พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 260

ตอนที่ 260 หมายทหาร

เพราะฉะนั้น ทุกคนต่างคิดว่า เหมือนเขาจะไม่สนใจกับแค่การเขียนเสือให้วัวกลัว

เขามองที่ทุกคน แล้วจึงค่อยๆ อ้าปากพูด “ตั้งแต่โรคนี้แพร่ระบาดจนถึงตอนนี้ ก็ทำให้คนตายจากโรคนี้มากกว่าร้อยคนเข้าไปแล้ว มีคนคาดเดาไปต่างๆ นาๆ พูดว่าสวรรค์กำลังลงโทษหรืออะไรก็ตาม เพราะฉะนั้นจึงทำให้เกิดโรคระบาด ถึงมันจะไร้สาระ แต่นั่นก็ถือว่าเป็นเสียงจากราษฎร มาวันนี้ที่ประชาชนต่างมีใจอยากจากลี้ภัยออกจากเมืองไป ผู้คนเหล่านี้ไม่ว่าจะไปถึงที่ใด ก็จะนำความหวาดกลัวพวกนี้ไปด้วยอย่างแน่นอน ที่จิ้นโก๋กงเสนอให้เปาหมู่บ้าน เป็นวิธีที่สามารถยับยั้งการระบาดได้ แต่กลับไม่ใช่วิธีที่ดีเลยที่เฉิงเสี้ยงพูดมา ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะสามารถรักษาโรคนี้ให้หายได้”

ราชครูเหลียงพูด “แล้ว ท่านอ๋องเห็นด้วยกับการที่เสี้ยหลีโม่ต้องไปที่กักกันโรคหรือ?”

ซือถูเย้นมองราชครู “หากเสี้ยหลีโม่มีวิธีรักษาโรคนี้ ทำไมเปิ่นหวังต้องไม่เห็นด้วยล่ะ?”

ราชครูพูด “กระหม่อมแค่คิดว่า เสี้ยหลีโม่คือว่าที่ภรรยาของท่าน ท่านอ๋องจะไม่อยากให้นางไปเขตกักกันโรค อย่างไรก็ดี คนภายนอกก็ลืกันได้หลายวันแล้ว ว่าเสี้ยหลีโม่สามารถรักษาโรคนี้ได้ อีกทั้ง เฉิงเสี้ยงยังเคยพูดว่าเสี้ยหลีโม่เคยพูดกับเขาว่ามีความมั่นใจ แต่ก็ไม่เห็นท่านอ๋องจะพูดอะไรเสียที”

ซือถูเย้นแสยะยิ้ม “เป็นอย่างนั้นหรือ?เสี้ยหลีโม่ไม่เคยพูดกับเปิ่นหวังว่าสามารถรักษาโรคนี้ได้ อย่างไรก็ดี ตอนนี้นางยังเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเสี้ย อีกทั้งไม่ใช่ซื่อเจิ้งหวังเฟยของข้า นางพูดกับพ่อของนาง ไม่ได้พูดกับเปิ่นหวัง นี่เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ?”

จิ้นโก๋กงพูด “ท่านอ๋อง แล้วท่านเห็นด้วยหรือไม่?แล้วหมายทหารนี้ยังจำเป็นต้องมีคำสั่งหรือไม่?”

ซือถูเย้นมองไปที่เสี้ยเฉิงเวียง “เฉิงเสี้ยง สำหรับเนื้อหาในหมายทหาร ที่รัชทายาทเสนอแนะมาท่านคิดเห็นเป็นอย่างไร?”

เฉิงเสี้ยงเสี้ยสีหน้าหม่นหมอง มองไปที่ราชครูแวบหนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “กระหม่อมไม่มีความคิดเห็นพ่ะย่ะค่ะ”

ซือถูเย้นพูดอย่างเรียบเฉย “ดี ในเมื่อเจ้าไม่เห็นต่าง ถ้าอย่างนั้น หมายทหารนี้ให้สั่งการลงไปได้เลย”

เขายกมือขึ้น ให้คนไปเตรียมหมึกกับพูกันมา

ไทฮองไทเฮามีความกังวลใจอยู่เล็กน้อย เลยเรียกซือถูเย้นไปคุยกันด้านหลัง

“เย้นเอ๋อร์ หมายทหารนี้สำคัญมากนะ ถ้าหากลงไปแล้ว เสี้ยหลีโม่ทำไม่ได้ขึ้นมา หัวก็จะไม่สามารถรักษาไว้ได้นะ เจ้าจะนำชีวิตของนางมาเสี่ยงหรือ?”

ซือถูเย้นไม่ได้ตอบนางไปตรงๆ แต่ถามกลับไปว่า “หมู่เฟยเข้าวังมาพูดเรื่องนี้กับท่านใช่ไหม?”

“หมู่เฟยเจ้าเข้าวังมาก็จริง แต่ไม่ได้พูดว่าจะให้เสี้ยหลีโม่ไปเขตกักกันโรค แต่เคยพูดกับอายเจีย”ไทฮองไทเฮาพูด

ซือถูเย้นมองไปที่ไทฮองไทเฮา “ถ้าอย่างนั้นท่านคิดว่า หมู่เฟยเข้ามาพูดเรื่องนี้กับท่าน มีจุดประสงค์อะไร?”

ไทฮองไทเฮาพะงะไป “เย้นเอ๋อร์ เจ้าเข้าใจนางผิดไปเยอะมาก นางไม่ได้หมายความอย่างนั้น”

ซือถูเย้นพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย “ไม่ใช่ลูกเข้าใจนางผิดเยอะไป แต่มีบางเรื่องนางทำเกินไปจริงๆ ”

ไทฮองไทเฮารู้ดีว่าเรื่องบางเรื่องถูกเก็บสะสมมานานอยากที่จะหายได้ภายในหนึ่งวัน มาวันนี้ไม่ใช่เวลามานั่งแก้ไขเรื่องภายในใจของแม่ลูก นางพูดขึ้นว่า “อายเจียแค่กังวลว่าเสี้ยหลีโม่จะรักษาโรคนี้ไม่ได้ เอาชีวิตไปทิ้งเปล่าๆ หลายปีมานี้ ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนเข้าตาเจ้า หมู่โฮวไม่อยากเสียเวลาความสุขของเจ้านะ”

ซือถูเย้นจับมือนางแล้วพูดขึ้นว่า “หมูโฮว นี่เป็นเรื่องที่เพราะเหตุใดลูกไม่อยากพานางเข้าวัง หมายทหารนี้เฉิงเสี้ยงเสี้ยเป็นคนลง หากเสี้ยหลีดโม่มีวิธีรักษาโรคนี้ ภายภาคหน้านางก็จะยินข้างเปิ่นหวังได้อย่างเต็มภาคภูมิ ใครก็ว่าอะไรนางไม่ได้ ไม่ใช่หรือ?หากรักษาไม่ได้ หนึ่งหมายทหารฉบับนี้ไม่มีลายมือของนาง สองไม่ได้รับการอนุญาตจากนาง นางสามารถยื่นฎีกาได้ ถ้าอย่างนั้น หน้าที่ที่เหลือ ก็ให้เฉิงเสี้ยงเสี้ยรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”

“ทำอย่างนี้ได้ด้วยหรือ?”ไทฮองไทเฮาถามขึ้น

เฉิงเสี้ยงเสี้ยในใจรู้สึกเกลียดชังเขามาก เขารู้ดีว่าราชครูเหลียงใช้วิธีนี้ในการเตือนเขา ควบคุมเขา หากเขาเชื่อฟัง ก็ต้องรักษาตำแหน่งนี้ไว้ได้

ก่อนที่ราชครูเหลียงจะเดินไปนั่นเอง พูดขึ้น “ใช่แล้ว ได้ยินมาว่าพักนี้จวนเฉิงเสี้ยงไปมาหาสู่กับกุ้ยไท่เฟยนิ่ กลับไปบอกนางหน่อยนะว่า ครั้งหน้าพบกุ้ยไท่เฟย ผากทักทายกุ้ยไท่เฟยแทนข้าหน่อยแล้วกัน”

เฉิงเสี้ยงเสี้ยจ้องไปที่หลังของเขา เกลียดจนกัดฟันกรอด เขารู้อยู่แล้ว

จวนซื่อเจิ้งอ๋อง

“กุ้ยไท่เฟย ข่าวดีขอรับ เฉิงเสี้ยงเสี้ยได้พูดต่อหน้าขุนนางทุกคน ว่าจะเอาชีวิตของเสี้ยหลีโม่กับตำแหน่งของเขาลงในหมายทหาร ว่าภายในครึ่งเดือน เสี้ยหลีโม่คิดค้นวิธีรักษาโรคนี้ได้”อาฝูรีบร้อนไปรายงานกุ้ยไท่เฟย

กุ้ยไท่เฟยนั่งอยู่หน้าเฉลียง ในมือถือหนังสือม้วนหนึ่ง ฟังอาฝูรายงาน จึงค่อยๆ ช้อนตาขึ้น “เจ้าจะตกใจทำไม?นี่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเกิดอยู่แล้วหรอ?”

อาฝูใบหน้ายิ้มแย้ม “เป็นเรื่องที่ต้องเกิดอยู่แล้ว แต่หนู่ไฉ่คิดว่าท่านอ๋องจะไม่ยอมตกลง คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะยอมตกลงในที่สุด ”

กุ้ยไท่เฟยพูดอย่างเย้ยหยัน “ที่เขาตกลง เจ้าคิดว่าเขาไม่มีความทะเยอทะยานหรือ?ใจทะเยอทะยานของเขาไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่งฮ่องเต้ แต่อยู่ที่ชื่อเสียง ทุกวันนี้ราษฎรหวาดผวา ทุกคนต่างกำลังโทษเขา หากเขายังไม่คิดหาสักวิธีหนึ่ง เขาก็จะถูกราษฎรพากันก่นด่า?”

“แต่ครั้งนี้มีชีวิตของเสี้ยหลีโม่เป็นเดิมพัน”

กุ้ยไท่เฟยยิ้มอย่างเย้ยหยัน “สตรีสำหรับเขาแล้วมีค่าอะไรล่ะ?เขาเคยวางผู้หญิงไว้ในใจด้วยหรือ?เพียงแต่เขาแสร้งทำเป็นสูงส่ง คิดว่าตัวเองเป็นคนยุติธรรม พอถึงท้ายที่สุดแล้ว ไม่ใช่ว่านำว่าที่หวังเฟยของตัวเองออกไปตายหรือ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม