พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 157

ตอนที่ 157 ภูมิใจเพราะเจ้า

หลีโม่เดินตามหลังเขา โกรธจนกัดฟันกรอด อ๋องซื่อเจิ้งชอบพูดไม่เข้าใจ จากนั้นก็เปลี่ยนเรื่องไม่ให้ใครถามต่อ

สิ่งที่รับไม่ได้คือ คำพูดของเขาบางคำจริงบางคำปลอม เจ้าไม่มีทางแยกออกได้

ตลบตะแลง!

พอจัดการเรื่องของจื้นเฉิงเสร็จก็ถึงเวลาเกือบเที่ยง

เฉินหลิ่วหลิ่วเล่นกับพวกข้ารับใช้กว่าครึ่งวัน เหนื่อยแล้วฟุบนอนอยู่บนโต๊ะม้าหินอ่อน

ช่วงเวลานี้นางกับเซียวโธ่ไม่มีความคืบหน้าเลย ยังไม่ได้พูดอะไรกันอีก ความคืบหน้าเดียวคือนางสามารถเห็นเขาได้บ่อยๆ

เฉินหลิ่วหลิ่วพูดกับหลีโม่ว่า นางจะเข้าไปอยู่ในใจเซียวโธ่ช้าๆ ดังนั้นนางไม่รีบ

หลีโม่นับถือในตัวนางจริงๆ คิดว่านางคงจะอดทนสองสามวันไม่ได้พูดกับเซียวโธ่ก็จะยอมแพ้ ความอดทนของนางไม่ธรรมดาเลย ลูกคุณหนูธรรมดาคงไม่มีความอดทนเช่นนี้

เฉินหลิ่วหลิ่วน่ายกย่อง ความอดทนนี้ถ้าใช้กับที่อื่นคงจะมีความสำเร็จไปครึ่ง

ตอนที่พวกนางออกจวนมา ก็เห็นกุ้ยไท่เฟยกลับมาพอดี

นางเข้าวังกลับมา ทุกเดือนวันที่หนึ่งต้องเข้าวังไปเคารพไทเฮา เมื่อวานไม่ได้ไปเพราะเมื่อวานคนเข้าวังไม่มาก ดังนั้นนางก็เปลี่ยนเป็นวันนี้เข้าวังแทน

นี่คือช่วงเวลาที่หลีโม่เห็นกุ้ยไท่เฟยครั้งแรก

นางดึงเฉินหลิ่วหลิ่วทำความเคารพ “เคารพกุ้ยไท่เฟย”

กุ้ยไท่เฟยยืนตัวตรง มองดูเสี้ยหลีโม่ สีหน้านางเรียบเฉย สายตาสงบ แต่ความสงบนี้แปลกๆ

“พ่อเจ้าเชิญข้าให้มาร่วมพิธีงานแต่ง เจ้าช่วยไปบอกพ่อเจ้าหน่อยว่าข้าไม่ค่อยสบาย ก็ไม่ไปแล้ว แต่แม้ข้าไม่ไปก็มีของขวัญฝากไปให้”กุ้ยไท่เฟยพูด

“เพคะ ขอบพระทัยกุ้ยไท่เฟย”หลีโม่พูด สำหรับคนที่เคยคิดจะฆ่านาง แม้นางจะเกลียดมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

“เสี้ยหลีโม่”กุ้ยไท่เฟยกำลังจะเดินเข้าไปใกล้แต่ก็หยุดและพูดว่า “วันนี้ข้าได้ขออนุญาตฮองไทเฮาแล้ว พระราชโองการที่ได้รับราชทานงานแต่งสองวันนี้คงจะมาถึง”

หลีโม่อึ้งแต่ก็กลับพูดด้วยความเคารพนอบน้อมว่า “ขอบพระทัยฮองไทเฮาเพคะ”

กุ้ยไท่เฟยยิ้มอย่างเรียบเฉยและพูดว่า “ต่อไปเจ้าก็รู้เองว่าควรจะขอบคุณข้าหรือไม่”

พูดจบนางก็เดินจากไปทันที

เฉินหลิ่วหลิ่วพยุงหลีโม่ลุกขึ้นมา พูดด้วยความมึนงงว่า “ทำไมต่อไปต้องขอบคุณด้วย?เจ้าไม่ได้ขอบคุณนางจากใจจริงหรือว่านางไม่รู้เหรอ?”

หลีโม่ยิ้มพูดว่า “ใช่ข้าไม่ได้ขอบคุณนางจากใจจริง นางก็รู้ ทุกคนก็แค่พูดจาเป็นมารยาทเท่านั้น แต่คำพูดของนางคือกำลังเตือนถึงความอันตรายเมื่อแต่งงานไป”

เฉินหลิ่วหลิ่วแม้จะหยาบ แต่ก็รู้มาเยอะ “ถ้านางจะจัดการเจ้า พอเจ้าได้เป็นลูกสะใภ้นาง นางคงจะจัดการได้ง่ายกว่านี้”

ซือถูเย่ยืนอยู่ทางเดินมองดูทั้งสองคุยกัน

กุ้ยไท่เฟยเดินมาข้างเขา และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ตามคำขอเจ้า ข้าเข้าวังไปขอพระราชโองการให้แล้ว”

“ขอบพระทัย!”ซือถูเย่ยิ้มเล็กน้อย

“แม้ข้าจะไม่ไปครั้งนี้ จะช้าหรือเร็วนางก็จะให้พระราชโองการสั่งจัดงานแต่งอยู่ดี เจ้ารีบร้อนอะไรกัน?”กุ้ยไท่เฟยพูดอย่างไม่สบอารมณ์

ซือถูเย่ยืนอยู่หน้าราวไม้ ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ไม่เหมือนกันครับ นางเป็นลูกสะใภ้ที่ท่านแม่เข้าวังไปขอพระราชโองการคำสั่งมา เสด็จแม่ใหญ่ลงคำสั่งมาให้ท่านฝืนรับไป ใช่ไหมครับ?”

“ข้ารู้ว่าเจ้าเกลียดข้า แต่ว่าข้าก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรนางแล้ว ทำไมเจ้าต้องว่าแม่แท้ๆของเจ้าเช่นนี้ด้วย?”กุ้ยไท่เฟยพูดด้วยความน้อยใจ

ซือจู๋กูกูพูดไม่ออก เพราะนางดูแล้วก็เป็นการฝืนมาก แต่ว่านางก็หวังว่าเรื่องจะไม่เป็นไปตามที่ตัวเองคิดไว้

ซือถูเย่มองซือจู๋กูกูอยู่นาน “กูกูปีนี้เหมือนจะอายุห้าสิบกว่าแล้วนะ?”

“หกสิบแล้วล่ะ”ซือจู๋กูกูยิ้มแห้งและพูดว่า “ผมก็ขาวทั้งหัวแล้ว ตอนนี้แค่ย้อมเป็นสีดำน่ะ”

“กูกูอายุมากแล้ว น่าจะกลับบ้านเกิดได้แล้ว”ซือถูเย่พูด

ซือจู๋กูกูส่ายหัวพูดว่า “บ่าวไม่เคยออกห่างจากกุ้ยไท่เฟยเลย ชินกับการที่มีนางข้างตัวแล้ว”

“คนก็ต้องเรียนรู้การเปลี่ยนแปลง”

ซือจู๋กูกูสีหน้าเรียบเฉย นางเคยคิดจะออกไปหลายครั้งแล้ว แต่ว่านางไม่อยากปล่อยไปจริงๆ?

นางติดตามคุณหนูมาทั้งชีวิต เข้าวังเป็นข้ารับใช้ตั้งแต่เด็ก พอฮ่องเต้องค์ก่อนสวรรคตก็ได้เข้าวัง ทั้งชีวิตนี้ยวนานมาก แต่พอวันนี้นึกย้อนกลับไปดูแล้ว เวลาก็กลับผ่านไปอย่างรวดเร็ว

นางส่ายหน้าพูดว่า “ไม่แล้วเพคะ บ่าวก็ตายอยู่ในตำหนักดีกว่า”

นางไม่คิดว่าบางคำพูดก็เหมือนคำที่ทำนานไว้ล่วงหน้า

นางคุกเข่าลง “กูกูทั้งชีวิตนี้ไม่เคยขอร้องท่านอ๋องเลย แต่ว่าครั้งแต่กูกูขอล่ะ คิดเสียว่านางเป็นแม่ของท่าน ไม่ว่านางจะทำอะไร ก็อย่าทำร้ายถึงชีวิตนางเลย กูกูขอล่ะ”

“นางคิดจะทำอะไรอีก?”ซือถูเย่เหมือนดูออกว่าซือจู๋กูกูมีอะไรบางอย่าง

“ไม่มีเพคะ ไม่มีอะไร”ซือจู๋กูกูยิ้มแห้ง “ท่านอ๋องรักษาตัวดีๆนะเพคะ!”

นางลุกขึ้นมา มองดูซือถูเย่ที่ตอนนี้ทีอำนาจใหญ่โต นึกถึงตอนที่เขายังเด็ก เขาก็ชอบเล่นกับนาง นึกถึงตอนที่เขาเกิดมา หน้าตาบู้บี้ ชีวิตน้อยๆที่อยู่ในอ้อมกอดนางตอนนั้น วันนี้กลายเป็นผู้ใหญ่แล้ว โตเป็นคนที่นางคิดไว้

“ทั้งชีวิตของกูกู ภูมิใจกับเจ้าจริงๆ”ซือจู๋กูกูพูดจบมองดูเขาด้วยสายตาที่อ่อนโยน จากนั้นก็หันหลังเดินออกไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม