พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 211

ตอนที่ 211 เขากลับมาแล้ว

ซือถูเย้นกลับมาระหว่างที่เสี้ยหลีโม่เรียกช่างมากะจะทำการซ่อมแซมที่สวนดอกไม้

หลังจากที่เขากลับมา เขาไม่ได้กลับจวน เขาไปที่จวนเสี้ยงไปหาหลีโม่

หลีโม่กำลังอยู่ที่สวนดอกไม้ ในมือถือกระดาษที่ตัวเองวางลงแปลนมอบให้ช่างที่ยืนอยู่ห้องเครื่องเก็บเครื่องมือข้างสระน้ำ

แสงอาทิตย์สาดส่อง หลีโม่ใช้กระดาษบังแดด มองไปยังร่างสูงที่เดินมาทางเฉลียงกำลังเดินตรงมา ผ่านสวนหย่อมที่เฉินหลิงหลงพัก ตรงมายังหน้านาง

สีหน้าของเขาเหนื่อยล้า กลิ่นที่โฉยมาจากร่างกายเขาไม่รู้เป็นกลิ่นเหงื่อหรือกลิ่นคาวเลือด หลีโม่เงยหน้ามองไปยังนัยน์สีเข้ม สายตาเต็มไปด้วยความหนักแน่น ความเด็ดเดี่ยวบนใบหน้าก็ทำให้เขาหนักแน่นขึ้นหลายเท่า

“กลับมาแล้วหรอ?”หลีโม่พูด ไปครั้งนี้ ใช้เวลาไปประมาณสิบวัน เมื่อได้พบเขาอีกครั้ง ในใจกลับรู้สึกพูดไม่ออกอย่างบอกไม่ถูก

นางรู้สึกว่าชายหนุ่มทั่วไปที่หน้าตาดีมีอำนาจละทรัพย์สินเงินทอง ผู้ชายอย่างนี้ ย่อมทำให้คนทั่วไปใจเต้นอยู่แล้ว

นางเป็นแค่หญิงสามัญชนธรรมดา นางจะกระทำผิดหลักจารีตไม่ได้

“เรามีเรื่องจะพูดกับเจ้า เจ้าพอว่างไหม?”ซือถูเย้นพูดด้วยน้ำเสียงแหบผาก เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาเหนื่อยจากการเดินทางมา

หลีโม่ขานรับเสียงเบา เอาแปลนกระดาษลงมา ชี้ไปยังพวกช่าง “เร่งมือหน่อย”

“ว่างก็ดี ไปคุยตรงนั้นกับข้าหน่อย”ซือถูเย้นชี้ไปยังที่มีต้นหยางหลิวล้อมรอบ พูดจบก็เดินหันหลังไปทันที

หลีโม่ไม่พูดอะไรแต่ในใจรู้สึกหงุดหงิดอยู่เล็กน้อย ไม่สิ มีคนบางประเภทที่ถึงจะเกิดมาหน้าตาหล่อเหลามีอำนาจมีเงินทองแต่ใช่ว่าจะดึงดูดคนอื่นได้ เพราะว่าเอาแต่ใจบ้าอำนาจ

“เป็นอะไร?”หลีโม่เดินตามหลังไปพลางถามขึ้น

ซือถูเย้นมองไปที่นาง พูดด้วยเสียงต่ำ “เรื่องในกองค่ายหวยเจียงที่คนกำลังกัดกันอยู่คนที่ถูกกัดไปสามสิบแปดคน ในสามสิบเจ็ดคนเกิดคลุ้มคลั่งไล่กัดคน หลังจากที่ถูกขังก็เสียชีวิต ในหนึ่งคนนั้น ไม่ปรากฏอาการอย่างคนอื่น เรานำเขากลับมาเมืองหลวงด้วย แต่ระหว่างทางที่กลับเมืองหลวง เขาก็เริ่มเกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้น”

หลีโม่ตกใจ “ค่ายหวยเจียงอยู่ที่ไหน?ระยะทางห่างจากเมืองหลวงเท่าไหร่?”

“หากจากเมืองหลวงประมาณสองร้อยลี้ เป็นกองเสบียงของกองกำลังตั้งประจำของค่ายหวยเจียง”

“นี่กะจะตัดกำลังของเมืองหลวงหรอ” หลีโม่รู้สึกตกใจไม่น้อย หากจะบอกว่านี่คือเรื่องผีดิบคลั่งไล่กัดคนมีเงื่อนงำ เจตนาของฝ่ายตรงข้ามจัดเจนมาก

“ครั้งนี้ถือว่าพบเข้าทันเวลา หากค่ายถูกพัง ทหารหวยเจียงทั้งสามหมื่นคน อาจจะเรียกได้ว่าพังพินาศเป็นราบคาบก็ได้ ”ซือถูเย้นยังคงมีความหวาดกลัวหลงเหลืออยู่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถูกพบเข้าโดยบังเอิญ มีนายทหารนายหนึ่งเห็นคนลักลอบปลอมตัวเข้ามาในค่ายแล้วแอบลักลอบเข้าไปในที่พักของทหารนายอื่นๆ ก่อนที่จะลงมือดันถูกจับได้เสียก่อน

แต่ว่า นายทหารที่อยู่ในเพิงพักถูกเขากัดตายจนหมด

นายทหารคนนั้นรีบไปรายงานให้แม่ทัพของหวยเจียงทันที ถึงได้รับคำสั่งลงมา ให้ทำการนับจำนวนคนที่ถูกกัด จับตัวมาให้หมด แล้วส่งหมายลับให้เบื้องบน หลังจากที่เขาได้รับก็รีบเดินทางไปทันที

