ตอนที่ 338 เหาเย๋เข้าวัง
หลีโม่โดนฮองไทเฮาตรัสสั่งให้เข้าวัง ในใจเดาได้ว่าน่าจะเป็นเรื่องอะไร
ซือถูเย้นก็อยู่ในจวน นางถามว่า “หากฮองไทเฮาถาม จะพูดความจริงดีไหม?”
ซือถูเย้นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เจ้าตัดสินใจเอง”
หลีโม่ก็ยากที่จะตัดสินใจ เรื่องนี้ ฮองไทเฮาจะต้องรู้เรื่องแน่ อย่างน้อยก็รู้บ้างบางส่วน หากพูดออกมา ก็อาจจะทำให้นางเสียหน้า
ซือถูเย้นเงยหน้ามองดูนาง แล้วพูดขึ้นว่า “ไม่มีอะไรต้องคิดมาก”
หลีโม่มองดูเขา สีหน้ามีรอยยิ้มอ่อนๆ “ได้ ข้ารู้แล้ว”
ในใจซือถูเย้นก็เป็นห่วงซือถูจิ้ง เขาไม่ก้าวก่ายการตัดสินใจของนาง เพราะฮองไทเฮาไม่ได้เรียกเขาเข้าเฝ้า
เขารู้ว่าสุดท้ายแล้วนางก็ต้องพูด ที่จริงเขาก็อยากให้นางพูด เพราะหากฮองไทเฮามีส่วนรู้เห็นเรื่องนี้ ถ้างั้น นางก็ต้องมีคำอธิบายให้กับซือถูจิ้ง
หลีโม่มาถึงตำหนักโส้อาน ฮองไทเฮาสั่งให้ทุกคนออกไป มองดูนางแล้วถามว่า “องค์หญิงขอสายเชือกเตาปาจากเจ้าเพื่อไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ เจ้ารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นใช่ไหม?”
หลีโม่พยักหน้า “รู้”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? สามารถบอกข้าได้ไหม?” ฮองไทเฮาถามขึ้นด้วยท่าทางที่เปลี่ยนไป
หลีโม่เงยหน้าขึ้น มองดูท่าทางฮองไทเฮาที่ค่อนข้างกระวนกระวาย “ฮองไทเฮา องค์หญิงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในปีนั้นแล้ว นางรู้ว่า ฮ่องเต้สั่งห้ามไม่ให้เซียวเซียวมาสู่ขอซือถูจิ้ง หานชิงชิวแค่ทำตามคำสั่งฮ่องเต้ไปล่อลวงเซียวเซียว”
สีหน้าฮองไทเฮาเปลี่ยนเป็นซีดขาว มือของนางทั้งสองข้างค่อยๆวางลง แต่กลับใช้แรงคว้าจับเก้าอี้ไว้อย่างแน่น ดวงตาฉายแววสับสน
หลีโม่มองดูนาง แต่ก็ดูไม่ออกว่านางคิดอะไรอยู่
ผ่านไปเนิ่นนาน ฮองไทเฮาค่อยๆถอนหายใจ “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้”
หลีโม่สะดุ้ง นางไม่รู้เรื่อง?
ฮองไทเฮายื่นมือ ให้นางนั่งลง แล้วพูดว่า “ที่จริงข้าก็เดาได้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่กล้าไปถามฮ่องเต้”
“ฮองไทเฮาไม่รู้เรื่องมาตลอดหรือ?” หลีโม่ถามขึ้น
ดวงตาฮองไทเฮาซีดขาว “บอกว่าไม่รู้ ก็ไม่ถูกต้อง เหาเย๋เข้าวังมาขอร้องข้า ขอให้ออกราชโองการให้เซียวเซียวกับหานชิงชิวได้แต่งงานกัน ข้าด่าทอเขาไป แล้วยังไล่เขาออกไป แต่ฮ่องเต้มาขอร้องข้าด้วยตัวเอง ให้ข้าออกราชโองการ ตอนนั้นข้าตกใจมาก ถามเขาว่าหมายความว่ายังไง ฮ่องเต้บอกข้าว่า เซียวเซียวอยากหลอกใช้ซือถูจิ้ง ตระกูลเซียวมีแผนการคิดจะกบฏ เขาให้ข้าออกราชโองการเพราะเหาเย๋รังเกียจที่หานชิงชิวมีชาติกำเนิดไม่สูง ให้ข้าเป็นคนออกราชโองการสามารถช่วยยกฐานะของหานชิงชิว สุดท้ายข้าก็เลยตกลง”
“ฮองไทเฮาเชื่อ?” หลีโม่ถามขึ้นเสียงสูง
ฮองไทเฮาพูดว่า “ตอนนั้นข้าเชื่อ แต่หลังจากเกิดเรื่องนี้แล้ว ข้ามาลองคิดดูอีกที”
“รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ เซียวกงคนนี้ ข้ารู้จักดี เขามีความจงรักภักดีต่อราชวงศ์มาก จะคิดกบฎได้อย่างไร? หลังจากนั้น เซียวเซียวไปออกรบ ได้ชัยชนะ นอกจากกลับมาเมืองหลวงเพื่อรายงานตัวแล้ว ก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย ข้าก็เลยรู้ว่าเขาคงเสียใจอย่างที่สุด แต่แล้วจะทำยังไงได้? ข้าจะไปสืบความเรื่องนี้ยังไง ฮ่องเต้ ยังไงก็เป็นลูกชายของข้านี่”
นางเงยหน้าขึ้นมาทันที “กงกง เรียกจิ้งโก๋วเหาเข้าวัง”
หลีโม่สะดุ้ง “ไทเฮาคิดจะทำอะไร?”
ท่าทางฮองไทเฮาเจ็บปวด “ข้าอยากรู้ว่าตอนนั้นฮ่องเต้พูดยังไงกับตระกูลเซียว ข้าเพิ่งคิดขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง”
“เรื่องอะไร?” หลีโม่ถามขึ้น
“นี่ก็คือความจริง ฮองไทเฮาไม่จำเป็นต้องสืบความ เรื่องราวก็ผ่านมาสิบเอ็ดปีแล้ว ทุกอย่างผ่านไปแล้ว ฮ่องเต้เฉลียวฉลาด ในขณะที่ครองราชย์ ได้สร้างบุญกุศลให้แก่ประชาชน ได้รับความจงรักภักดีจากประชาชน ถือเป็นจักรพรรดิที่ดีที่หาได้ยาก” เหาเย๋พูดขึ้นอย่างเคร่งขรึม
หลีโม่รู้ดีว่าเหาเย๋ไม่มีทางพูดอะไรออกมา เขาเป็นคนมุ่งมั่นและอดทน และเป็นแม่ทัพที่มองการไกล เขารู้และเข้าใจอย่างลึกซึ้ง แผนการเพื่อบ้าน แผนการเพื่อตระกูลเซียว ทุกอย่างต้องเก็บเป็นความลับ
ฮองไทเฮาเห็นเขายืนยันไม่ยอมพูด จึงถามขึ้นว่า “ช่างเถอะ ข้ารู้จักเจ้าดี หากเจ้าไม่ยอมพูด ก็ไม่มีใครสามารถเปิดปากเจ้าได้ ข้าแค่ขอถามเจ้าคำเดียว ตอนนี้หากเซียวเซียวกับองค์หญิงยังรักกันอยู่ เจ้าจะยอมรับองค์หญิงเข้าตระกูลไหม?”
เหาเย๋ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วค่อยๆพูดขึ้นว่า “หลานของข้าไร้ความสามารถ ไม่คู่ควรกับองค์หญิง”
หลีโม่สีหน้าสลดลง ดูแล้ว ตระกูลเซียวเกรงกลัวจริงๆแล้ว
ฮองไทเฮาถอนหายใจอย่างหนัก “เจ้าไปเถอะ”
ก่อนที่เหาเย๋จะไป เขามองดูหลีโม่แล้วพูดขึ้นว่า “หวังเฟย ทุกอย่างเป็นไปอย่างดีที่สุดแล้ว หวังเฟยไม่จำเป็นต้องใส่ใจ”
คำพูดนี้ เป็นการพูดเตือนหลีโม่ว่า อย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น
หลีโม่เงียบไม่พูดอะไร นางรู้ดีกับความเป็นบ้านตระกูลใหญ่ บนบ่าต้องแบกรับอะไรไว้บ้าง ชีวิตของคนทั้งตระกูล เจ้าจะใจอ่อนแม้แต่น้อยไม่ได้เด็ดขาด
หลังจากที่เหาเย๋ออกจากวังแล้ว ได้สั่งผู้ติดตามด้วยเสียงเข้มว่า “รีบไปสืบมา วันนี้องค์หญิงเข้าวังมาหรือเปล่า”
“รับทราบ” ผู้ติดตามรับคำสั่งแล้วก็รีบไป
เหาเย๋กลับมาถึงจวน ไม่นานทหารติดตามก็กลับมา “เรียนเหาเย๋ วันนี้องค์หญิงได้เข้าวังไปจริงๆ ยังไปพบฮ่องเต้ด้วย”
สีหน้าเหาเย๋หนักใจ ครุ่นคิดอยู่นาน เงยหน้าขึ้นแล้วค่อยๆพูดว่า “ให้ฮูหยินใหญ่ไปตำหนักองค์หญิงที ไปคุยกับองค์หญิงหน่อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...