ตอนที่ 274 วัดหิน
ซูชิงสั่งให้คนไปหาตามอยู่รอบหนึ่ง พบว่าไม่รู้ว่าเซียวโธ่อยู่ไหน
ไปสอบถามที่จวนของเซียวโธ่มาแล้ว เขาให้การว่าก่อนหน้านั้นก็ไม่พบเซียวโธ่ เสี้ยหลีโม่เคยมาหาเขาเช่นกัน
ซูชิงรู้สึกว่าเรื่องมีมูลเหตุ นี่ไม่ใช่ว่าหลีโม่และเซียวโธ่หายตัวไปพร้อมกันหรอกนะ?
เกิดเคราะห์ร้ายขึ้นงั้นหรือ หรือว่าพวกเขาไม่รู้ว่าไปหลงอยู่แห่งใด
แต่จะเป็นไปได้หรือ?
เพื่อไม่ให้ซือถูเย้นตกใจ ซูชิงสั่งการให้คนไปตามหาที่เมืองหลวงอีกรอบหนึ่ง ทั้งยังสั่งให้ตามหารอบๆ นอกเขตเมืองด้วย แม้จะไปตามชานเมืองแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่พบหลีโม่และเซียวโธ่
ด้วยความจำใจ ซูชิงทำได้เพียงไปพบเฉินหลิ่วหลิ่ว เฉินหลิ่วหลิ่วให้การว่าไม่เคยพบหลีโม่มาก่อน
ทั้งยังไปพบซือถูจิ้ง ซือถูจิ้งช่วงนี้เก็บตัวสันโดษ ไม่ได้ออกมาต้อนรับใคร จึงไม่ได้มาที่นี่มาก่อน
เมื่อได้ทราบว่าหลีโม่และเซียวโธ่หายตัวไปทั้งคู่ นางก็กังวลใจขึ้นมา “หาจนทั่วแล้วใช่หรือไม่? ”
“หาจนทั่วแล้ว วันนี้ตามหาอยู่ทั้งวันไม่พบทั้งสองคนเลย”
ซือถูจิ้งเลิกติ้วขึ้น “ถ้าเช่นนั้นนางไม่อยู่ที่เขตแพร่ระบาด? แต่นางได้รับคำสั่งจากกองทัพ แล้วก็ ไม่ใช่ว่าองค์รัชทายาทไปตรวจดูที่เขตแพร่ระบาดมาแล้วหรือ? องค์รัชทายาทได้พบหลีโม่หรือไม่? ”
” ไม่พบ โหรวเหยาบอกว่าเมื่อตอนที่องค์รัชทายาทมาถึง หลีโม่เพิ่งจะออกไป “ซูชิงกล่าว
ซือถูจิ้งลุกขึ้นยืน เผยสายตาผ่าเผย “เช่นนี้ดูท่าว่าจะไม่ดีแล้ว เรื่องเกิดมาสองสามวันก่อนแล้วใช่หรือไม่? เหลียงไถ้ฝู้ไม่รับผิดชอบหน้าที่เลยหรือ? ”
” เรื่องก็ผ่านมาสองสามวันแล้ว ทางเหลียงไถ้ฝู้ไม่ได้บอกกล่าวอะไร และไม่ได้มีคำสั่งเข้าไป”
” เช่นนั้นก็แสดงว่ามีคนอยู่ที่เขตแพร่ระบาด แน่นอนว่าทุกวาจาทุกการกระทำของนางล้วนบอกกล่าวกับเขาไว้ ซูชิง ในเวลานี้หลีโม่หายตัวไปไม่ใช่เรื่องดีนัก จะต้องถูกพวกเขาแพร่เรื่องออกไปใหญ่โตเป็นแน่”
ซูชิงพยักหน้ารับ ถอนใจเฮือกหนึ่ง “ข้ารู้ เรื่องนี้ฮ่องเต้ยังไม่ทราบความ”
“ข้าจะรีบไปทูลให้ฮ่องเต้ทราบ ให้ท่านไปที่เขตแพร่ระบาด” ซือถูจิ้งสั่งให้คนเตรียมรถม้าทันที
“เจ้าไปที่เขตแพร่ระบาดก็ไม่มีประโยชน์ ยังไม่รู้เลยว่าหากเข้าตำหนักไปพบฮองไทเฮา ควรให้นางเตรียมใจเสียก่อนค่อยกล่าวประโยคเหล่านั้นกับพวกเขา” ซูชิงกล่าว
ซือถูจิ้งส่ายหน้า “มิได้ บัดนี้เข้าตำหนักไปพูดสิ่งใดก็ไม่มีประโยชน์ หลีโม่รับคำสั่งลงมาจากกองทัพ นับคืนนับวันแลัวยังมีอีกห้าหกวันก็ครบอาทิตย์แล้ว ฮองไทเฮากลังรอข่าวคราวอย่างร้อนรน หากไปทูลกล่าวว่าหลีโม่หายตัวไป ฮองไทเฮาจะต้องคิดว่าหลีโม่คิดหนีเป็นแน่ เหลียงไถ้ฝู้จะต้องทำการใหญ่ สั่งการให้เข้าไปยังเขตแพร่ระบาดพิสูจน์ความจริง ส่วนทางฮ่องเต้นั้นอาจยังปิดบังไว้ได้”
“ซูชิงคิดดูแล้วก็มีเหตุผล หากเหลียงไถ้ฝู้จะต้องจับเอาประเด็นนี้แพร่ออกเป็นเรื่องใหญ่แน่ จะต้องสั่งหาคนไปเขตแพร่ระบาด ให้คนไปดูด้วยตาว่าเสี้ยหลีโม่ไม่อยู่ที่เขตแพร่ระบาด จึงจะสามารถประกาศได้ในเวลาเช้าวันรุ่งขึ้น”
“ก็ดี ข้าจะไปพบฮ่องเต้ก่อน และยังก็ไม่รู้ว่าเซียวโธ่ผู้นี้หายตัวไปด้วยกันกับหลีโม่หรือไม่”
ซูชิงกล่าวจบ ก็หันตัวเดินออกไป
ซือถูจิ้งกลับจวนเปลี่ยนเครื่องอาภรณ์ หงฮวาถามแผ่วเบา “องค์หญิงเพคะ ไม่ใช่ว่าช่วงเวลานี้ไม่ออกไปไหนได้ไม่ใช่หรือเพคะ”
ซือถูจิ้งกล่าวตอบอย่างเฉื่อยชา “ออกไปไม่ได้ ไม่ใช่ว่าข้าจะไม่สามารถออกไปได้”
และต่อไป อาจไม่ได้พบเขาอีก
ได้พบ แล้วอย่างไร? มันผ่านไปแล้ว!
สามปีแล้ว สามปีที่ไม่ได้พบเขา แต่นับดูก็มากกว่าสามปี? สามปีที่แล้วเขากลับมา นางไม่ได้เจอเขา เพียงตอนที่เขาจากเมืองไป นางยืนอยู่บนกำแพงเมือง มองดูเขาขี่ม้าจากไป
ซือถูเย้นก็รู้ทันทีว่าเขาจะต้องถอยทัพไปด้วยความล้มเหลว “สั่งคนให้จับตาดูวัดหินนี้อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าดินฟ้าอากาศมีความเคลื่อนไหวอันใดจงรายงาน”
” ใต้เท้า แต่ว่าไม่พบอันใดที่นี่ “องครักษ์ราวกับรู้ใจ “น่าแปลก มีคนเข้าไปตั้งแต่เมื่อคืนวาน หม่อมฉันสั่งให้คนจับตาดูอยู่ตลอด แต่ไม่มีผู้ใดออกมาเลย”
ซือถูเย้นยกยิ้มเย็น “วัดหินเมื่อมองเข้าไปเพียงคราเดียวก็เห็นทางตันแล้ว หากจะซ่อนคนไว้มากมายขนาดนั้นต้องมีห้องลับ ห้องลับอยู่ในชั้นใต้ดิน พวกเราต้องใช้กำลังความสามารถ และอาจจะไม่พบ วัดในป่าเขาเช่นนี้หากมีห้องลับ ข้างใต้จะต้องวงกตเป็นแน่ ถ้ามีผู้ติดเชื้อผีดิบอยู่ในนั้นจริง พวกเราผลีผลามเข้าไปอาจถูกพวกมันจับเอาไว้ได้ และจะมาจู่โจมทำร้ายถึงตัวได้ บัดนี้พวกเจ้าจงเข้าไปสำรวจอีกรอบ หากพวกเขารู้ว่าที่แห่งนี้ถูกจับตามองก็จะอพยพเปลี่ยนที่ไป”
องครักษ์ตระหนักได้ทันที “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง”
ซือถูเย้นสั่งการ “หลังจากข้าไปแล้ว อีกครึ่งชั่วโมงพวกเจ้าก็ถอยทัพคนและม้าออกไป ให้พวกเขาเข้าใจผิดว่าพวกเจ้าถอยออกไปแล้ว คืนนี้ควรสับเปลี่ยนตำแหน่งกันบ้าง”
” แต่ว่าถ้าหากมีโถงลับหรือเส้นทางอื่น พวกเขาจะสามารถหนีออกไปได้นะขอรับ”
ซือถูเย้นสังเกตดูเขาอยู่ครู่หนึ่ง “เขาลูกนี้ไม่มีสิ่งใดเป็นเพียงทิศเหนือใต้ออกตก ด้านตะวันออกลงมาเป็นหมู่บ้านสือโถว พวกเขาไม่สามารถไปทางนั้นได้ เพราะมีคนอาศัยอยู่ ทางใต้เป็นลำธาร กลางภูเขาสูงชัน ไม่มีทางที่จะพาคนหนีออกไปได้ ดังนั้นมีเพียงทางเหนือและทางตะวันตกเท่านั้น เจ้าจงสั่งกำลังคนไว้ให้มาก เฝ้าดูอย่าให้ห่าง เมื่อพบหลักฐานใดให้ลงมือทันที ลงมือจู่โจมในป่าดีกว่าไปกระทำให้โถงลับ”
องครักษ์รับคำสั่ง “ขอรับ กระหม่อมรับสั่ง”
ซือถูเย้นค่อยๆ หลับตาลง สูดรับกลิ่นอายของลมที่พัดผ่าน ความหอมของต้นการบูรอบอวล ดังนั้นมันจึงแทบกลบกลิ่นเหม็นเน่าของศพในอากาศจนเจือจาง
กลิ่นศพที่หมู่บ้านสือโถวด้านล่างพัดมาไม่ถึงที่แห่งนี้ ต้องเป็นที่บริเวณละแวกนี้พัดผ่านมาเป็นแน่
เขามีประสาทการรับรู้กลิ่นดีกว่าผู้อื่น กลิ่นที่ผู้คนรอบตัวเขาไม่ได้กลิ่นเขามักสัมผัสมันได้
นี่เป็นเหตุผลว่าเหตุใดเขาจึงไม่เข้าไปในวัดหิน กลับต้องกลับไปอีกครั้ง
เขาต้องทำให้มั่นใจว่าวัดหินแห่งนี้เป็นสถานที่กักผู้ป่วยผีดิบเอาไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...