ตอนที่ 212 นายทหารที่คลุ้มคลั่ง
พอฟังซูชิงพูดจบ หลีโม่ก็รู้สึกเสียใจมากขึ้นไปอีก
นี่เป็นชายหนุ่มที่มีความมุ่งมั่น อุดมการณ์ความคิดและความรัก แต่น่าเสียดาย ที่เขายังไม่ได้แสดงความมุ่งมั่นความปรารถนา
“ข้าได้ยินพวกเจ้าพูดว่า คนที่ถูกกัดจะเสียชีวิต”หลีโม่เก็บกลั้นความเสียใจละพูดขึ้นเสียงเบา “หากวินิจฉัยออกมาว่านายทหารคนนี้ติดเชื้อไวรัส ถ้าอย่างนั้น ข้าก็จนปัญญา ตอนนี้ในสมองของข้าแทบคิดอะไรไม่ออกมันตันไปหมด”
ซูชิงกุมขมับอย่างกลุ้มใจ นัยน์ตามีเส้นเลือด และพูดจขึ้นด้วยความโกรธ “เจ้าจนปัญญา?พวกเราอุตส่าห์นำเขากลับเมืองหลวงมาอย่างยากลำบากแต่เจ้ากลับบอกว่าไม่สามารถช่วยเขาได้อย่างนั้นเหรอ? เขาพึ่งจะอายุสิบเก้า จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้แต่งงาน พ่อและพี่ชายของเขาก็ตายในสนามรบ ตระกูลของเขาก็มีแค่ชายคนเดียว ถ้าหากเขาตาย ตระกูลของเขาก็จะไม่มีใครสืบทอด”
หลีโม่เงียบลง “ขอโทษนะ”
ซูชิงยกมือขึ้น แสยะยิ้มขึ้นแล้วจ้องไปยังหลีโม่พลางพูดขึ้นว่า “เป็นเพราะว่าเขาเป็นนายทหารเล็กๆนายหนึ่งอย่างนั้นเหรอ?เจ้าถึงไม่อยากช่วยเขา ใช่ไหม?ตอนนั้นอ๋องเหลียงกับท่านอ๋องบาดเจ็บสาหัส แทบจะไปหายมบาลแล้ว เจ้าใช้เวลาครู่เดียวก็สามารถช่วยพวกเขากลับมาแต่ตอนนี้เจ้ากลับมาบอกข้าว่าเจ้าช่วยคนๆเดียวไม่ได้อย่างนั้นหรอ?”
ซือถูเย้นหันไปพูดกับเซียวโธ่ “เจ้าพาเขาออกไปสงบสติอารมณ์”
เซียวโธ่ใช้มือหนึ่งข้างอุ้มซูชิง แล้วสาวเท้ายาวๆ แล้วโยนเข้าลงไปที่ถังน้ำในสวนเสียงดังตู้ม “เจ้าช่วยสงบสติอารมณ์หน่อยได้ไหม”
ซูชิงโกรธจนแทบจะลุกขึ้นมาสู้กับเซียวโธ่ ซือถูเย้นรำคาญใจมาก จึงเอ็ดเสียงดัง “ซูชิง เจ้าหยุดโวยวายได้รึยัง?เจ้ามาโวยวายที่นี้ก็ไม่ช่วยทำให้อะไรมันดีขึ้น?”
ซูชิงเห็นซือถูเย้นที่โมโหอย่างหนัก จึงค่อยๆลดกำปั้นลง มองไปยังนายทหารใหม่ด้วยสายตาอ่อนแรง แล้วจึงวิ่งหนีหายไป
เซียวโธ่วิ่งตามไปทันที
ในใจของหลีโม่ก็เสียใจมากเหมือนกัน ที่นางมาอยู่ในหน่วยลับได้ เป็นเพราะผู้บัญชาการได้แบ่งกลุ่ม นางเป็นทหารหญิงติดตามอยู่แล้วเป็นแค่แพทย์ทหารของหน่วยพิเศษ
เพราะฉะนั้น นางจะมีความอ่อนไหวกับทหารเป็นพิเศษ ถึงจะไม่ชอบการทหารในยุคปัจจุบัน แต่ความรู้สึกนี้กลับไม่มีลดน้อยลงเลย
ซือถูเย้นสั่งให้คนนำร่างของนายทหารย้ายกลับไปยัง หลีโม่นั่งลงล้างมือข้างๆบ่อน้ำ เขาเดินมา “เจ้าจนปัญญาจริงๆหรอ?”
หลีโม่ฟังออกว่าเขามีความผิดหวัง หรืออาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาช่วยกันนำคนมาอย่างยากลำบากและในใจยังคงมีหวังว่านางจะสามารถรักษาหายได้
หลีโม่ยืนขึ้นมามองเขา แล้วส่ายหน้าเบาๆ เปล่งด้วยน้ำเสียงอันหนักอึ้ง “ขอโทษนะ”
ซือถูเย้นไม่พูดอะไร เดินหันหลังจากไป
เขารู้ว่าทุกคนรู้สึกข่มใจ อีกทั้งคำปลอบโยนง่ายๆก็ไม่มีประโยชน์อะไร บนความเป็นจริง เขาก็ตกอยู่ในภวังค์ความเสียใจอยู่
ภาพของการที่คนด้วยการกัดคน พรากชีวิตคนไปหลายสิบชีวิตแล้ว อีกทั้ง เจตนาของฝ่ายตรงข้ามก็ชัดเจน เขากลับหาทางออกของเรื่องนี้ไม่เจอ แม้กระทั่ง วิธีที่จะรักษาพวกคนที่ถูกกัดก็ไม่มี
ตอนนี้เขาได้ให้ค่ายทหารทุกหน่วยช่วยกันระวังภัยแล้ว ควบคุมการแพร่ระบาดของการกัดคนอย่างเข้มงวด นอกจากคนที่ถูกกัดคนนี้ คนที่เหลือก็ตายหมด แน่นอนว่า ยังมีคนหนึ่งถูกเสี้ยเฉิงเสี้ยงปล่อยตัวไป เพียงแต่ ไม่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ไหม?
หวังว่าเรื่องทุกอย่างมันจะจบลงอย่างนี้
ทหารของเขา ถึงแม้จะต้องตาย ก็ต้องตายในสนามรบ มือเปื้อนเลือดของศัตรู แต่จะไม่ถูกพวกจิตใจต่ำช้าลอบทำร้ายอย่างนี้
ความอัดอั้นตันใจ ค่อยๆเปลี่ยนเป็นความโกรธ อกของเขาถูกสุมไปด้วยไฟ ไม่ช้าก็น่าจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ
หลีโม่นั่งอยู่ข้างๆกรงเหล็ก มองไปยังใบหน้าของนายทหารหนุ่ม
“ข้าอยากดูว่าเขาคลุ้มคลั่งลักษณะไหน อาจจะหาจุดอ่อนของมันเจอก็ได้”
เซียวโธ่พยักหน้า สั่งคนไปตักน้ำมาหนึ่งถัง แล้วสาดไปที่หน้าของเขา
“เขากลัวน้ำมาก ระหว่างทางขณะที่กำลังกลับเคยลองให้ยาเขาหลายครั้งแล้ว แต่ระหว่างทางเกิดฝนตก น้ำหยดลงที่หน้าและร่างกายของเขา ก็ทำให้เขาตื่นได้แล้ว”
สียงพูดของเซียวโธ่พึ่งจบ เขาตื่นขึ้นมาตามคาด
เขาลืมตาขึ้นมาทันที สองมือถูไปที่ใบหน้าของตัวเองอย่างแรง มีเสียงร้อง“เอ้าๆๆๆ”ฟังแล้วขนลุกซู่ช่างน่าหวาดกลัวนัก
หลังจากที่เช็ดน้ำบนใบหน้าจนแห้ง เขาก็ค่อยๆยืนขึ้นในกรงเหล็ก แล้วส่งเสียง “เกอๆๆๆ”หัวเอียงเล็กน้อย ปากก็เบี้ยว เริ่มมีอาการชักเกรง มือก็ชักเกรง เงยหน้าขึ้น เงยขึ้นสูงมาก ตาสองข้างแดงกร่ำ แดงจนน่ากลัว สองมือจับกรงเหล็กแน่น เขย่าอย่างแรง แรงจนกรงเหล็กเอียงซ้ายทีเอียงขวาที
ใบหน้าของเขาค่อยๆน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ แยกเขี้ยวตาขวางใส่หลีโม่ ท่าทางอยากกัดฉีกเนื้อนาง แต่ว่ามีกรงเหล็กกั้นอยู่ เขาได้แต่ชนกรงเหล็กครั้งแล้วครั้งเล่า จนทำให้หัวแตกจนมีเลือดไหล
เซียวโธ่ตกใจมาก “ก่อนหน้านั้นอาการยังไม่หนักขนาดนี้ มีแค่การส่งเสียงร้อง เอ้าๆ แล้วท่าทางจะกัดคนแค่นั้น”
“ก่อนหน้านานแค่ไหนแล้ว?”
“เมื่อคืน”
นางตกตะลึงกับอาการของคนไข้ที่เปลี่ยนแปลงเร็วมาก ท่าทางของหวางหยู ทำให้นางคิดถึงโรคพิษสุนัขบ้า พิษสุนัขบ้าถูกจัดอยู่ในอาการกลัวน้ำ คนไข้จะกลัวน้ำมาก และจะมีอาการคลุ้มคลั่งอยู่ไม่นิ่งเหมือนกัน
แต่ว่า นี่ไม่ใช่โรคพิษสุนัขบ้าแน่ๆ เพราะว่า นอกจากอาการกลัวน้ำกับท่าทางชักเกรงแล้ว นอกนั้นอาการอย่างอื่นก็ไม่เหมือนโรคพิษสุนัขบ้าเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...