ตอนที่ 123 ให้พวกเจ้าสองแม่ลูกตาย
“นี่......” เขามองดูหลีโม่อย่างสงสัยและตกใจ กลับมาดูมีดสั้นอีกครั้ง ตัวหนังสือที่สักไว้บนมีดสั้น หากดูไม่ผิด เป็นคำว่ามังกร
เป็นไปได้ยังไง? มีดสั้นที่มีตัวอักษรมังกร ตกอยู่ในมือหลีโม่ได้ยังไง?
เฉินซือกับเสี้ยโล่เยว่โดนมีดนี้ทำร้าย ไม่เสียเปรียบเลย ไม่ตายก็บุญแค่ไหนแล้ว
ในหัวเขาที่คิดเรื่องต่างๆอยู่ก่อนมากมาย ล้วนวางไว้ก่อน หยิบมีดสั้นมา แล้วเดินไปยื่นให้หลีโม่อย่างให้ความเคารพ “คุณหนูใหญ่ ข้าเห็นว่า เรื่องในวันนี้เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด คุณหนูใหญ่อย่าได้ถือสา ข้ายังมีธุระ คอยตัวก่อนครับ”
พูดจบ ก็เดินจากไป โดยไม่สนใจองค์ชายรัชทายาท และไม่ได้กล่าวอำลาเสี้ยเฉิงเสี้ยง
เมื่อองค์รัชทายาทเห็นแล้ว ก็รีบให้องครักษ์มาประคองแล้วตามออกไป ข้าราชการสองคนที่เหลียงไถ้ฝู้พามาก็กลับไปแล้ว
เสี้ยโล่เยว่เห็นตอนที่องค์ชายรัชทายาทจากไปไม่ได้แลมองดูนางเลย ทั้งปวดใจทั้งโกรธเคือง จึงร้องไห้แล้วพูดขึ้นว่า “ท่านพ่อ นี่มันอะไรกัน? จะปล่อยให้นางทำร้ายพวกเราแบบนี้หรือ”
เสี้ยเฉิงเสี้ยงจ้องมองดูมีดสั้นในมือกลีโม่ พูดขึ้นอย่างใจลอยว่า “”ในเมื่อแจ้งความเรื่องนี้แล้ว ฟังไต้เท้าเหลียงก็พอ
สามารถทำให้เหลียงไถ้ฝู้ตกใจได้ขนาดนี้ มีดสั้นต้องมีที่มาไม่ธรรมดาแน่
ซือถูจิ้งพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “ไต้เท้าเหลียง เสี้ยหลีโม่มีความผิดไหม?”
ไต้เท้าเหลียงคุกเข่าอยู่บนพื้น “องค์หญิง คุณหนูใหญ่ไม่มีความผิด ไม่มีความผิด เฉินซือกับคุณหนูรองทำร้ายฮูหยินก่อน คุณหนูใหญ่เป็นบุตรสายเลือดตรงบริสุทธิ์ ลงโทษพวกนางได้ตามกฎหมาย ตามธรรมเนียมปฏิบัติ”
“งั้นเจ้ายังไม่รีบพาคนของเจ้าไสหัวไป?” ซือถูจิ้งพูดเสียงดัง
“ครับ ครับ” ไต้เท้าเหลียงไม่กล้าแม้แต่จะมองอ๋องหลี่ชิน รีบพาทหารของตนแล้วจากไป
เมื่ออ๋องหลีชินเห็นว่าคดีเสร็จสิ้นแล้ว ก็ไม่ได้อยู่ต่อ พูดกับซือถูจิ้งว่า “เสี่ยวกูกู พวกเราก็ไปกันได้แล้ว”
ซือถูจิ้งมองหลีโม่อย่างเป็นห่วง หลีโม่จึงพูดว่า “องค์หญิงกลับก่อนเถอะค่ะ วันนี้ขอบคุณท่านมาก”
ซือถูจิ้งพูดว่า “หากมีใครรังแกเจ้า ให้รีบสั่งคนไปบอกข้านะ”
คำพูดนี้ไม่ได้พูดให้หลีโม่ฟัง แต่พูดให้คนในจวนเฉิงเสี้ยงฟัง
หลีโม่พยักหัว แล้วยิ้มให้ซือถูจิ้ง
นายหญิงแก่ลากหน้ายาว ไม่พูดอะไร เสี้ยเฉิงเสี้ยงกลับจ้องมองมีดสั้นของหลีโม่อย่างเม่อลอย ไม่ได้สนใจว่าจ้วงจ้วงพูดอะไรบ้าง
เมื่ออ๋องหลี่ชินกับจ้วงจ้วงเดินออกมาถึงหน้าประตู จ้วงจ้วงถามขึ้นอย่างเป็นห่วงว่า “เหล่าซัน ถ้าพวกเราไปกันหมดแล้ว คนในจวนเฉิงเสี้ยงจะลงมือทำร้ายหลีโม่ไหม?”
นางใช้มือปัดผมด้านซ้าย มองดูอ๋องหลี่ชิน
อ๋องหลี่ชินมองดูนาง ยื่นมือดึงผมด้านขวาของนางให้ยุ่งเหมือนด้านซ้าย แล้วลูบใบหูของนาง “ลงมือ แต่หลีโม่ไม่ใช่ใครก็จะรังแกนางได้ง่ายๆ ที่หลานพูดในวันนี้ ล้วนเป็นเพราะนางสอน นางสอนข้าให้ไต่ถามยังไง”
“นางเป็นคนสอน?” ซือถูจิ้งมองเขาอย่างประหลาดใจ “ทำไมข้าไม่รู้?”
“ตอนนั้นนางคุยกับหลานอยู่คนเดียวไม่ใช่หรือ? ที่คุยก็คือพวกนี้ นางยังสนิษฐานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอีกมากมาย ล้วนจัดการไว้หมดแล้ว ที่จริง ไม่จำเป็นเลย แต่นางสามารถคิดได้รอบคอบขนาดนี้ แสดงให้เห็นว่านางมีสติรัดกุม คนในจวนเฉิงเสี้ยงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง ”
“แผนการของหลีโม่ช่างล้ำลึกนัก” ซือถูจิ้งรู้สึกไม่ชอบใจ “พวกเจ้ากีดกันข้าไปคุยกันสองคน”
“นั่นไม่ใช่กีดกัน เจ้าเองต่างหากที่บอกว่าจะไปทานของหวาน”
“วันนี้ที่ตั้งใจมาช้า ก็อยู่ในแผนการใช่ไหม?”
เสี้ยโล่เยว่ตะคอกใส่หลีโม่อย่างโกรธแค้นว่า “ข้าจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไว้แน่ ข้าจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไว้แน่”
หลีโม่ไม่แม้แต่จะมอง คำพูดนี้ หลิงหลงฮูหยินเคยพูดแล้วเมื่อตนอยู่ที่จวนหมอยา ถึงสุดท้ายไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ไม่ยอมปล่อยใคร?
เมื่อเสี้ยโล่เยว่ถูกพาตัวออกไปแล้ว นายหญิงแก่มองดูหลิงหลงฮูหยิน และพูดอย่างรังเกียจว่า “ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ สร้างแต่ความพ่ายแพ้ เจ้าก็ออกไป”
หลิงหลงฮูหยินกัดฟันมองดูเสี้ยเฉิงเสี้ยงอย่างน่าสงสาร น้ำเสียงสะอื้น “เฉิงเสี้ยง เรื่องนี้จะปล่อยไปแบบนี้แล้วหรือ?”
“ไม่งั้นเจ้ายังอยากทำยังไง? ออกไป” นายหญิงแก่ไล่นางอย่างกับไล่แมลงวัน
“เฉิงเสี้ยง” หลิงหลงฮูหยินยังไม่แล้วใจ มองดูเฉิงเสี้ยงอย่างอ้อนวอน “หากท่านไม่ช่วยข้ากับเสี้ยโล่เยว่ออกหน้า ข้ากับเสี้ยโล่เยว่จะอยู่ในจวนนี้ต่อไปยังไง?”
“ออกไปก่อน เรื่องนี้ข้ารู้ว่าต้องทำยังไง” ในที่สุดเสี้ยเฉิงเสี้ยงก็ค่อยๆพูดออกมา แต่สายตายังคงจ้องมองหลีโม่ ดวงตาฉายแววอารมณ์มากมายที่สับสนและไม่เข้าใจ
หลิงหลงฮูหยินโคตรไม่พอใจ แต่ก็รู้ว่าเรื่องคืนนี้ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว นางมองหลีโม่อย่างเกลียดชัง “เจ้าคิดว่า เจ้าจะสามารถทำอะไรก็ได้หรือ? เจ้าคิดว่าเจ้าจะได้เป็นพระสนมของอ๋องซือเจิ้งแน่หรือ? เจ้ารอดูไปเถอะ”
คืนนี้หลี่ซือไม่ได้พูดอะไรเลย ที่จริงก็แค่คนที่ไม่น่าสนใจ นางกลับพูดขึ้นว่า “เฉินหลิงหลง เจ้าเอาหูมานี่ ข้ามีเรื่องจะบอกเจ้า”
หลิงหลงฮูหยินมองนางอย่างเกลียดชัง แต่ก็อยากรู้ว่านางจะพูดอะไร จึงเงี่ยหูไปใกล้ หลี่ซือค่อยๆขยับปาก ใช้เสียงที่หลิงหลงฮูหยินสามารถได้ยินเพียงคนเดียว “หลีโม่มีคำหนึ่งที่ไม่สะดวกพูด ข้าจะบอกเจ้า ตั้งแต่วันนั้นที่เจ้ากับองค์ชายรัชทายาทบังคับนางแต่งงาน นางได้สาบานไว้ว่าจะทำให้พวกเจ้าสองแม่ลูกตาย”
หลีโม่ที่นางพูดถึง ไม่ใช่หลีโม่ที่ยืนอยู่ข้างตน แต่เป็นลูกสาวของนางที่ได้ตายจากไปแล้ว
หลิงหลงฮูหยินหัวเราะเย้ย “ใช่หรือ? จะรอดูว่าพวกเจ้ามีปัญญาไหม”
หลิงหลงฮูหยินมองหน้านางที่ยิ้มอยู่อย่างเจ้าเล่ห์ ในใจรู้สึกหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก หลี่ซือคนนี้ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่จะยอมอดกลั้นอดทนอีกต่อไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...