ตอนที่ 360 อ๋องเยว่ตงกลับมาแล้ว
“เหลียงสู้หลินเป็นแม่ทัพหวยห้วาอันดับห้า เหลียงไถ้ฝู้มอบหมายงานให้เขาตามอำเภอใจ แต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าองครักษ์ของพระตำหนักบูรพาขององค์รัชทายาท”
“คนในตำหนักบูรพา?” หลีโม่ยิ้มอย่างเย็นชา “กุ้ยไท่เฟยช่างปราดเปรื่องจริงๆ ใช้คนของตระกูลเหลียง แล้วยังมาใช้คนของตำหนักองค์รัชทายาทอีก นางใจกล้ายิ่งนัก”
“นางมีใจทะเยอทะยานเหมือนอู่เฮ่า และมีความอำมหิตเหมือนกับอู่เฮ่า และยิ่งมีแผนการกลอุบายต่างๆ เหมือนอู่เฮ่า”
“ข้อมูลพวกนี้ เจ้าไปรู้มาจากไหนกัน?” หลีโม่มองไปที่นาง นางเป็นแม่ค้าร่ำรวยผู้หนึ่ง จะไปรู้สถานการณ์ภายในของกุ้ยไท่เฟยได้อย่างไร?
หูฮวนซีเหลือบตาขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้นเจ้าคิดว่าร้านจู้เสียนของข้าเป็นร้านอะไรกันล่ะ? เพียงแค่รับเงินจากกุ้ยเหรินพวกนั้นเท่านั้นหรือ? หากไม่สืบข่าวดูเสียหน่อย ธุรกิจนี้ของข้าก็คงไม่มีทางดำเนินไปได้ พึ่งพาธรรมชาติในการดำรงชีวิตและยังต้องพึ่งพานโยบายของราชสำนักทำมาหากิน ไม่ใช่หรืออย่างไร?”
หลีโม่ยิ้มแล้วพูดว่า “หูฮวนซี สมแล้วที่เจ้ารวยขนาดนี้”
“เมื่อได้สู่ขอองค์หญิง ถึงจะรวยมหาศาล องค์หญิงมีฐานะสูงส่ง นางผ่านฮ่องเต้มาสามรัชสมัย ความร่ำรวยของนางเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการได้”
หลีโม่พยักหน้า “ข้ารู้ นับแต่วันนี้จะมีคนเข้ามาในวังหลวงบอกฮองไทเฮาว่ามีใจอยากจะจัดงานอภิเษกสมรสกับองค์หญิง ข้าเองก็รู้ว่าพวกเขาแห่กันมาเพื่ออะไร”
“เจ้ามีวิธีอะไรรับมือหรือไม่?” หูฮวนซีมองไปที่หลีโม่พร้อมกับเอ่ยถาม นางเป็นห่วงองค์หญิงมากจริงๆ สำหรับนาง หลีโม่ที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันยังมีความหมายไม่เท่าองค์หญิง นางผูกอาฆาต ก็จดจำบุญคุณได้เช่นกัน
หลีโม่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง “รอเหล่าชีออกมาจากวังค่อยคิดอีกทีก็แล้วกัน เขาเข้าวังไปนานแล้ว จนตอนนี้ยังไม่กลับออกมาเลย”
“ได้ยินมาว่าอ๋องเยว่ตงก็เข้าวังด้วยเช่นกัน อ๋องเยว่ตงเองก็เห็นด้วยกับการหาพระสวามีให้กับองค์หญิง อีกทั้งอ๋องเยว่ตงก็มีปัญหากับตระกูลเซียว เพราะเรื่องในตอนนั้นที่เซียวเซียวทำให้องค์หญิงผิดหวัง แม้ข้าจะรู้สึกว่าเรื่องมันพูดกันชัดเจนแล้ว อ๋องเยว่ตงก็เปลี่ยนทัศนคติต่อเซียวเซียวแล้ว ทว่าเขาก็ไม่ยอมให้องค์หญิงแต่งงานกับเซียวเซียว เพราะว่าเซียวเซียวมีภรรยาเอกแล้ว”
หลีโม่กล่าวว่า “เรื่องนี้ข้าเองก็กังวลอยู่เหมือนกัน ตอนนี้ข้าหาเขาละมั่งโลหิตเจอแล้ว หาตัวหลิวเยว่เจอแล้ว ทว่าข้าไม่กล้ามั่นใจเต็มร้อย ว่านางจะส่งมันมาให้กับข้า ระหว่างนางกับซ่งรุ่ยหยางยังมีเรื่องบาดหมางใจ…บางทีอาจจะมีปัญหากัน”
“ปล้น? หรือไม่ก็ขโมย?” หูฮวนซีเสนอความคิดเห็น
หลีโม่ส่ายหัว “ข้าเองก็เคยคิด แต่นางเป็นผู้ช่วยของสำนักงานขายเกลือ นางฉลาดมาก และเจ้าเล่ห์มากอีกด้วย นางรู้กลอุบายสกปรกทุกอย่าง และนางมีวิธีการป้องกัน นอกจากนางจะเอามาให้ด้วยความเต็มใจ ไม่อย่างนั้นแม้จะพลิกบ้านของนางก็ไม่มีทางหาเขาละมั่งโลหิตเจอแน่นอน”
หูฮวนซีพูดว่า “ข้าเคยได้ยินมาว่าหลิวเยว่ผู้ช่วยสำนักงานขายเกลือผู้นี้ บรรพบุรุษเป็นคนซีเหลียง หลังจากแต่งงานกับสตรีชาวต้าเหลียง ก็ตั้งหลักปักฐานอยู่ที่แคว้นต้าเหลียง สำนักงานขายเกลือเป็นดั่งหอกข้างแคร่ของราชสำนักต้าเหลียง ได้ยินมาว่าตอนที่จะรับสำนักงานขายเกลือเข้าราชสำนัก องค์หญิงใหญ่จิงโม่แห่งแคว้นต้าเหลียงก็เรียกนางเข้าเฝ้า แต่ว่าสุดท้ายองค์หญิงใหญ่จิงโม่ก็ปล่อยนางกลับไป ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ต่อมานางก็หนีออกมาจากสำนักงานขายเกลือ ทั้งยังหนีออกมาจากแคว้นต้าเหลียงด้วย คิดไม่ถึงว่าจะมาปรากฏตัวอยู่ในเมืองหลวงแคว้นต้าโจว ทั้งยังให้กำเนิดลูกสาวอีกหนึ่งคนด้วย”
“อี้เอ๋อร์คือลูกสาวของซ่งรุ่ยหยาง”
หูฮวนซียิ้มออกมาทันที “เช่นนั้นเจ้าก็คิดว่านางจะรักซ่งรุ่ยหยางใช่หรือไม่?”
“ข้าได้ส่งคนออกไปตรวจสอบว่านางมาเมืองหลวงตั้งแต่เมื่อไหร่ หากบังเอิญเป็นสิบปีก่อน เช่นนั้นข้าก็คิดถูกแล้ว สิบเอ็ดปีก่อน ซ่งรุ่ยหยางมาที่เมืองหลวงเพื่อสู่ขอองค์หญิง”
หูฮวนซูกล่าวเตือนสติว่า “หลีโม่ สำนักงานขายเกลือใช่ว่าจะยั่วโมโหได้ง่ายๆ ตั้งแต่นางหนีออกมา สำนักงานขายเกลือตอนนี้ก็ไม่มีผู้ช่วย นี่ก็พิสูจน์ว่าทุกคนยังรอให้นางกลับไป อำนาจของสำนักงานขายเกลือมีมากนัก ถึงขั้นกดดันสำนักฉาวได้ ต้องรู้ว่าผู้ช่วยของสำนักฉาวก่อนหน้านี้คือเวินยี่ของสำนักเฟยหลง และก็เป็นไทฮองไทฮองแห่งแคว้นต้าเหลียงด้วย”
หลีโม่พูดว่า “ข้ารู้ ดังนั้นหากนางไม่ส่งเขาละมั่งโลหิตมาให้ข้าจริงๆ ข้าก็ยังไม่มีวิธีการชั่วคราว เพียงหวังว่าข้าจะสามารถบุกทะลวงจุดอ่อนของนางได้”
หูฮวนซีลุกขึ้นมา “อืม หากมีเรื่องให้ข้าช่วย ก็ส่งคนไปหาข้านะ”
“อืม เจ้าไปเถอะ ข้ารู้ว่าช่วงนี้เจ้าเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดเช่นกัน เรื่องนั้นในบ้านของเจ้า…ไม่พูดแล้ว เพื่อไม่เป็นการทำให้เจ้าทุกข์ใจ ไปเถอะ” หลีโม่กล่าว
หูฮวนซีพูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่มีอะไรหรอก ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน”
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว แม้เซียวโธ่จะโง่ แต่บางครั้งก็เข้าใจการลำดับความสำคัญ” ซือถูเย้นวางใจลงได้บ้าง
ด้านนอกมีเสียงเท้าดังขึ้นมา อ๋องเยว่ตงน่าจะมาถึงแล้ว
หลีโม่เดินออกมา เห็นคนชายสามชุดฉาวฝูสีดำปักลายมังกรทองพาคนมาด้วยหลายคน เขาอายุประมาณหกสิบกว่าปี ฝีเท้าแต่ละก้าวมั่นคงและหนักแน่น ความรู้สึกที่แสดงออกมาทางสีหน้าเหมือนกับซือถูเย้น หม่นหมองเป็นอย่างมาก ทั้งสองคนทะเลาะกันอยู่ในวังหลวงมาจริงๆ
นางถอนสายบัวแล้วกล่าวว่า “เสี้ยหลีโม่ถวายพระพรอ๋องเยว่ตง!”
อ๋องเยว่ตงกวาดสายตามองซือถูเย้นอย่างเย็นชา แล้วหันมามองหลีโม่อีกครั้ง พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “มิบังอาจ คนของตำหนักอ๋องซื่อเจิ้งล้วนไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา เขาที่เป็นอ๋องซื่อเจิ้งผู้นี้ อาศัยอิทธิพลใช้เล่ห์เหลี่ยมปิดบังอำพราง ในฐานะที่เจ้าเป็นพระชายาของเขา ต้องมีท่าทางที่สง่าน่าเกรงขามไปกับเขาถึงจะถูก”
ซือถูเย้นแค่นเสียงเย็นชา “ไม่เจียมตัว”
“ซือถูเย้น เจ้าว่าใครไม่เจียมตัว?” อ๋องเยว่ตงโมโหตามที่คาดเอาไว้ เขาระเบิดคำพูดออกมา “ในสายตาเจ้ายังมีเสด็จลุงของเจ้าหรือไม่? ยังมีเสด็จแม่ของเจ้าหรือไม่? ยังมีเสด็จป้าของเจ้าหรือไม่ นางยังอายุน้อยขนาดนั้น เจ้าจะให้นางไปโดยไม่มีที่อยู่ไม่มีศาสนางั้นหรือ? หรือคิดจะรอให้นางตายแล้วค่อยจัดงานมงคลผีให้นางใช่หรือไม่?”
“ตอนนี้ท่านป้ายังไม่ตาย” ซือถูเย้นพูดด้วยความโกรธ “นี่ท่านกำลังแช่งนางอยู่ใช่หรือไม่?”
“ใครแช่งนาง? ข้านี่หรือแช่งนาง? นางเกิดเรื่อง ข้าคือคนที่เสียใจที่สุด ในใจของพวกเจ้ามีนางอยู่ในนั้นบ้างหรือไม่? หลายปีที่ผ่านมาพวกเจ้าเคยห่วยใยนางหรือไม่? ไม่มีใครสนใจนางเลยสักคน!” อ๋องเยว่ตงด่าออกมา น้ำเสียงก็สั่นเครือไปด้วย
หลีโม่ฟังออกว่าเขาใช้ความโกรธมาปิดบังความเสียใจของเขา คำพูดนี้ของเขาก็หมายถึงตัวเขาเอง เขารู้ว่าชีวิตที่ผ่านมาของซือถูจิ้งไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ทว่าเขาไม่ได้เป็นห่วงซือถูจิ้งมากนัก ตอนนี้นางก็ใกล้จะสิ้นใจแล้ว เขาอยากจึงอยากจะทำอะไรสักอย่างชดเชยให้นาง
“ข้าคร้านจะสนใจท่าน ท่านป้ามีคนที่นางรักอยู่แล้ว ท่านจะหาชายอื่นตามใจชอบมาแต่งงานกับนาง นางคงจะดีใจใช่หรือไม่?” ซือถูเย้นหมุนตัว แล้วหันหัวกลับมาอย่างฉับพลัน “ท่านก็เหมือนกับก้อนหินในส้วม ทั้งแข็งและเหม็นเน่า!”
อ๋องเยว่ตงโมโหยิ่งนัก กระโดดขึ้นมาและจะเข้าไปตีซือถูเย้น “หากข้าไม่ตีเจ้า เจ้าก็ไม่รู้จักการเคารพท่านลุงของเจ้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...