สามสิบแปดคน นอกจากหนึ่งคนนั้น คนอื่นก็กลายเป็นผีดิบทั้งหมด

เขาก็สั่งการให้ฝังร่างด้วยปูนขาว แล้วจึงค่อยนำคนที่ยังไม่มีอาการส่งกลับเมืองหลวง

ก่อนที่กลับเมืองหลวง เขาก็ได้ตรวจสอบซ้ำอีกครั้งว่ายังมีใครที่ถูกกัดอีก

“เขาคนนั้นอยู่ไหน?พาข้าไปดูหน่อย”หลีโม่รีบพูดขึ้น นางสงสัยตั้งต้นแล้วว่าไม่น่าจะใช่ผีดิบอะไรหรอก น่าจะไวรัสชนิดใดชนิดหนึ่ง

แต่ว่า นางไม่เคยเห็นไวรัสชนิดนี้ในโลกปัจจุบันมาก่อน ล้วนพบหลังจากที่ถูกกักก็เข้ากัดคนอื่นต่อ ถึงจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ก็น่าจะต้องใช้เวลาให้แสดงอาการ

“เขาพึ่งเกณฑ์เข้ากองทัพยังไม่ถึงครึ่งปี เฝ้าประจำการที่หวยเจียง”ซูชิงอธิบาย สายตาของเขามีความลังเล ส่วนมากที่เจอซูชิง เขามักจะร่าเริงแจ่มใส แต่มาวันนี้เขาไม่เหมือนกับทุกวัน

“เขาหลับไปแล้วหรอ?”หลีโม่เดินเข้าไปใกล้ ก็ได้กลิ่นๆหนึ่งโฉยออกจากตัวเขา เป็นกลิ่นเนื้อที่เน่าเละ

“ให้ยาไป จะทำให้เขาหลับได้ทั้งวัน”ซูชิงพูด

หลีโม่พูด “เปิดกรงสิ๊แล้วย้ายเขาออกมาเถอะ”

ซูชิงลังเลไปชั่วครู่ ก็หันไปมองซือถูเย้น ซือถูเย้นจึงพยักหน้า “ย้ายออกไปเถอะ พวกเจ้าเฝ้าอยู่ใกล้ๆ ถ้าเห็นว่าเขาตื่นก็รีบจับตัวเขาไว้”

ซูชิงกับเซียวโธ่เป็นคนจับนายทหารคนนั้นออกมา นายทหารคนอื่นๆก็ไปยืนยังแคร่ไม้ที่ทำขึ้นอย่างง่ายๆ จะตั้งค่ายที่สวน เป็นเพราะว่ากรงเหล็กวางได้แค่ที่สวนนี้เท่านั้น หากมีอะไรเกิดขึ้น สามารถจับตัวกลับเข้ากรงได้ทันที

หลีโม่จัดการตรวจดูบาดแผลที่เขาถูกกัด เขาถูกกัดเข้าที่แขน บาดแผลเป็นสีดำ มีเลือดไหลออกมา พบว่าเป็นกลิ่นเหม็นเน่าที่มากบาดแผลที่ไหลออกเป็นเลือด

บาดแผลเล็กมาก อีกทั้งถูกกัดแค่ผิวหนังชั้นนอก รอยกัดตอนนี้แทบจะมองไม่เห็นแล้ว สามารถเห็นแค่แผลเล็กๆสองจุด ที่อยู่ตรงผิวหนัง

รอบๆรอยเขี้ยวกลายเป็นสีดำหมด บวมออกมา มีอาการบวมน้ำ หลีโม่ค่อยๆใช้ก้านของต้นหลิวจิ้มลงไปหนึ่งครั้ง ผิวหนังหยุบลงไปนานมากไม่มีทีท่าจะเด้งกลับมา เห็นได้ชัดว่ามีอาการบวมหนักอย่างหนัก

การหายใจและชีพจรไม่ปกติ ชีพจรเต้นเร็วมาก อัตราการเต้นของหัวใจก็เร็วผิดปกติ การหายใจรวดเร็ว ถ้าแม้จะอยู่ในสภาวะหลับ ก็สามารถเห็นได้ว่าเขามีอาการหายใจเร็วและหัวใจเต้นเร็ว

ม่านตามีเลือด ส่วนที่เป็นตาขาวเต็มไปด้วยเส้นเลือด พอเปิดปากขึ้นมาดู พบฟันเริ่มมีสีดำ มีเขี้ยวเหมือนเสืองอกออกมาสองซี่ แต่เขี้ยวสองซี่นี้น่าจะมีตั้งแต่แรกแล้ว

“เขาเป็นนายทหารของเมืองหลวง ปลายปีที่แล้วมีการณ์ทหาร ถูกสั่งการให้ไปอยู่หวยเจียง พ่อกับพี่ชายของเขาตายในสนามรบ ตอนแรก เขาไม่ต้องเข้ากองทัพก็ได้ เพราะครอบครัวของเขาเหลือเพียงผู้ชายคนเดียว เป็นเขาที่ขอร้องมาสองปีแล้ว กองทัพถึงได้เก็บเขาไว้ ข้ายังจำได้ดีว่า ข้าเคยถามเขา ทำไมถึงอยากเป็นทหาร เขาตอบข้าอย่างเด็ดเดี่ยวว่า เขาอยากปกป้องชาติเหมือนกับพ่อและพี่ชายของเขา” เสียงของซูชิงมีความเสียใจ เพราะว่า นายทหารน้อยคนนี้ เป็นเขาที่อนุญาตให้เขาเข้ากองทัพ ตอนที่เกณฑ์ทหารเขาก็อยู่ในเหตุการ์

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม