วารุณีพยักหน้า “แน่นอน แม้จะไม่ได้รู้จักอะไรกับจุ๊บแจงมากนัก แต่หลังจากที่ได้ปะทะกันมาอยู่หลายครั้ง ฉันว่าฉันรู้จักเขาดี เขามีความยึดมั่นถือมั่นในแบบเพี้ยนๆกับนัทธี เพราะนัทธีเป็นคนที่เขาเคยเห็น ว่าสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งรูปลักษณ์ ฐานะ ทุกอย่างล้วนตรงตามสเป็คของเขา ดังนั้นเขาจะต้องกลับมาเข้าร่วมการแข่งขันนี้เพื่อนัทธีอย่างแน่นอน เพราะการที่เขากลับมาเท่านั้น จะทำให้เขามีโอกาส ให้นัทธีได้เปลี่ยนมุมมองใหม่จากเขา ”
“ยังจะเปลี่ยนมุมมองใหม่อีก ประธานนัทธีไม่ได้ชอบเขาสักหน่อย ”ลีน่าพูดอย่างเย้ยหยัน
วารุณีหัวเราะ“ก็ใช่นะสิ ทุกคนต่างก็รู้ ว่านัทธีไม่มีทางชอบจุ๊บแจงได้ และมองออกว่าจุ๊บแจงเป็นคนยังไง แต่จุ๊บแจงก็เอาแต่หลอกตัวเอง มองไม่เห็นความจริงในเรื่องนี้”
“จริงๆเลย”ลีน่าพยักหน้าให้“ฉันว่ายัยจุ๊บแจงนี่คงดูนิยายประเภทประธานบริษัทอะไรพวกนั้นมากเกินไป คิดว่าคนเป็นประธานจะมาตกหลุมรักคนธรรมดาอย่างเขา ดังนั้นก็จึงเอาแต่คิดว่า ตัวเองเคยช่วยประธานนัทธี และประธานนัทธีก็จะตกหลุมรักเขา เพราะยังไงซะ นิยายแนวๆนี้มีเยอะแยะถมไป”
วารุณีขำพรืด “ใช่”
“ไม่แค่นี้นะ จุ๊บแจงยังรู้สึกว่า หากตัวเองได้เป็นนักออกแบบ มีชื่อเสียง ประธานนัทธีก็จะเห็นเขาอยู่ในสายตา ไม่รู้ว่าไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน คงอ่านนิยายน้ำเน่าพวกนั้นมากเกินไป คิดว่าตัวเองเป็นนางเอก ขอแค่นางเอกทำอะไรนิดๆหน่อยๆ ก็จะทำให้พระเอกชื่นชอบได้ล่ะมั้ง ? แล้วนี่วารุณี ฉันยังมั่นใจมากด้วยว่า จุ๊บแจงคงคิดว่าตัวเองเป็นนางเอก แล้วประธานนัทธีเป็นพระเอก ส่วนเธอก็เป็นตัวอิจฉา”
พูดๆอยู่ ลีน่าก็ขำก๊ากออกมา
วารุณีส่ายหัวให้อย่างระอา“พอเถอะ ช่างพระเอกหรือตัวอิจฉาอะไรนั้น ฉันรู้แค่ว่า คนที่อยู่แต่ในโลกของตัวเอง ไม่กล้าออกมาเผชิญกับโลกของความจริง ตั้งแต่แรกเริ่ม ก็ถูกลิขิตไว้แล้วว่าเอาชนะอะไรฉันไม่ได้หรอก”
“มันก็ใช่” ลีน่าพยักหน้าให้
วารุณีบีบไปที่ข้อมือ กำลังจะพูดอะไร จู่ๆก็เห็นเงาคนปรากฏขึ้นตรงหน้า ยกยิ้มมุมปาก “เห็นไหม เขากลับมาแล้ว ”
ลีน่ามองตามใบหน้าที่เธอพยักพเยิดให้ และแล้วก็เห็นร่างของจุ๊บแจงจริงๆ เบ้ปาก “เธอเดาถูก เขารนหาที่จริงๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นเราก็สงเคราะห์เขาหน่อยแล้วกัน”
“ในเมื่อเขากล้ากลับมา นั้นก็หมายความว่าเขาได้เตรียมใจรับกับผลที่จะเกิดขึ้นแล้ว และเขาเองก็รู้ ว่าเขาชนะเราไม่ได้ ดังนั้นฉันเดาว่า เขาจะต้องมีแนวทางป้องกันตัวเอง โดยการชิงลงมือก่อน ”วารุณีหรี่ตาลง พูดอย่างเย็นชา
“ไม่หรอกมั้ง?”ลีน่าประหลาดใจ
วารุณีพยักหน้าให้อย่างมั่นใจ“ เธอทำแน่ ดังนั้นลีน่า ต่อไป เธอต้องระวังตัวด้วยนะ ”
เมื่อลีน่าได้ฟังคำพูดที่จริงจังของเธอ ท่าทีก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที ตอบอืมกลับไปคำหนึ่ง“ได้ ฉันจะระวัง ”
“อืม ไม่ต้องพูดแล้ว การแข่งขันเริ่มขึ้นแล้ว”วารุณีพูดเตือน
พิธีกรได้นำเอาโจทย์ในครั้งนี้ขึ้นไปบนเวที และเริ่มประกาศกับผู้เข้าแข่งขันทุกคน
เมื่อได้ยินโจทย์ของการแข่งขันในครั้งนี้ หัวใจที่เต้นโครมครามของจุ๊บแจง ก็แน่นิ่งลงที่เดิม ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เพราะโจทย์ในครั้งนี้ เมื่อคืนเธอเพิ่งเห็นมันผ่านตา จากนั้นก็จดจำแบบนั้นเอาไว้
วันนี้ เธอแค่คัดลอกมันออกมาก็แล้วเสร็จ
เพียงแต่ว่า......
เมื่อคิดอะไรบางอย่างได้ จุ๊บแจงก็กำดินสอในมือแน่น เงยหน้าขึ้นมองไปยังที่นั่งของกรรมการผู้ตัดสินที่อยู่ด้านบน สายตามองสบเข้ากับวารุณีและลีน่า
จุ๊บแจงรู้ ว่าสองคนนี้รู้ดีว่าเธอลอกงานแบบของคนอื่นมา ดังนั้นครั้งนี้พวกเขาก็ต้องสงสัยอย่างแน่นอน ว่าเธอจะต้องลอกแบบมาอีก
ดังนั้นเธอจึงกลัวว่าเมื่อตัวเองวาดแบบงานเสร็จ จากนั้นสองคนนี้ ก็จะไปบอกกับทางผู้จัดงานว่า เธอลอกงานแบบมาแบบนี้คงมีปัญหาแน่ๆ
ดังนั้น ตอนนี้เธอควรวาดมันออกมาดีหรือไม่ ?
จุ๊บแจงลังเลและขบริมฝีปากแน่น
ที่นั่งของผู้ตัดสิน ลีน่าถามเสียงแผ่วเบาว่า “วารุณี เธอว่า เดี๋ยวเราเปิดโปงเขาเลยดีไหม?”
แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ตอนที่เธอเห็นมันบนอินเทอร์เน็ต ในแบบนั้นยังเขียนกำกับไว้ว่าภาพสเกต คนที่เข้าไปดูก็ไม่ได้มีเยอะมาก จะมีใครมาสังเกตเห็นง่ายๆแบบนี้ได้ยังไงกัน ?
ราวกับรู้ว่าจุ๊บแจงกำลังคิดอะไรอยู่ สุชาดายิ้มเยาะ“เธอไม่ต้องคิดมาก ฉันไม่เคยเห็นแบบชิ้นนี้มาก่อน แต่ตอนเช้าฉันได้ยินบทสนทนาของเธอกับวารุณี ฉันรู้ว่าเธอออกแบบไม่เป็น เข้าร่วมการแข่งขันนี้ได้ เพราะลอกแบบของคนอื่นมา ดังนั้นตอนนี้ ก็ย่อมต้องรู้ ว่าผลงานการออกแบบในมือเธอ ไม่ใช่ความคิดเธอเอง”
“เธอรู้จักวารุณี!” จุ๊บแจงถามเสียงสูง
สุชาดาพยักหน้า “แน่นอน ฉันไม่ใช่แค่รู้จัก เรายังเป็นเพื่อนตอนเรียนมหาลัยด้วย แต่ความสัมพันธ์ของเราไม่ค่อยจะดีกันสักเท่าไร อีกทั้งเรายังเป็นศัตรูกันด้วย ”
“ศัตรู?”จุ๊บแจงตะลึงงัน ความหวาดระแวงในใจ ก็ลดลงบ้างเล็กน้อย
สุชาดาเหยียดริมฝีปาก “ใช่ ฉันกับวารุณีเราเป็นศัตรูกัน วารุณีทำฉันที่เป็นนางแบบหน้าใหม่ ให้กลายเป็นนางแบบตกอับถ่ายนิตยสารเกรดต่ำ เธอทำลายอนาคตฉัน และทำลายชีวิตฉัน ความแค้นนี้ ฉันไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน ดังนั้นฉันจะแก้แค้นวารุณี ฉันจะให้เขาได้ลิ้มรส ทุกอย่างที่ฉันเคยได้เจอมา!”
มองดูแววตาอันเกลียดชังที่กัดกินถึงในกระดูกของสุชาดา จุ๊บแจงอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน
คนคนนี้ มีความแค้นกับวารุณีจริงๆ ความเกลียดชังนี้ ทำให้ผู้ที่พบเห็นถึงกับขนพองสยองเกล้า
“แล้วยังไง เธอมีความแค้นกับวารุณี จะมาบอกฉันทำไม?” จุ๊บแจงเหล่ตามอง แล้วถามหยั่งเชิง
สุชาดากักเก็บความเกลียดชังไว้ มือลูบคางแล้วสำรวจมองเธอ“ เธอกับวารุณีก็คงจะมีความแค้นกันด้วยหรือเปล่า ฉันได้ยินมันหมดแล้ว ดังนั้นศัตรูของศัตรูคือมิตร เรามาร่วมมือกันเป็นไง?”
“ร่วมมือ?”ดวงตาของจุ๊บแจงมีความประหลาดใจผาดผ่าน
สุชาดาพยักหน้า “ใช่ ร่วมมือ เรามาร่วมมือกัน เพื่อกำจัดวารุณี เธอก็รู้ว่าสถานะของวารุณีไม่ธรรมดา อยากจะจัดการกับเขาเพียงลำพังย่อมเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นต้องร่วมมือกันเท่านั้น ถึงจะมีโอกาส”
จุ๊บแจงไม่ได้พูดอะไร หลุบตาลงราวกับกำลังใช้ความคิดอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...