พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 256

ตอนที่ 256 อายเจียผิดหวังยิ่งนัก

คุณหนูรองจวนเฉิงเสี้ยงเสี้ยโล่เยว่เขียนสารร้องทุกข์ฟ้องคดีทำร้ายร่างกายกับคุณหนูใหญ่ตระกูลหู หูฮวนซี เป็นเรื่องที่วิพาษ์วิจารกันอย่างหนักในเมืองหลวงตอนนี้

หูฮวนซีไม่ยอมรับข้อหานี้ นางบอกว่าตอนที่เสี้ยโล่เยว่ทำร้ายนางเสร็จ ก็ไม่เคยเจอนางอีกเลย

นางยื่นหลักฐานที่นางไม่อยู่ในเหตุการณ์นั้น มีหลักฐาน มีชาวมากมายเห็นกับตาว่าหลังจากที่เสี้ยโล่เยว่เดินจากไป นางก็เข้าไปในบ้านการกุศลแล้ว ผ่านไปประหนึ่งหนึ่งชั่วยามถึงออกมา

คนในบ้านการกุศลก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าพักที่นางอยู่แต่ในบ้านการกุศล ไม่ได้ออกไปไหน

เป็นอย่างนี้ ทำให้เวลาที่เสี้ยโล่เยว่ให้ปากคำไม่ตรงกับหลักฐาน

พอเสี้ยโล่เยว่ได้ฟังคำของสิงปู้ นางแทบกระอักเป็นเลือด นังผู้หน้าด้านไร้ยางอายนั่น กลับให้ชาวบ้านเป็นพยาน? หลอกลวงประชาชน

“ใช่แล้ว“เสี้ยโล่เยว่จำได้ว่า หลังจากที่นางซุ่มตีคนเสร็จ ก็เข้าไปในบ้านของชาวบ้าน ”พวกเจ้าไปตรวจบ้านหลังนั้นหน่อย หลังจากที่นางทำร้ายร่างกายข้าเสร็จก็หนีเข้าไปในบ้านของชาวบ้าน ในตอนนั้นมีคนอยู่ในบ้าน ละแวกนั้นอาศัยเต็มไปด้วยชาวบ้าน นางทำร้ายร่างกายข้าเสียงดังขนาดนี้ คนบริเวณต้องได้ยินเสียงสิ”

สิงปู้ทำได้แค่ส่งคนไปตรวจ แต่ถามชาวบ้านในละแวกนั้น พวกเขาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีเสียงดังเกิดขึ้นจริงๆ แต่เสียงนั้นมาจากการทะเลาะวิวาทของพวกพ่อค้าขายโถงโหยว ไม่ใช่เสียงตีกันของคุณหนูใหญ่ตระกูลหูกับคุณหนูรองจวนเฉิงเสี้ยง

สำหรับที่บอกว่าหูฮวนซีได้ออกไปทางบ้านหลังหนึ่งของชาวบ้านนั้น ส่งคนไปถาม แต่คนในบ้านหลังนั้นไม่พบเจอคนอะไรเข้ามาเลย แล้วก็ไม่รู้จักหูฮวนซี

เสี้ยโล่เยว่รู้ว่าต้องเป็นหูฮวนซีไปซื้อตัวคนพวกนั้นเป็นแน่ นางมีเงินเยอะแต่นิสัยหยาบ ชาวบ้านพวกนั้นก็เห็นเงินก็ตาโตลุกวาว จะให้คนพวกนั้นเงียบปากเป็นเรื่องที่ง่ายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

นางเหวี่ยงในสิงปู้ให้คนไปตรวจสอบ เรื่องนี้ยังกระทบถึงเฉิงเสี้ยง ตอนที่เฉิงเสี้ยงรีบตามมาให้หลัง เรื่องก็บานปลายใหญ่โตแล้ว

เหตุผลที่บานปลายคือ ด้านตระกูลหูก็ได้ไปฟ้องที่สถานี ว่าเสี้ยโล่เยว่ทำร้ายร่างกายคนอื่นในที่สาธารณะ

ทางกรมสถานีทำได้แค่ไปตรวจสอบ หามูลความจริง เป็นตามจริงที่เสี้ยโล่เยว่ทำร้ายร่างกายคนอื่น มีช่วบ้านเห็นกับตาเยอะมาก คราวนี้ เสี้ยโล่เยว่ต้องถูกจองจำ

แต่ว่า ทางสถานีก็ลำบากใจมาก เพราะว่า เสี้ยโล่เยว่เป็นคุณหนูของจวนเฉิงเสี้ยง แล้วก็เป็นว่าที่พระชายา ถ้าจับนางแล้ว ฮองเฮาจะทรงกริ้วหรือไม่?

ใต้เท้าเหลียงของจิงเจ้าหยิ่น ไม่รู้แล้วว่าควรต้องทำอย่างไร ได้เพียงแต่เชิญตัวราชครูเหลียง

ราชครูเหลียงที่พอได้ฟังเรื่องสกปรกของจวนเฉิงเสี้ยงแล้ว ก็โกรธขึ้น “เจ้าจะถามข้าทำไม?ไปหาหัวหน้าเจ้าไป เรื่องนี้ให้สิงปู้เป็นคนจัดการ”

“แต่ ถ้าเกิดสิงปู้เป็นคนจัดการ กลัวว่าจะทำอย่างตรงไปตรงมา”

ราชครูเหลียงตอนนี้ปวดหัวมาก ในระหว่างสองตระกูลนี้เขาจะผิดใจกับใครไม่ได้โดยเด็ดขาด แต่เรื่องที่เสี้ยโล่เยว่ทำร้ายร่างกายคนอื่นในที่สาธารณะหากถูกตัดสินโทษ คนที่ถูกตัดสินโทษจะเป็นพระชายาได้อย่างไร?

หากงานมงคลนี้ถูกทำลาย ทางด้านกลุ่มเสี้ยห้วยจุนนั้นเริ่มคิดการกบฏแล้ว ได้ยินมาว่ากำลังไปมาหาสู่กับกุ้ยไท่เฟย

แต่หายออกหน้าไปช่วยเสี้ยโล่เยว่ ทางหูฮวนซีจะรับหน้าอย่างไร? หายากที่นางจะชวนรัชทายาทออกไป เป็นการช่วยให้รัชทายาทมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น หากจัดการได้ไม่ดี ตระกูลหูถอนตัวออกไป พวกเขาก็จะสูญเสียหนักมาก

“เสี้ยโล่เยว่คนนี้ ทำไมเรื่องเยอะขนาดนี้?สมองนางเป็นหมูรึไง?ตอนนี้รัชทายาทยังไม่ค่อยโปรดนางเท่าไหร่แล้ว นางยังออกไปสร้างปัญหาอีก?”ราชครูเหลียงพูดอย่างเบื่อหน่าย ได้เพียงแค่พูดตัดพ้อด้วยอารมณ์โกรธแค่นั้น

ฮองเฮาก็พึ่งรู้เรื่องนี้ ยังไม่ทันได้ไปจัดการ ก็ได้ยินซุนกงกงมาบอกกล่าว นางถอนหายใจเบาๆ สั่งนางกำนัลข้างกาย “ไปบอกท่านราชครู งานมงคลนี้น่าจะต้องถูกยกเลิกไป ให้เขาหาวิธีรักษาความสัมพันธ์กับเฉิงเสี้ยงเสี้ยไว้ให้ได้ หารักษาไว้ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร”

“เพคะ!”นางกำนัลพูด

พอดีกับที่หยีเฟยไปเข้าเฝ้าไทฮองไทเฮา แน่นอน คำว่าพอดีนี้ กลับไม่ใช่ความบังเอิญเสียทีเดียว หยีเฟยเป็นคนฉลาดหลักแหลม ก็ต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงมาเพื่อเข้าเฝ้า

หยีเฟยได้ยินไทฮองไทเฮาพูดถึงเรื่องนี้ ก็พูดพลางขมวดคิ้ว “ไทเฮาเหนียงๆ ขอหม่อมฉันพูดสักเล็กน้อย หม่อมฉันไม่เข้าใจว่าทำไมฮองเฮาเหนียงๆ ถึงอยากให้รัชทยาทแต่งกับเสี้ยโล่เยว่ ใครต่างก็รู้ว่า เสี้ยโล่เยว่คนนี้ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของเฉิงเสี้ยง ตอนที่เฉินหลิงหลงแต่งเข้ามา ในท้องก็มีลูกกับชายอื่นอยู่แล้ว คลอดเสี้ยห้าวหลานกับเสี้ยโล่เยว่ เฉิงเสี้ยงเสี้ยต้องการรักษาหน้า จึงไม่กล้ายอมรับ แต่เรื่องนี้พวกคนในจวนเฉิงเสี้ยงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ตระกูลจักรพรรดิของเราจะทำไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้นะเพคะ แต่งเอาผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าเข้ามา ภายภาคหน้าแม่ยังต้องพึ่งลูกอีกนะเพคะ ”

ก่อนหน้านั้นไทฮองไทเฮาก็เคยได้ยินเรื่องนี้มาแล้ว แต่คำเล่าขานก็มีทั้งจริงบ้างเท็จบ้างตลอดมา นางก็ไม่ได้ไปแยกแยะ บวกกับได้รับคำสั่งมาจากบรรพบุรุษ ให้นางยับยั้งงานมงคลนี้ ก็เคยพูดว่าเสี้ยหลีโม่จะเป็นคนลงมือเอง เรื่องนี้ผ่านไปผ่านมา เสี้ยหลีโม่ไม่ได้ทำอะไร ก็เลยมาถึงมือนาง

แน่นอน นางไม่รู้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นฝีมือของเสี้ยหลีโม่

ไทฮองไทเฮาได้แต่ถอนหายใจ “อายเจียปฏิเสธมาโดยตลอด เป็นฮองเฮาที่มีพระราชโองการ อายเจียไม่ใช่ว่ากำลังหาจังหวะทำให้งานมงคลนี้ต้องล้มเลิกไม่ใช่หรอ?ดูท่าแล้วตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุด เพียงแต่……”

หยีเฟยถามขึ้น “ไทเฮายังกังวลอะไรอีกหรือเพคะ?”

“ข้าไม่ได้กังวลหรอก เพียงแต่อายเจียรู้สึกผิดหวัง”ที่ไทฮองไทเฮาพูดคือหมายถึงเสี้ยหลีโม่ต่างหาก นางได้แต่รอให้เสี้ยหลีโม่ลงมือ แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าตอนนี้นางมัวแต่ยุ่งเรื่องของการแย่งที่ดินอยู่ หรืออาจจะเพาะต้นรักกับเย้นเอ๋อร์อยู่ เหมือนจะไม่คิดจะแก้ไขปัญหาภายในจวนเฉิงเสี้ยงเลย

จวนเฉิงเสี้ยงต้องการโดนเล่นงานอย่างหนัก ถึงจะทำให้เสี้ยห้วยจุนรู้จักเคารพได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม