พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 158

ตอนที่ 158 ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ย

ซือถูเย่มองดูสีหน้าที่สิ้นหวังของซือจู๋กูกู ในก็กังวล “มีคนไหม!”

“ครับ!”ทหารรีบวิ่งเข้ามา

“ดูกุ้ยไท่เฟยไว้ให้ดี มีอะไรแปลกๆก็มารายงานข้าทันที”ซือถูเย่ออกคำสั่ง

“ครับ!ทหารรับคำสั่งและวิ่งออกไป”

วันอังคารเดือนแปด เวลาภพค่ำ

พรุ่งนี้งานมงคลของเฉิงเสี้ยงแห่งต้าโจวเสี้ยห่วยจุนกับซีเหมินเสี่ยวเยวี่ย

กฏหมายของต้าโจวคือ《กฏของการแต่งงานชายหญิง》ชายต้าโจวมีภรรยาเอกได้คนเดียว ถ้ามีภรรยาเอกเทียบเท่าแม้จะมีศักดิ์เป็นภรรยาเอกแต่ฐานะก็จะเทียบเท่ากับอนุภรรยา

ดังนั้นภรรยาเทียบเท่าที่ว่านั้น ก็เป็นแค่เรียกเพราะเคารพคนผู้นั้น แต่ในทางกฏหมายก็ยังคงเป็นอนุภรรยา

เหตุนี้ส่วนมากเวลาแต่งภรรยาเทียบเท่า กฏธรรมเนียมการแต่งก็จะต่างกันออกไป เริ่มแรกจะใส่เสื้อแดงฉูดฉาดไม่ได้ ต้องเปลี่ยนเป็นสีชมพูหรือสีอื่นที่ใกล้เคียงกับสีแดง ข้อสองเกี้ยวจะจอดไว้หน้าประตูใหญ่ไม่ได้ต้องจอดไว้ข้างประตูใหญ่ ใช้ประตูใหญ่ก็ได้แต่จะไม่สามารถปูพรมแดงได้ จะจุดประทัดยาวจากหน้าประตูไม่ได้ ข้อสามภรรยาเทียบเท่ายังต้องไปยกชาให้ภรรยาเอก งานแต่งถึงจะสมบูรณ์

แต่ว่าซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยวันที่หนึ่งเดือนแปดนั้นได้รับการแต่งตั้งจากฮองไทเฮาได้เป็นก้าวหมิงฮูหยินหนึ่งอัตรา เพราะมีการแต่งตั้งดังนั้น นางขอตอนงานแต่งว่านางต้องเข้าทางประตูใหญ่ ทำตามการแต่งภรรยาเอกทุกขั้นตอน ต้องปูพรมแดงและก่อนเข้าจวนต้องจุดประทัดยาวไม่ใช่ประทัดสั้น

และนางจะต้องใส่มงกุฎนกยูงทองมีพลอยสีแดงประดับ นั่งเกี้ยวที่มีคนยกแปดคน

อีกอย่าง นางบอกว่าหลี่ซื่อมีดวงไม่ดีที่มีผลไม่ดีต่อนางได้ วันแต่งหลี่ซื่อต้องไม่อยู่ในจวน และคุณหนูใหญ่หคุณหนูรองของเฉิงเสี้ยงต้องคุกเข่ายกชาและเรียกนางว่าท่านแม่ ต่อหน้าแขกที่มางานทุกคน

พูดอีกอย่างก็คือ นางจะใช้ตำแหน่งเฉิงเสี้ยงฮูหยินเข้าอยู่ในจวนเฉิงเสี้ยง

เสี้ยโล่เยว่ก็ช่างเถอะ เพราะนางเกิดจากอนุภรรยา ยกน้ำชาให้ภรรยาเทียบเท่าและเรียกว่าท่านแม่ ก็ไม่มากเกินไป

แต่ว่าเสี้ยหลีโม่เป็นลูกที่เกิดจากภรรยาเอก แม่นางเป็นฮูหยินในบ้านใหญ่ของจวนเฉิงเสี้ยง มีแม่ที่ดูแลทั้งหมดในจวน ตามธรรมเนียม นางไม่ต้องยกน้ำชาให้ภรรยาเอกก็ได้และไม่ต้องเรียกนางว่าท่านแม่ เพราะลูกสาวคนโตที่เกิดจากภรรยาเอก มีศักดิ์ใหญ่กว่าอนุภรรยา รวมไปถึงภรรยาเทียบเท่า

ยังมีอีกทางคือ ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยสั่งให้คนดูโหวงเฮ้งจวนเฉิงเสี้ยง คิดว่านางพักในลานเสี้ยจื้อจะดีกว่า แต่เพราะตอนนี้ลานเสี้ยจื้อมีความพังชำรุด พอแต่งไปแล้วนางจะอยู่ในลานของหลิงหลงฮูหยินก่อน แต่ต้องเปลี่ยนชื่อเป็น“เรือนว่างเยวี่ย” รอลานเสี้ยจื้อปรับปรุงเสร็จ นางค่อยย้ายเข้าไปอยู่ และป้ายเรือนว่างเยวี่ยก็จะไปแทนลานเสี้ยจื้อแทน

นางมีตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้ง มีกฏหมายอยู่โทนโท่ ที่นางขอมาทั้งหมดก็ต้องครุ่นคิดให้ดี

ทุกอย่างต้องดูว่าจวนเฉิงเสี้ยงจะยอมไหม

“อืม เจ้าเป็นเด็กฉลาด ยายไว้ใจเจ้าอีกอย่าง ซูหลิงหลงคนผู้นี้แม้เฉิงเสี้ยงจะรังเกียจ แต่วันนี้ยังไม่ถูกขับไล่ออกไป เสี้ยโล่เยว่กำลังจะแต่งงานกับรัชทายาท ซูหลิงหลงอาจจะมีโอกาสได้เป็นใหญ่อีกครั้ง เจ้าต้องระวังให้ดี อย่าให้นางได้มีโอกาส เจ้าต้องรู้ว่าคนๆหนึ่งถ้าตายไปแล้วถึงจะเรียกว่าหมดสิ้นอำนาจ”

“งั้นท่านยายคิดว่า จัดการซูหลิงหลงก่อนหรือหลี่ซื่อก่อน?”ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยถาม

“ซูหลิงหลงตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไร แต่หลี่ซื่อกับเสี้ยหลีโม่กลับกำลังไปได้ดี ถ้าไปจัดการพวกนางก็ไม่มีอะไรดี อีกอย่างอาจจะถูกคนอื่นหลอกใช้ได้ จัดการซูหลิงหลงก่อน ส่วนหลี่ซื่อ ชื่อเสียงของนาง เฉิงเสี้ยงอยากจะทำลายหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ นางเป็นคนฉลาด ลูกสาวนางก็จะประมาทไม่ได้ แต่ว่ามีคนหนึ่งที่หลอกใช้ได้”

“ใครเจ้าคะ?”ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยแม้จะยังไม่แต่งไป แต่ชื่อเสียงของหลี่ซื่อนางก็พอได้ยินมาบ้าง หญิงเช่นนี้ไม่ควรมีชีวิตอยู่บนโลก อย่างน้อยจะให้นางมาขวางทางตัวเองไม่ได้

“อ๋องอานชิง”นายหญิงแก่ไอและพูดต่อว่า “อ๋องอานชิงหลงรักหลี่ซื่อหัวปักหัวปลำ ตอนนี้ยังไม่แต่งงาน ตาเจ้ากับอ๋องอานชิงก็มีไปมาหาสู่กันบ้าง อาจจะบอกเรื่องหลี่ซื่อในจวนให้เขารู้ก็ได้ ตอนที่เจ้าจัดการซูหลิงหลงก็แกล้งทำเป็นดีกับหลี่ซื่อ เป่าหูหลี่ซื่อเรื่องอ๋องอานชิงให้นางหวั่นไหว”

ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยส่ายหัว “หลานคิดไม่ออกว่าจะตีสนิทกับนางยังไง ข้าไม่ชอบหลี่ซื่อ และคำขอของพวกเรา ข้าเข้าจวนต้องไม่มีนางอยู่ในจวน หลังจากนั้นค่อยทำดีด้วย นางจะเชื่อได้อย่างไร?”

สีหน้าของนายหญิงแก่มีความอ่อนโยน “เมื่อกี้ยังบอกว่าเจ้าฉลาดอยู่เลย คราวนี้กลับมาโง่เช่นนี้อีก พรุ่งนี้ไม่อนุญาตนางอยู่ในจวน เพื่อให้นางรู้ว่าเจ้ามีอำนาจแก่ไหน ส่วนแกล้งตีสนิท ไม่ใช้ไปทำดีกับนาง แค่ไม่ทะเลาะกันจนมองหน้าไม่ได้ เจ้ากันก็พูดคุยกัน พูดจนหลี่ซื่อหวิ่นไหวก็ดี ถ้าไม่หวั่นไหว อย่างน้อยก็ให้นางรู้สึกผิด ต่อไปพวกเราจะได้ทำงานสะดวก?”

ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยคิดแล้วก็พูดว่า “หลานไม่ได้หลงตัวเองว่ามีตำแหน่งสูงส่ง แต่หลี่ซื่อไม่คู่ควรให้หลานไปทำดีด้วย คนผู้นี้แม้จะมีชื่อเสียง แต่ข้าดูแล้วกลับเป็นแค่ชื่อ หลายปีมานี้กลับถูกซูหลิงหลงทับไว้ ดูแล้วนางก็ไม่มีอะไรน่ากลัว”

นายหญิงแก่พูดว่า “เจ้าพูดเช่นนี้ไม่ถูกต้องนะ ชื่อเสียงของหลี่ซื่อแม้จะผ่านไปเป็นสิบปี ภายในใจทุกคนนางก็ยังมีชื่อเสียงอยู่ดี นางมีความสามารถเฉพาะตัว อย่างน้อยข้อนี้เจ้าก็ทำไม่ได้ แม้ชื่อเสียงเจ้าจะใหญ่โต แต่กลับได้มาเพราะตาที่ตายไปของเจ้า ไม่เหมือนคนอื่น ถ้าเจ้าภูมิใจนักคงต้องแพ้ให้นางแน่”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม