ตอนที่ 356 เจอตัวอี้เอ๋อร์
หลีโม่พาเตาเหล่าต้าตามไปด้วย แม่ของอี้เอ๋อร์หันกลับไปมอง นางเองก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพียงพูดด้วยน้ำเสียงปกติว่า “พระชายาก็มาด้วยหรือเพคะ?”
“ใช่” หลีโม่เดินเข้าไป แต่เห็นหมาป่าที่นางจูงมาด้วยอยู่ๆ ก็กระโดดขึ้นมา คิดจะพุ่งเข้าใส่หลีโม่อย่างดุร้าย แม่ของอี้เอ๋อร์ตะคอกใส่มันอย่างรุนแรง “ถอยไป ไม่มีตาเอาเสียเลย คนดีคนเลวก็แยกไม่ออกแล้วงั้นหรือ?”
เมื่อหมาป่าตัวนั้นถูกแม่ของอี้เอ๋อร์ตำหนิ ทันทีหลังจากนั้นมันก็ถอยหลังแล้วหมอบลงข้างๆ เท้า เชื่อฟังยิ่งนัก
หลีโม่มองนางด้วยความสนใจ มักจะรู้สึกว่าสตรีผู้นี้ไม่ธรรมดา จึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ว่า “ไม่ทราบว่าท่านมีชื่อว่าอย่างไร?”
“หลิวเยว่” แม่ของอี้เอ๋อร์กล่าว
หลีโม่มองไปที่นาง รู้สึกตะลึงงันไม่น้อย “หลิวเยว่? เจ้าคือหลิวเยว่งั้นหรือ?”
แม่ของอี้เอ๋อร์มองนางด้วยท่าทางนิ่งสงบ “ข้าชื่อหลิ้วเยว่ ไม่ใช่หลิวเยว่”
หลีโม่คิดขึ้นมาได้ว่าอี้เอ๋อร์บอกว่าแม่ของนางมีเขาละมั่งโลหิต หรือว่าจะเป็นผู้ช่วยหลิวเยว่ของสำนักขายเกลือที่ขโมยเขาละมั่งโลหิตไปจริงๆ?
หลีโม่ดีใจแทบบ้าอยู่ในใจ หากว่าใช่ล่ะก็ ก็ดีมากจริงๆ มีทางช่วยซือถูจิ้งได้แล้ว
ทว่านางเก็บอาการเอาไว้แล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ!”
คนกลุ่มหนึ่งเดินขึ้นไปบนเขา หลิวเยว่และหลีโม่เร่งฝีเท้าเดินอย่างรวดเร็วราวกับจะบิน ถนนบนภูเขาลูกนี้ สำหรับพวกนางแล้วมันเรื่องที่ง่ายมาก
เมื่อมาถึงหน้าประตูวัด มีเณรน้อยกำลังกวาดใบไม้อยู่ด้านนอก เมื่อเห็นคนมา สีหน้าของเขาก็ตื่นตระหนก “พวกเจ้าเป็นใคร? ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกเจ้ามาได้”
เตาเหล่าต้าเดินขึ้นมาแล้วพูดว่า “บังอาจ พระชายาซื่อเจิ้งมา ยังไม่รีบเข้ามาต้อนรับอีกหรือ?”
เณรน้อยได้ยินที่เตาเหล่าต้าพูดมา อีกทั้งมองไปที่องครักษ์ที่สวมชุดเหมือนกันอยู่ด้านหลังหลีโม่หลายคน ดูเหมือนว่าจะเป็นคนของวังหลวง
“เอ่อ...” เณรน้อยชี้ไปที่หมาป่าของหลิวเยว่ก็ตกใจกลัวขึ้นมา “หมาป่าตัวนี้เข้าไปไม่ได้”
“นี่คือสุนัข” หลิวเยว่กล่าว
แม้เณรน้อยจะไม่มีประสบการณ์อะไร แต่ก็รู้ว่ามันไม่ใช่สุนัข จึงรีบโบกมือ “เป็นสุนัขก็เข้าไปไม่ได้ เพื่อไม่ทำให้แขกชั้นสูงของที่นี่ตกใจกลัว”
หลีโม่คิดเพียงว่าแขกชั้นสูงที่เขาพูดถึงคือองค์รัชทายาท แต่คิดไม่ถึงว่าอี๋เฟยจะอยู่ที่นี่ด้วย
หลีโม่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าต้องการจะเข้าไปข้างใน ส่วนนางคือสหายของข้า ก็จะเข้าไปข้างในเหมือนกัน เจ้าอยากจะขัดขวางหรือไม่?”
เณรน้อยตะลึงงัน แม้จะบอกว่าพระชายาซื่อเจิ้งเทียบอี๋เฟยไม่ได้ แต่หากจะพูดกันตามตรง ตอนนี้ผู้ที่ควบคุมอำนาจคืออ๋องซื่อเจิ้ง
เขาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน จากนั้นก็ถอยหลังไป “พระชายาเชิญขอรับ!”
หลิวเยว่จูงหมาป่าเข้าไปด้วย หลังจากเข้าไปแล้วก็ปล่อยมัน หมาป่าตัวนั้นก็วิ่งออกไปปอย่างรวดเร็ว หลิวเยว่รีบตามไปทันที หลีโม่เองก็ตามไปด้วยเช่นเดียวกัน
หมาป่าวิ่งตรงไปที่ห้องเก็บฟืน ก็ได้ยินเสียงร้องให้ช่วยของอี้เอ๋อร์จากไกลๆ
สีหน้าของหลิวเยว่เย็นยะเยือก นางพุ่งเข้าไปเปิดประตูห้องเก็บฟืนทันที เห็นอี้เอ๋อร์ถูกชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งพุ่งเข้าไป เสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ย สีหน้าของนางดูจนตรอก
เมื่อชายฉกรรจ์ที่อยู่ข้างๆ เห็นว่ามีคนมา จึงพุ่งหมัดเข้าใส่ทันที แต่ถูกหมาป่ากัดเข้าไปที่ขาของเขาอย่างแรง หมาตัวนั้นกระชากเนื้อของเขาออกมาชิ้นใหญ่
หลิ่วเยว่รีบพุ่งเข้าไปดึงชายฉกรรจ์ที่อยู่บนตัวอี้เอ๋อร์ออกมาทันที หลีโม่ดูไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่นัก ก็ได้ยินเสียง “แกรก” ดังขึ้นมา ชายฉกรรจ์ผู้นั้นนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ถูกคอหัก ขาดใจตายลงทันที
หลีโม่พยุงอี้เอ๋อร์ลุกขึ้นมา ดึงเสื้อนางขึ้นมาให้เรียบร้อย อี้เอ๋อร์ร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของหลีโม่ “คนพวกนี้ทำไมถึงเลวขนาดนี้”
หลิ่วเยว่จัดการชายฉกรรจ์ผู้นั้นแล้ว จึงมองอี้เอ๋อร์ด้วยสายตาเย็นชา “ข้าเคยบอกเจ้าไปกี่รอบแล้ว? ไม่ให้ออกจากบ้านไปตามลำพัง เจ้ายังไม่เชื่อข้าอีก”
อี้เอ๋อร์พูดอย่างน้อยใจว่า “ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นคนเลวนี่นา เขาบอกว่าเขาคือน้องชายของพี่ใหญ่”
“ไอ้หมาส่ำส่อนรัชทายาทผู้นั้นหรือ?” หลิวเยว่ไม่ได้ปลอบใจนาง เพียงแต่ถามนางออกมาตรงๆ
“ข้าไม่รู้ เขาบอกว่าให้เป็นรางวัลให้แก่พวกเขา” อี้เอ๋อร์ปาดน้ำตา ใบหน้ากลมๆ ยังคงเปรอะไปด้วยน้ำตา ทำให้หลีโม่อดสงสารขึ้นมาไม่ได้
สีหน้าของนางค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้นมา มองไปที่นาง ถึงได้เข้าใจว่าทำไมนางถึงได้ดูเหมือนไม่เข้าใจอะไร คงจะเป็นเพราะถูกปกป้องมากเกินไป
“ข้าไม่เป็นอะไร!” อี้เอ๋อร์เก็บมือกลับมา เห็นสีหน้าของหลีโม่สงสัยอย่างหนัก จึงยิ้มขึ้นมาเพื่อปลอบใจ
หลีโม่มองนาง นางเองก็คงจะรู้ เด็กสาวผู้นี้ช่างมองโลกในแง่ดีและน่ารักจริงๆ
นางรู้สึกละอายใจกับสิ่งที่นางพูดเกี่ยวกับอ๋องเหลียงเหล่านั้น
แต่ความละอายใจก็อยู่เพียงชั่วคราว นางลุกขึ้นมาดึงมือของนางขึ้น “ไป พวกเราออกไปรอท่านแม่ของข้าที่ปากทางเข้าเถอะ”
“ได้” อี้เอ๋อร์เดินออกไปกับนางอย่างว่าง่าย เมื่อเห็นเตาเหล่าต้าจัดการกับศพเรียบร้อยแล้ว จึงหันมาสั่งว่า “พี่ชายศพที่เจ้าลากออกไป ข้างนอกมีหมาป่าอยู่ หมาป่ามันกินจนอิ่มท้อง ไม่สิ้นเปลืองเลยจริงๆ”
หลีโม่เดินสะดุดเกือบจะกลิ้งลงบันได
นางให้องครักษ์พาหลีโม่ออกไป ส่วนตัวนางจะไปหาหลิวเยว่ นางไม่ออกหน้า แต่ก็ต้องไปดูฉากอันครึกครื้นเหล่านั้นแน่นอน
หลิวเยว่พาซื่อเย่นไปด้วย หาดูทุกห้องในหอตะวันตก ในที่สุด ก็ได้เห็นองครักษ์กับนางกำนัลยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูห้องหนึ่ง
องครักษ์กับนางกำนัลมองไม่เห็นนาง นางหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กระโดดเข้าไปในหน้าต่างด้านซ้าย
คนบนเตียงกำลังร่วมรักกัน มีหรือจะได้ยินว่ามีคนกำลังเข้ามา?
หลิวเยว่นั่งลงอย่างช้าๆ หยิบกิชเล่มหนึ่งออกมา และหยิบหินลับมีดก้อนเล็กๆ ออกมาด้วย นางค่อยๆ ลับกริชบนหินอย่างช้าๆ
เสียงที่ไม่น่าฟังยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ แต่นางก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน ยังคงลับมีดด้วยท่าทางนิ่งสงบอย่างนั้น
หลีโม่อยู่บนหลังห้อง นางหยิบอิฐก้อนหนึ่งออก มองเห็นทุกอย่างที่อยู่ด้านล่าง
แสงอาทิตย์สาดเข้าไปกระทบบนกริชเล่มนั้น มันเปล่งแสงที่ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...