พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 191

ตอนที่ 191 คำเรียกขาน

นายหญิงแก่อยู่ที่วิหารเซียวเซียง หลานหยู้กูกูก็นำหลี่ซื่อและหลีโม่ไปยังวิหารเซียวเซียง

โคมไฟสีแดงถูกแขวนขึ้นที่หน้าประตูของวิหารเซียวเซียง เป็นการประชดกับทุกคนว่า วันนี้เป็นวันมงคลของเสี้ยเฉิงเสี้ยง

ถึงแม้วันนี้จะเกิดเหตุการณ์มากมายมีการทำร้ายคน มีการเสียชีวิต แต่ก็ไม่สามารถจะทำลายความสุขของเสี้ยเฉิงเสี้ยงในคืนนี้ได้

ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยและเสี้ยเฉิงเสี้ยงนั่งด้วยกันที่ห้องโถงของวิหารเซียวเซียง ต้องการจะเรียกหลี่ซื่อมา ก็เป็นความคิดของนาง

นางเริ่มรู้สึกว่า ถ้าวันนี้ให้หลี่ซื่อออกไป จะเป็นการตัดสินใจที่ผิด นางควรจะให้หลี่ซื่ออยู่ในจวนต่อ ให้นางได้สัมผัสกับภาพที่สามีตนเองแต่งภรรยาใหม่

นางจะต้องการบอกหลี่ซื่อด้วยตัวเอง ว่าเจ้านั้นอายุมากแล้ว ควรจะสละตำแหน่งได้แล้ว

นางรู้ดีว่าปัจจุบันนี้หลี่ซื่อนั้นตาบอด นางไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตนเอง เมื่อครู่มีหมอหลวงมาตรวจ บอกว่าใบหน้าของนางถึงแม้จะยังคงมีรอยแผลเป็น แต่ในวังนั้นมียารักษาคุณภาพดีที่สามารถลบริ้วรอยได้

ดังนั้น นางก็เลยวางใจ และสงบใจขึ้น และนั่งลงบนเก้าอี้ เพื่อรอการมาของหลี่ซื่อ

รอศัตรูหัวใจเพียงคนนี้คนเดียวในชีวิตของนาง

ก่อนหน้านี้นางไม่เคยเห็นหลี่ซื่อ แต่เคยได้ยินกิตติศัพท์ของหลี่ซื่อ ตอนที่ได้ยินเรื่องราวนั้น มันเกี่ยวข้องกับเรื่องของจวนเฉิงเสี้ยง ก็รู้สึกว่าชีวิตผู้หญิงคนนี้น่าเศร้า

แต่ว่า ตอนนี้นางคิดว่า ความน่าเศร้าของหลี่ซื่อ เป็นเพราะหลี่ซื่อทำมันขึ้นมาเอง

เมื่อเห็นมีคนเดินเข้ามา นางก็จัดระเบียบตัวเอง เอามือมาจัดผมให้เรียบ ถึงแม้หลี่ซื่อจะมองไม่เห็น แต่นางก็อยากจะพบหน้าหลี่ซื่อด้วยท่าทางที่เพียบพร้อม

แต่ทว่า เมื่อนางเห็นเสี้ยหลีโม่ประคองหลี่ซื่อเข้ามาเท่านั้นแหละ สีหน้าที่หยิ่งผยองของนางก็ค่อยหายไป สุดท้าย สีหน้ากลับซีดเซียวขึ้นมา

นางไม่เคยคิดเลยว่า หลี่ซื่อจะมีรูปโฉมเช่นนี้ ถึงแม้ตอนวัยหลี่ซื่อจะสวยแค่ไหน แต่ถึงอย่างไรก็อายุ30ปลายๆแล้ว ทั้งยังใช้ชีวิตอย่างถูกลืมในจวนแห่งนี้ นางควรที่จะทั้งซีดทั้งผอมแล้วก็ผมขาวหงอกเสียมากกว่า

แม่ของนางและหลี่ซื่ออายุห่างกันไม่กี่ปี สองปีมานี้แม่ของนางเริ่มมีผมหงอกขึ้นที่จอนผม อีกทั้งตีนกาที่เริ่มชัดขึ้น ผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อย แต่ตอนสาวๆ แม่ของนางก็สวยมาก

นางคิดว่า หลีซื่อจะดูแก่มากกว่าแม่ของตน

แต่ว่า ตามที่เห็นหลี่ซื่อใส่เสื้อผ้าสีเรียบๆพื้นๆ มัดผมขึ้น เส้นผมยังดกดำ ประดับเพียงแค่ปิ่นหยกที่เรียบง่าย แทบจะไม่แต่งหน้า มองจากระยะห่างจากที่นางนั่ง มองไม่เห็นรอยตีนกา ใบหน้าคมชัด ทุกสัดส่วนพอดีกันมาก ราวกับเป็นหยกงามที่สวรรค์ตั้งใจสรรค์สร้างขึ้นมา

ไม่ต้องพูดถึงนางมีแผลไฟไหม้ ถึงแม้ไม่มีแผล ตอนที่สวยที่สุด ก็ยังสู้ความงามของหลี่ซื่อไม่ได้แม้แต่เศษเสี้ยว

นางมองไปยังเสี้ยเฉิงเสี้ยง และเห็นว่าเขาก็กำลังมองไปที่หลี่ซื่อ แววตามีนัยยะ

แรงอิจฉาริษยาเติบโตขึ้นในใจนาง ในตอนนั้นเอง มีเสียงที่ส่งผ่านออกมาจากใจนางว่า “หลี่ซื่อต้องไม่มีชีวิตอยู่ หลี่ซื่อจะต้องตาย หญิงสาวที่งามเช่นนี้ ไม่มีชายใดที่จะไม่ตกหลุมรัก”

หลีโม่เห็นความร้ายกาจภายใต้สายตาของซีเหมินเสี่ยวเยวี่ย แล้วก็ค่อยๆขมวดคิ้วขึ้น

หลีโม่เดินมาข้างหน้าของนายหญิงแก่ แล้วพูดว่า “นายหญิงแก่ ข้าจำได้ว่าท่านเคยรับปากว่า ท่านจะเอากุ้ยหยวนให้ข้า”

นายหญิงแก่ไม่ได้ตอบหลีโม่ เพียงแต่มองไปที่หลี่ซื่อ “ซ่วยหยุ่น พวกเราสะใภ้และแม่สามี ไม่ได้คุยกันนานแค่ไหนแล้ว? เจ้าจะคุยกับคนแก่อย่างข้าได้มั้ย?”

นายหญิงแก่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ดูเหมือนว่า ในใจของคุณหนูใหญ่อย่างเจ้า ทั้งย่าและพ่อของเจ้ากลายเป็นตัวอันตราย จนทำให้คนผิดหวังไปเสียหมดแล้ว”

“นี่เรียกว่าผิดหวังแล้วหรือ? ” หลีโม่ยิ้มขึ้น แต่สายตายังคงมองอย่างเฉียบคม “ถ้าเทียบกับหลานแล้ว ท่านย่าก็คงจะไม่รู้ว่าอะไรคือความผิดหวังที่แท้จริง”

นายหญิงแก่ส่ายหัว “ก็ได้ เจ้าอยากเข้ามาก็เข้ามา แต่ว่า แต่ถ้าเจ้าอยากให้กุ้ยหยวนอยู่ที่ลานเสี้ยจื้อของเจ้าละก็ ทางที่ดีเจ้าต้องให้ข้าได้พูดกับแม่เจ้าสักหน่อย ข้ารับรองว่า จะไม่ทำร้ายแม่เจ้าแน่นอน”

หลี่ซื่อพูดขึ้นว่า “หลีโม่ ไม่ต้องเป็นห่วงแม่ ดูเหมือนว่าเฉิงเสี้ยงและฮูหยินใหม่น่าจะมีอะไรจะคุยกับเจ้า พวกเราก็นั่งลงคุยกันดีๆเถิด ถึงอย่างไร พวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ”

คำสุดท้ายที่หลี่ซื่อพูด พูดแบบยิ้มๆออกมา ไม่ได้ประชด

หลีโม่เห็นหลี่ซื่อพูดเช่นนี้ คิดว่านายหญิงแก่คงยังไม่กล้าลงมือทำอะไรตอนนี้ ก็เลยพูดว่า “ถ้าเป็นเช่นนี้ พวกเรามั้งหมดก็มานั่งลงคุยกันดีๆ”

พูดจบ สายตาที่เฉียบคมของนางก็กวาดมองไปที่หน้าของหลานหยู้ หลานหยู้ไม่กล้ากำเริบเสิบสานอีก แล้วก็เดินเข้ามาประคองหลี่ซื่อเข้าด้านใน

หลีโม่มองไปที่เฉิงเสี้ยงและซีเหมินเสี่ยวเยวี่ย ทั้งสองนั่งในตำแหน่งเจ้าบ้าน วางมาดเป็นใหญ่กว่าผู้น้อย

“นั่งลงเถอะ! ” เสี้ยเฉิงเสี้ยนผายมือไปทางเก้าด้านซ้าย สีหน้านิ่งเฉย

หลีโม่ก็นั่งลง แล้วเงยหน้าที่เต็มไปด้วยสายตาความรังเกียจ “ไม่ทราบว่าท่านเฉิงเสี้ยงเรียกหาข้า มีเรื่องอะไร?”

เฉิงเสี้ยงส่งเสียง เหอะ “ตอนนี้แม่แต่คำว่าพ่อ ก็ยังไม่อยากจะเรียกแล้วเสียแล้ว”

มือของหลีโม่กำลังหมุนกำไลสะกดจิต ทนต่อความโกรธภายในใจไม่ได้ “มันก็เป็นแค่คำเรียกขานเท่านั้น ท่านเฉิงเสี้ยงไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม