีเหตุผล

บางทีวิธีนี้ก็ได้นี่หน่า ในเมื่อพินัยกรรมไม่เกี่ยวข้องอะไรเกี่ยวกับสมบัติ งั้นนัทธีก็น่าจะเห็นด้วยที่จะเอาตัวสำเนา ให้เธอไปชดใช้บุญคุณ

คิดไป วารุณีก็ยิ้ม

ตอนเย็น นัทธีพาเด็กสองคนมารับเธอ

วารุณีขึ้นรถไป ก็ส่งเสียงดังกับเด็กทั้งสองคนอยู่สักพัก จากนั้นมองชายหนุ่มที่ขับรถ“ประธานนัทธี วันนี้ฉันเจอผู้อำนวยการนิรุตติ์มาค่ะ”

“นิรุตติ์มาหาคุณ?”นัทธีขมวดคิ้วทันที

อารัณได้ยินคำว่านิรุตติ์สองคำนี้ แววตาก็มีประกาย ประกายแห่งความสงสัย

นั่นไม่ใช่ชื่อของคุณลุงเหรอ?

“ใช่”วารุณีพยักหน้าเล็กน้อย

“เขามาหาคุณทำไม?”นัทธีเงยตาขึ้น มองเธอผ่านกระจกมองหลัง

วารุณีสูดลมหายใจ กำลังจะตอบ จู่ๆก็มองเห็นอารัณที่จ้องตัวเอง จากนั้นจึงคิดได้ว่าเด็กคนนี้รู้จักนิรุตติ์

คิดแบบนี้ วารุณีจึงส่ายหน้า“เขามาหาฉันเพื่อบอกเรื่องที่สำคัญมากเรื่องหนึ่ง เดี๋ยวฉันค่อยคุยกับคุณ”

เห็นเธออยากจะพูด แต่จู่ๆก็ดูกังวลอะไร ริมฝีปากบางๆของนัทธีเม้มเข้า ไม่บังคับเธอ เงยคางขึ้นเห็นด้วย

แป๊บเดียว ก็ถึงคอนโด

นัทธีเอาเด็กสองคนให้ป้าส้ม จากนั้นพาวารุณีเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง“ตอนนี้จะพูดได้ยัง?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