พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 345

ตอนที่ 345 ฮ่องเต้ประชวรหนัก

อ๋องอานชินได้ยินเสียงจากข้างในจึงเดินออกมาด้านนอก เห็นองค์รัชทายาทโกรธเคืองเซียวโธ่ผ่านสายตา รู้สึกมีอารมณ์โกรธขึ้นมาบ้างทันที ไม่คิดสิ่งใดมือหนึ่งก็ตบลงบนใบหน้าขององค์รัชทายาทเสียแล้ว ขึ้นเสียงกบ่าวอย่างดุดัน “ท่านอาของเจ้ายังนอนอยู่บนเตียงไม่รู้จะรอดหรือตาย เจ้ามาก่อเรื่องอะไรที่นี่ ไสหัวไปซะ”

องค์รัชทายาทไม่เคยเห็นอ๋องอานชินโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้มาก่อน ไม่คิดว่าอ๋องอานชินจะลงมือลงไม่กับเขาต่อหน้าหูฮวนซีและเซียวโธ่ นี่เป็นเรื่องอัปยศสิ้นดีสำหรับเขา

อ๋องอานชินไม่สนใจเรื่องราวในวังมาตั้งนานแล้ว และองค์รัชทายาทมาหาอยู่ไม่บ่อยครั้ง ปกติเขาไม่ได้อยู่ในสายตาองค์รัชทายาทอยู่แล้ว ตอนนี้ได้ลิ้มรสฝ่ามือนี้ มิอาจยอมแพ้ได้ มองอ๋องอานชินด้วยความเกลียดชังเสียเต็มประดา “ดี ข้าจะกลับไปรายงานท่านแม่ มือข้างนี้ ข้าจะจดจำเอาไว้”

อ๋องอานชินตอบกลับไปอย่างเย็นชา “เจ้ายังไม่ไปอีกรึ ข้าจะตีให้ขาหัก”

อี๋เฟยไม่ได้ไร้เดียงสาเช่นองค์รัชทายาท นางรู้ว่าอ๋องอานชินนั้นเก่งฉกาจ จึงออกปากกล่าวกับองค์รัชทายาท “องค์รัชทายาท พวกเราไปกันก่อนเถิดเพคะ เกิดเรื่องกับองค์หญิง ทุกคนล้วนเสียใจ ฮองเฮาเหนียงเหนียงให้ท่านมาเยี่ยมองค์หญิง บัดนี้ก็เยี่ยมแล้ว ไปกันเถิดเพคะ”

นางยกฮองเฮามากล่าวราวกับไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่ความจริงต้องการเตือนอ๋องอานชินว่าอย่าทำตามอำเภอใจมากจนเกินงาม

อ๋องอานชินจ้องไปที่เขาด้วยสายตาเย็นยะเยือก จ้องจนกระทั่งองค์รัชทายาทจากไปด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง

หูฮวนซีไม่ได้คิดว่าเรื่องจะวุ่นวายเช่นนี้ นางรู้สึกผิดหวังอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนางรู้ว่าองค์รัชทายาทนั้นคิดเล็กคิดน้อย ไม่น่าจะปล่อยเซียวโธ่ไปง่ายๆ

ทั้งเซียวโธ่ยังเป็นคนที่ซื่อตรงสายตามั่นคง

หลังจากซือถูเย้นเข้าวังมา ก็ตรงไปตำหนักซีเวยทันที

ลู่กงกงและเปากงกงก็จับเขาเอาไว้ไม่อยู่ เขาโกรธเหมือนกับสายฟ้าฟาด ไล่ขุนนางในวังและหมอหลวงออกไป

เดินเข้าไปยังที่บรรทม แหวกม่านหนาๆออกแล้วเดินไปยืนอยู่ข้างเตียง

เขากล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้ารู้ว่าตื่นแล้ว ข้าเพียงอยากรู้ว่าสิบเอ็ดปีก่อนนั้นข่มขู่เซียวเซียวอย่างไรบ้าง”

ฮ่องเต้ที่นอนอยู่บนเตียงไม่ส่งเสียงตอบกลับอยู่พักใหญ่ ก่อนหันไปกล่าวด้วยความเรียบเฉย “องค์ชายเจ็ด ข้าให้อำนาจแก่เจ้า มิใช่เพื่อบุ่มบ่ามเข้ามาให้ตำหนักส่วนตัวเช่นนี้ ”

ซือถูเย้นเรียบนิ่ง “ฮ่องเต้ทราบนิสัยใจคอของผู้น้องดี ข้าไม่ใช่อ๋องซื่อเจิ้งจะมาโผงผางเหมือนกันได้อย่างไร”

“นิสัยใจคอเจ้า…” เขาลากเสียงยาว “ล้วนเอาแต่เรียกร้องไห้ข้าตามใจ เจ้ารู้หรือไม่เพราะเหตุใด เรื่องล้วนผ่านแล้วผ่านไป กูกูเคยให้การสนับสนุน สิบปีก่อนนางร่วมมือเป็นอย่างดี”

“นางกินยาฆ่าตัวตาย ทั้งๆที่ยังใส่ชุดแต่งงาน!” ดวงตาซือถูเย้นแดงรื้นขึ้น จ้องมองคนบนเตียง

ใบหน้าของเขานั้นหวาดกลัว ดวงตาของเขาราวกับจะถลนออกมา มือทั้งสองกำผ้าห่มแน่น หายใจได้เพียงครึ่งๆกลางๆ

ผ่านไปนานครู่หนึ่ง เขาหลับตาลง “ข้าละอายใจต่อนาง”

“นางคิดมาตลอดว่าเจ้าดีต่อนาง ด้วยความจริงใจ” ซือถูเย้นมองไปที่เขา “เหตุใดจึงทำเช่นนี้”

ฮ่องเต้เงียบลงไปอีกครา ก่อนจะกล่าวขึ้น “เจ้าเป็นท่านอ๋องอยู่ทุกวันนี้ ไม่รู้ว่าเหตุใดหรือ เหตุใดเจ้าจึงอยากควบคุมองค์รัชทายาท เหตุใดจึงอยากฉีกอำนาจของไถ้ฝู้ เหตุใดจึงทำลายเสี้ยห้วยจุน เหตุผลไม่ต่างกัน”

“อีกผู้หนึ่งทรยศ อีกผู้หนึ่งภักดี ข้าไม่เห็นว่ามีส่วนใดที่เหมือนกัน”

“ผู้ภักดี” เขายิ้มเย็น “ตอนนี้ในสายตาอาจเป็นผู้ภักดี หากแต่ว่ามนุษย์นั้นเหมือนกัน เมื่อมีอำนาจ ก็ย่อมก่อกบฎได้ ผู้ภักดีก็สามารถเป็นผู้ทรยศได้ ผู้ทรยศที่ต้องการแย่งชิงบัลลังก์”

“เรื่องเกิดมาถึงบัดนี้ ยังคิดเช่นนี้รึ” ซือถูเย้นกัดฟันกรอด กำมือแน่น

ลู่กงกงพุ่งเข้ามา วางผ้าและน้ำร้อนไว้บนพื้น ปรนิบัติอยู่ข้างเตียง

ซือถูเย้นมองดูอาการไอที่ทำให้หายใจเกือบไม่ทันก่อนจะถอยออกไปเงียบๆ ความเจ็บปวดค่อยๆประทับลงมาในใจ เขารู้ดี ไม่ว่าเอาผิดเขาแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้กูกูกลับมีชีวิตต่อได้ และเข้าเกือบจะต้องเผชิญหน้าตาต่อตาฟันต่อฟันกับผู้ที่เป็นพี่ชายของเขา

หลังจากที่ซือถูเย้นจากไป ฮ่องเต้ไอออกมาเป็นเลือด หมอหลวงเขามารักษาอาการเป็นพัลวัน สามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้ฉับพลัน หากแต่ว่าอาการค่อนข้างรุนแรง

หลังจากฮองไทเฮาหลังมาในวังแล้ว น้ำตาไม่เคยหยุดไหล หากซือถูจิ้งตายด้วยโรคหรือสิ่งอื่นนางจะไม่เจ็บปวดถึงเพียงนี้ แต่กลับใช้วิธีนี้ นางรู้ว่าตนมีส่วนรู้เห็น บีบให้ซือถูจิ้งต้องฆ่าตัวตาย เหตุนี้นอกจากจะเจ็บปวดซ้ำยังเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

ทุกคนล้วนรู้ว่านางใช้ยาพิษหลับสบาย ไม่มีทางถอนพิษได้ มีแต่ต้องตายเท่านั้น

“ซุนกงกงไปเขาสิ้นหานบัดเดี๋ยวนี้ ไปดูว่าไทฮองไทเฮาอยู่ที่โดยหานหรือไม่ ” ฮองไทเฮายังคงเสียใจ นึกถึงไทฮองไทเฮา

ซุนกงกงส่ายหน้า ”ไม่จำเป็นต้องไปแล้ว ไทฮองไทเฮาไปจากที่นั้นแล้ว ไม่กลับมาอีกอย่างไร้ข้อกังขา“

ฮองไทเฮาถอดหายใจหนัก ”ข้าละอายใจกับบรรพบุรุษตระกูลอย่างนางนัก นางเพิ่งจะจากไป ซือถูจิ้งก็มาเกิดเรื่องเสียได้ ข้า……“

สาวใช้ก้าวเข้ามา ”ไทเฮา ตำหนักซีเวยมีคนมาเข้าเฝ้าเพคะ“

สีหน้าฮองไทเฮาเปลี่ยนทันที ”รีบพาเข้ามา“

เปากงกงก้าวเข้ามา คำนับลงบนพื้น ”รายงานไทเฮา ฮ่องเต้ทรงประชวนหนักอีกครา หมอหลวงกล่าวว่าอาการไม่ดีนัก“

ฮองไทเฮาแทบหายใจไม่ออก มองเปากงกงด้วยความตกใจอย่างมาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม