พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 118

ตอนที่ 118 มีความผิดอะไร

ซือถูจิ้งขบคิดครู่หนึ่ง จึงยิ้มขึ้นมาแล้วพูดว่า “ไม่ผิด ภรรยาหลวงกับอนุภรรยาที่มีความแตกต่างกัน หลิงหลงฮูหยินก็เป็นแค่เมียน้อย หลีโม่คือลูกสาวของภรรยาหลวง ถ้าหากข้ามีหลักฐานที่พวกนางผลักฮูหยินลงจากรถม้า อีกทั้งพวกนางยังเจตนาวางแผนลอบสังหารภรรยาหลวง หลีโม่ในฐานะที่เป็นลูกสาวของภรรยาหลวง ก็จะมีอำนาจลงโทษพวกนางได้ ส่วนระดับของการลงโทษนั้น ความหนักเบาของการลงโทษคงต้องเป็นไปตามที่ผู้พิพากษาพิจารณา ในตอนนี้ฮูหยินสูญเสียการมองเห็นอยู่ ได้รับบาดเจ็บหนัก เพียงแค่หลีโม่ไม่ได้ฆ่าพวกนาง ในทางกฎหมายยังถือว่าผ่านไปได้ง่ายอยู่”

กฎหมายของแคว้นต้าโจว เป็นเช่นนี้จริงๆ อนุภรรยาอยู่ในจวนก็เป็นเจ้านายเพียงครึ่งหนึ่ง จะต้องฟังคำสั่งของลูกสาวของภรรยาหลวงด้วยซ้ำ อีกทั้งห้ามด่าว่าฮูหยินด้วย

ในหมู่คนมากมาย หากภรรยาหลวงไม่ชอบหน้าอนุภรรยา ก็จะตีให้ตายไปไม่รู้เท่าไหร่ แค่หลิงหลงฮูหยิน ไม่นับเป็นอะไรได้

เพียงแต่หลิงหลงฮูหยินแสดงตัวเป็นฮูหยินใหญ่ในจวนมาหลายปี จึงลืมฐานะที่แท้จริงของตนไปนานแล้ว ไม่ใช่แค่นาง หลายคนต่างก็ลืมไปแล้วว่าฐานะนางคืออะไร ต่างก็คิดว่านางเป็นฮูหยินใหญ่ทั้งนั้น

นางมองไปที่หลีโม่ “คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเข้าใจเรื่องกฎหมายด้วย? สุดยอดจริงๆ”

เมื่อครู่สมองของนางมีแต่ใบไผ่ แต่เพียงได้เห็นว่าหลี่ซื่อรู้เรื่อง นางก็เข้าใจขึ้นมา หลีโม่รู้เรื่องกฎหมายไม่มากนัก อีกทั้งไม่มีเวลาไปอ่านด้วย เพียงแต่อ่านจากหนังสือเฉพาะทางที่หลี่ซื่อซ่อนเอาไว้

ดังนั้น เพียงแค่องค์รัชทายาทก่อเรื่องขึ้นมา เรื่องนี้หลิงหลงฮูหยินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์จากเหตุผลนี้

หลีโม่มองไปที่ซือถูจิ้งแล้วพูดว่า “องค์หญิง มีอีกคนหนึ่ง ท่านไปเชิญเขามาได้หรือไม่?” ถ้าหากมีคนนี้คอยช่วย เรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวลแล้ว

“ใครกัน?” ซือถูจิ้งเอ่ยถาม

“อ๋องหลี่ชินเพคะ” หลีโม่พูดชื่อออกมาช้าๆ

ซือถูจิ้งยิ้มขึ้นมาแล้วพูดว่า “พี่สาม”

เพราะต้องไปเชิญอ๋องหลี่ชิน พวกนางจึงต้องเสียเวลาไปกว่าครึ่งชั่วยามถึงค่อยกลับมาถึงจวนเฉิงเสี้ยง

อ๋องหลี่ชินไม่ได้ขึ้นรถม้ามาด้วย เขาบอกว่าจะตามมาทีหลัง

ประตูใหญ่ของจวนเฉิงเสี้ยงเปิดออก ตรงประตูมีรถม้าหลายคันจอดอยู่ และยังมีเกี้ยวของศาลาว่าการจอดอยู่ด้านหลังรถม้าที่คลุมไว้ด้วยผ้าไหมสีเขียว ดูเหมือนว่า เรื่องในคืนนี้จะใหญ่ไม่น้อย

ซือถูจิ้งที่เห็นเหตุการณ์ ก็หัวเราะออกมาอย่างเย็นชาก่อนจะพูดว่า “ดีจริงๆ แม้แต่เหลียงไถ้ฝู้ก็มาแล้ว”

แต่ดูเหมือนว่า องค์รัชทายาทจะสั่งให้คนไปแจ้งเฉิงเสี้ยงเสี้ยแล้ว เฉิงเสี้ยงเสี้ยกับเหลียงไถ้ฝู้ปรึกษางานราชการด้วยกัน จึงเข้ามาด้วยกัน

หลีโม่และพวกก็เดินเข้ามา ชุ่ยยุ่นกูกูที่อยู่ข้างๆ นายหญิงแก่ก็เดินขึ้นหน้ามา ถวายบังคมซือถูจิ้งก่อนจะหันไปพูดกับหลี่ซื่อและหลีโม่ “นายหญิงแก่เชิญฮูหยินและคุณหนูใหญ่ไปที่ห้องโถงเจ้าค่ะ”

หลีโม่ไม่แม้แต่จะสนใจชุ่ยยุ่นกูกู ประคองหลี่ซื่อข้ามธรณีประตูไป และเดินตรงไปยังห้องโถงใหญ่

ณ ห้องโถงของจวนเฉิงเสี้ยง โคมไฟจุดส่องสว่างไสว นายหญิงแก่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้โบราณ ส่วนเฉิงเสี้ยงเสี้ยนั่งอยู่ด้านขวา ส่วนองค์รัชทายาทเดิมทีก็มีเก้าอี้ประจำตำแหน่ง แต่เขากลับไม่นั่ง ให้คนประคองยืนอยู่ข้างๆ เหลียงไถ้ฝู้ ดูเหมือนจะวางมาดเหมือนกับที่เหลียงไถ้ฝู้ทำ

ส่วนทางด้านขวาของห้องโถง มีคนสองคนนั่งอยู่ ดูท่างทางแล้วคงจะเป็นพรรคพวกขององค์รัชทายาท

ซือถูจิ้งมองข้างกายของทุกคนต่างก็มีน้ำชาวางอยู่ มีเพียงนางที่เมื่อนั่งลงแล้ว แต่กลับไม่มีคนรับใช้ยกน้ำชามาให้ ดูเหมือนว่าจวนเฉิงเสี้ยงไม่มีสิทธิ์หลอกนางจริงๆ

ใต้เท้าเหลียงฟังคำพูดของฮูหยินแก่ จากนั้นก็ยกมือคำนับแล้วพูดว่า “ท่านฮูหยินไม่ต้องตำหนิตนเอง เรื่องนี้เป็นคดีทำร้ายคน ให้ศาลเป็นคนตัดสินคือเรื่องที่สมควรแล้ว ในเมื่อวันนี้องค์รัชทายาทและองค์หญิงอยู่ที่นี่ด้วย ใต้เท้าไถ้ฝู้ก็อยู่เช่นกัน จะได้ไม่ต้องไปถึงศาล ก็ไต่สวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนเสียที่นี่ แล้วหารือกันภายหลังว่าจะทำเช่นไร ไม่ทราบว่าองค์รัชทายาทคิดเห็นเช่นไร?”

องค์รัชทายาทพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ก็ต้องไต่สวนเรื่องราวกันที่นี่ ข้าไม่ไปที่ศาล เจ้าก็รีบไต่สวนเสีย ที่ท่านฮูหยินพูดมาทั้งหมดมันก็ถูกต้อง ควรจะลงโทษ ควรจะเข้าไปนอนในคุก เรื่องนี้ควรจะจบตั้งแต่คืนนี้ ไม่ควรพิลี้พิไลอีกต่อไปแล้ว”

องค์รัชทายาทรู้สึกมึนชาที่ขาทั้งสองข้าง แต่ก็นั่งลงไม่ได้ ในใจก็รู้สึกหงุดหงิดเต็มที หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้เขาคงไปนานแล้ว

ใต้เท้าเหลียงยกมือคำนับ “พ่ะย่ะค่ะ จะทรงทำตามพระประสงค์ของฝ่าบาท”

เข้านั่งลง ก่อนจะมองไปที่หลี่ซื่อ เขาไม่รู้ว่าหลี่ซื่อตาบอด เห็นแค่หัวของหลี่ซื่อถูกผ้าห่อรัดเอาไว้ ตำแหน่งที่ได้รับบาดเจ็บเหมือนกับหลิงหลงฮูหยินไม่มีผิด เขาที่รู้เรื่องกฎหมายดี ย่อมรู้ว่าเรื่องนี้จัดการยาก แต่ยังดีที่มีองค์รัชทายาทกับท่านลุงอยู่ คาดว่าคดีนี้คงไต่สวนได้ไม่ยาก

สายตาของเขาตกไปที่ใบหน้าของหลีโม่ แล้วพูดว่า “เสี้ยหลีโม่ ที่นี่ไม่ใช่ศาล ดังนั้นเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องคุกเข่าลง แต่ในระหว่างที่กำลังถาม เจ้าจะต้องยืนขึ้น”

เดิมทีเสี้ยหลีโม่ก็ยืนอยู่แล้ว พอได้ยินคำพูดของใต้เท้าเหลียง นางก็พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “หรือว่าใต้เท้าคิดว่าตอนนี้ข้านั่งอยู่อย่างนั้นหรือ?”

ใต้เท้าเหลียงเห็นนางอวดดีเช่นนี้ อีกทั้งยังมีองค์หญิงคอยปกป้อง ก็พูดอีกว่า “ดี ข้าถามเจ้าหน่อย หลิงหลงฮูหยินบอกว่านางถูกดึงผมไปชนกับก้อนหินที่อยู่ตรงประตูร้านยา อีกทั้งยังใช้กริชตัดนิ้วก้อยของนาง ต่อมายังทำร้ายคุณหนูรองเสี้ยโล่เยว่ของจวนเฉิงเสี้ยง เจ้ายอมรับความผิดนี้หรือไม่?”

หลีโม่พูดว่า “ไม่ผิด เป็นข้าเองที่ทำ แต่ว่าข้าขอถามใต้เท้าหนึ่งประโยค ข้าทำอะไรผิดหรือ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม