พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 339

ตอนที่ 339 ตอนวัยเยาว์ของเรา

จางซื่อฮูหยินใหญ่ของจวนเหา มารดาของเซี่ยวโธ่กับเซียวเซียว

เมื่อได้ฟังคำสั่งของเหล่าเย๋จื่อ จางซื่อค่อยๆส่ายหัว “ทำไมยังต้องไปซ้ำเติมบาดแผลที่เจ็บปวดอีก?”

เหาเย๋มองนางนิ่ง “เจ้าฉลาดมาตลอด สาเหตุความเป็นมายิ่งไม่ต้องให้ข้าต้องพูดให้เข้าใจ ความสัมพันธ์นี้เกี่ยวข้องกับหลายร้อยชีวิตของตระกูลเซียว หลายปีมานี้เราต่างก็สงบเสงี่ยมทำอะไรอย่างถ่อมตน แต่ฮ่องเต้ก็ยังคงระแวงพวกเรา ตอนนี้องค์หญิงก็ได้รับรู้ความจริงแล้ว หากนางไปหาเซียวเซียว เซียวเซียวจะสามารถหักห้ามใจได้หรือ?”

เขามองดูรอบๆ พูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “ฮ่องเต้แค่ไม่สบาย ยังไม่ตาย”

จางซื่อเงียบไป ใช่ เซียวเซียวหักห้ามใจจากองค์หญิงไม่ได้เลย แค่เพียงองค์หญิงพูดจาอ่อนหวานต่อหน้าเขาไม่กี่คำ เขาก็สามารถให้องค์หญิงได้แม้กระทั่งชีวิต

หากทั้งสองคนยังติดต่อกันขึ้นมาอีก จะมีปัญหาตามมาอย่างไม่สิ้นสุด

โดยเฉพาะหลายปีมานี้ อำนาจขององค์หญิงยิ่งมากขึ้นจนน่าตกใจ เบื้องหลังมีอ๋องซื่อเจิ้ง อ๋องอันชิน อ๋องหลี่ชิน ตระกูลเฉิน ตระกูลหู ที่สำคัญที่สุดคือมีทรัพย์สินมหาศาล ฮ่องเต้จะยอมให้เซียวเซียวอภิเษกกับนางหรือ?

หากทั้งสองปรับความเข้าใจกันแล้ว กลับมาอยู่ด้วยกัน ไม่มีใครหักห้ามได้ ฮ่องเต้จะทำยังไงกับตระกูลเซียว?

จางซื่อเก็บเอาความเจ็บปวดทรมานใจอย่างไม่มีทางเลือก มาถึงหน้าประตูตำหนักองค์หญิง

นางลงรถม้า ฉีกยิ้ม บ่าวเฝ้าหน้าห้องได้ยินว่าฮูหยินจวนเหามา จึงเข้าไปรายงานแล้วออกมาพาจางซื่อเข้าไป

เมื่อจางซื่อมองเห็นซือถูจิ้ง ในใจเจ็บปวด องค์หญิงสูงศักดิ์ที่เคยงามสง่า ตอนนี้กลายเป็นซีดขาวผอมแห้ง

“จางซื่อมาขอเข้าเฝ้าองค์หญิง” จางซื่อแสดงความเคารพอย่างนอบน้อม

“ฮูหยินไม่ต้องเกรงใจ นั่งสิ” ซือถูจิ้งมองดูจางซื่ออย่างสงบ อีกนิดเดียว นางก็จะได้กลายเป็นแม่สามีของตัวเองแล้ว

อีกนิดเดียว

จางซื่อขอบคุณ หลังจากนั่งลงแล้วก็พูดกับซือถูจิ้งว่า “องค์หญิงสีหน้าไม่สู้ดี ต้องรักษาพระวรกายนะ”

“ข้าไม่เป็นไร ขอบใจที่ฮูหยินเป็นห่วง” ซือถูจิ้งมองดูนาง “ฮูหยินมาวันนี้ มีธุระอะไรหรือ?”

คนของตระกูลเซียวไม่ไปมาหาสู่นางมาตั้งนานหลายปี จางซื่อมาวันนี้ ซือถูจิ้งแปลกใจอยู่เหมือนกัน แต่ในใจก็รู้สึกได้ว่านางไม่ได้มาดีแน่

จางซื่อลังเลอยู่พักหนึ่ง คำสั่งของเหาเย๋ยังไงก็ทำใจพูดออกไปไม่ได้

ซือถูจิ้งพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “ฮูหยินมีอะไรก็พูดมาตรงๆได้”

จางซื่อฉีกยิ้มแล้วก็พูดขึ้นว่า “ก็ไม่มีเรื่องสำคัญอะไร แค่คิดขึ้นมาได้ว่าตระกูลเซียวกับตำหนักองค์หญิงมีความสัมพันธ์กันด้วยงานแต่ง หานชิวเป็นบ่าวใช้ขององค์หญิง ตั้งแต่เข้าจวนไป ก็ปฏิบัติตามธรรมเนียมได้เป็นอย่างดี ดูแลกิจการในบ้าน ดูแลจวนแม่ทัพใหญ่ได้เป็นอย่างดี ข้าตั้งใจมาเพื่อขอบคุณองค์หญิงที่อบรมสั่งสอนมาดี”

ซือถูจิ้งได้ฟังคำพวกนี้ ก็หัวเราะออกมาเบาๆ สีหน้าเยือกเย็น “ไม่เป็นไร เป็นสิ่งที่นางควรทำ”

จางซื่อไม่พูดอะไร ในลำคอนางเหมือนมีอะไรมาอุดไว้ กลืนไม่เข้า คายไม่ออก ทรมานยิ่งนัก

โฉงหวาเป็นคนอารมณ์ร้อน พูดขึ้นอย่างโมโหว่า “ท่านมาวันนี้เพื่อจะตอกย้ำซ้ำเติม เพื่ออะไร? ที่ผ่านมาองค์หญิงกับฮูหยินก็นับว่าสนิทกัน ทำไมต้องมาทำร้ายจิตใจกันแบบนี้ เรื่องของตระกูลเซียวพวกเจ้า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับตำหนักองค์หญิง ไม่จำเป็นต้องมาขอบคุณองค์หญิง”

จางซื่อละอายแก่ใจมาก “ขอองค์หญิงให้อภัย ข้า......เห้อ ช่างเถอะ คิดว่าองค์หญิงคงเข้าใจความหมายของข้า สิ่งที่ข้าทำถึงแม้จะดูเห็นแก่ตัว แต่ก็จะให้ทำยังไงได้ หวังว่าองค์หญิงจะเข้าใจ”

ซือถูจิ้งยื่นมือ นวดระหว่างคิ้ว พูดขึ้นอย่างเหนื่อยล้าว่า “ใช่ ทุกคนล้วนไม่มีทางเลือก ทุกคนต่างก็มีความลำบากใจของตัวเอง ฮูหยินกลับไปเถอะ ระหว่างข้ากับเซียวเซียวจบลงตั้งแต่สิบเอ็ดปีที่แล้วแล้ว กลับไปบอกเหาเย๋ ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะไม่มีทางทำให้ตระกูลเซียวเดือดร้อน ข้าก็ไม่ใช่เด็กที่เห็นความรักยิ่งใหญ่กว่าทุกสิ่งเหมือนเมื่อสิบเอ็ดปีที่แล้ว รู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ”

จางซื่อได้ฟังแล้วในใจเจ็บปวดอย่างที่สุด ต่อหน้าซือถูจิ้ง นางรู้สึกว่าตัวเองน่าสมเพชมาก

นางคงไม่มีหน้ามาเจอซือถูจิ้งอีก ลุกขึ้นบอกลาแล้วจากไป

เซียวเซียวก็โดนเหาเย๋เรียกไปตักเตือน เซียวเซียวไม่พูดอะไรสักคำ จนถึงสุดท้าย พูดเพียงคำเดียวว่า “หลานรู้ว่าต้องทำยังไง”

ซือถูจิ้งหัวเราะยิ่งกว่า “ใช่ ไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน อยู่ด้วยกันไม่ได้”

“ใช่” เขามองดูนางอย่างลึกซึ้ง จนไม่อยากกะพริบตา

“เจ้ายังจำได้ไหม? มีครั้งหนึ่งพวกเราออกไปงานวัดนอกวัง แล้วโดนฝูงคนเบียดพลาดจากกัน เจ้าใช้วิธีอะไรตามหาข้า?”

เซียวเซียวหัวเราะ “จำได้ ข้าถือคบเพลิงยืนอยู่บนอาคาร แล้วก็จุดไฟ เจ้าก็เดินตามแสงไฟมา ข้ามองลงมาเห็นเจ้าจึงรูดลงมาตามเชือกที่แขวนโคมมังกรสีแดงไว้ ตกลงมาตรงหน้าเจ้า”

“ใช่ เจ้าในตอนนั้น ตกลงมาจากฟ้า หล่อมาก” ซือถูจิ้งยื่นมือ ลูบคลำตาคิ้วของเขา ใบหน้านางยังคงยิ้มแย้ม ยิ้มอย่างอ่อนหวานปนเศร้า

และในวินาทีนั้น ในใจของนางก็ตัดสินใจว่า จะแต่งงานกับเขาคนเดียวเท่านั้น

อยากที่จะให้วันเวลาหยุดอยู่ ณ คืนนั้นไปตลอด

นางรินเหล้ามาหนึ่งจอก ดื่มลงไป เหล้าขมมาก ขมจนนางสั่นไปทั้งตัว

พวกเขาคุยกันถึงเรื่องสมัยก่อนกันอยู่แบบนี้ สุดท้ายกลับพบว่า ที่แท้วันเวลาตอนวัยเยาว์ที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน พวกเขาต่างก็มีใจให้กันแล้ว มุ่งมั่นสัญญาที่จะอยู่เคียงข้างกันไปตลอดชีวิต

เขาโง่ นางซื่อ จากคู่รักที่เหมาะสมกันดั่งกิ่งทองใบหยกตั้งแต่วัยเยาว์ กลับต้องมีจุดจบแบบนี้

สุดท้ายซือถูจิ้งเอามือแตะที่ริมฝีปากของเขา แล้วพูดขึ้นว่า “เซียวเซียว หากชาติหน้ามีจริง ข้าไม่เป็นลูกสาวเชื้อพระวงศ์ เจ้าไม่เป็นลูกชายตระกูลแม่ทัพ บางทีพวกเราอาจจะได้อยู่ด้วยกัน”

ดวงตาเซียวเซียวเปื้อนไปด้วยน้ำตา “ใช่ ขอเป็นแค่สามัญชน แต่งงาน มีลูก อยู่อย่างสงบสุขไปตลอดชีวิต”

ซือถูจิ้งยิ้มแย้มแล้วลุกขึ้น “ข้าไปละ”

เซียวเซียวยืนขึ้น ยังคงยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะ มองดูนางเดินไปสามก้าวแล้วหยุดหันมามอง จนลับหายไปจากสายตาเขา หายไปจากชีวิตเขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม