ตอนที่ 361 ล้างแค้นพระตำหนักตง
หลีโม่ถอนหายใจเบาๆ หันตัวเดินเข้าไปแล้ว ปล่อยให้ลุงหลานทั้งคนนี้ทะเลาะกันอยู่ที่นี่
นั่งลงตรงหัวเตียงซือถูจิ้ง มองดูสีหน้านางที่เงียบสงบ ทานหนอนเจ็ดตอนเข้าไป เพื่อช่วยดูดพิษในร่างกายนาง นางดูเหมือนคนที่กำลังนอนหลับ
สองวันมานี้สามารถป้อนน้ำข้าวให้เธอได้บ้าง สารอาหารโภชนาการไม่เพียงพอแน่ ฉะนั้นเวลาเพียงไม่กี่วัน นางผอมไปเยอะมาก
จับมือนางไว้ อ่อนโยนไร้เรี่ยวแรง ดึงแขนเสื้อนางขึ้น ปรากฏรอยแผลเป็นมากมาย ไม่ลึก แต่เยอะมาก เห็นแล้วก็รู้สึกเศร้า
ไม่รู้ว่านางผ่านค่ำคืนอันเงียบเหงาและมืดมิดที่ยาวนานมาได้อย่างไร เปิดดูสูตรยาที่หมอยาเคยสั่งให้นางทาน ส่วนมากเป็นยานอนหลับ นางต้องอาศัยดื่มชากล่อมประสาทถึงจะนอนหลับได้
มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาอย่างเงียบๆ หลีโม่ฟังก็รู้ว่าเป็นอ๋องเยว่ตง
หลีโม่ถอนหายใจเบาๆ “จำได้ว่าซือถูจิ้งเคยบอกข้าว่า นางไม่ดื่มเหล้า ไม่กล้าดื่มเหล้า เพราะถ้าดื่มเหล้าแล้ว จะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ นางผ่านมาอย่างทุกข์ทรมานจริงๆ”
น้ำเสียงดุร้ายของอ๋องเยว่ตงดังมาจากข้างหลังนาง “ฮองไทเฮาบอกว่าเจ้าเป็นหมอ ฝีมือล้ำเลิศ ทำไมเจ้าถึงไม่มีปัญญาช่วยชีวิตนาง?”
หลีโม่ดึงแขนเสื้อนางลงมา นางรู้ อ๋องเย่วตงมองเห็นแล้ว
“ทุกคนล้วนต่างก็อยากช่วยนาง นางไม่มีทางทำให้ใครเกลียดชังริษยาหรอก ความดีของนาง เหมือนดั่งนางฟ้า ข้าคิดว่า ผู้ชายธรรมดาทุกคนบนโลกนี้ล้วนไม่มีใครเหมาะสมกับนาง”
อ๋องเยว่ตงไม่ได้โง่ ฟังรู้ความหมายที่อยู่เบื้องหลัง พูดขึ้นอย่างเยือกเย็นว่า “ช่วยซือถูเย้นคนนั้น? ในเมื่อเจ้าอาลัยอาวอนซือถูจิ้งขนาดนั้น ก็น่าจะรู้ว่า หากนางไปแล้วแบบนี้ ก็จะกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน”
“ข้าไม่เชื่อพวกนั้น นางเป็นกรณีพิเศษ” หลีโม่เงยหัวขึ้น มองดูอ๋องเยว่ตงที่เดินมาอยู่ด้านข้างเธอ “นางมีคนที่รักอยู่แล้ว ไม่ว่าจะให้นางแต่งกับใครก็ตาม สำหรับนางแล้วล้วนเป็นการขืนใจ”
อ๋องเยว่ตงไม่พูดอะไร แต่สีหน้ายังคงเย์อกเย็น
หลีโม่ลุกขึ้นมา “เชิญท่านอ๋องกับองค์หญิงอยู่ด้วยกันสักพักเถอะค่ะ”
ในใจหลีโม่รู้สึกโลเล ถึงแม้จะรู้ที่อยู่ของเขาละมั่งเลือด แต่นางก็ไม่มีความมั่นใจเต็มร้อยที่จะสามารถเอามาได้ หากซือถูจิ้งตายไปแล้วจริงๆ ตามธรรมเนียมบ้าๆของต้าโจวนี้ จะต้องมีการจัดพิธีแต่งงานหลังการตายให้กับซือถูจิ้งด้วย
นางรู้สึกมาตลอดว่า ยุคสมัยนี้กับยุคสมัยที่นางจากมา เป็นกาลเวลาที่ขนานกัน เห็นความเชื่อเป็นเหมือนดั่งวัฒนธรรม
เหมือนเช่นเดียวกับภพที่นางจากมา ต่อให้รับเอาวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามามีผลกระทบแล้วไม่น้อย แต่มีบางสิ่งที่มีรากฐานหยั่งลึกอยู่ในสายเลือดมานานกว่าหลายพันปี ยังไงก็ไม่จางหาย
ฮองไทเฮากับอ๋องเยว่ตงไม่เหมือนกับไทฮองไทเฮา ความรู้สึกที่มีต่อซือถูจิ้งถึงแม้จะลึกซึ้ง แต่จะให้ซือถูจิ้งกลายเป็นวิญญาณไร้ญาติ พวกเขาไม่ยอมแน่ เพราะสำหรับพวกเขานี่เท่ากับว่า หากหวังดีกับซือถูจิ้งจริงๆ รักและเอ็นดูซือถูจิ้งจริง ก็จะต้องหาทางเดินที่ดีที่สุดให้นางเดิน
ปัญหาค่านิยม เป็นยากที่จะใช้คำพูดเพื่อเปลี่ยนแปลง
เมื่อหลีโม่กำลังเดินออกไป ก็ได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นของอ๋องเยว่ตง ในใจหลีโม่หนักอึ้ง เวลาผู้ชายร้องไห้จะไม่เหมือนผู้หญิงร้องไห้ เสียงร้องไห้ของผู้หญิงอาจจะไม่ได้มาจากความอัดอั้นตันใจเสมอไป แต่เสียงร้องไห้ของผู้ชายมาดเข้ม จะเหมือนดั่งเหล็ก ทิ่มแทงอยู่ในใจเป็นครั้งๆ
อ๋องเหลียงไม่ได้ออกไปตามหาองค์ชายรัชทายาท แต่รออยู่ที่พระตำหนักตงรอคอยองค์ชายรัชทายาทกลับมา เซียวโธ่ก็อยู่เป็นเพื่อนเขา
เซียวโธ่ไม่พูดจาอะไรมาตลอด เพราะอ๋องเหลียงก็ไม่พูดอะไร เขารู้จักอ๋องเหลียงมานานขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็นสีหน้าอ๋องเหลียงน่ากลัวขนาดนี้
หัวหน้าองครักษ์ตำหนักตง เหลียงสู้หลินรีบเดินมาข้างหน้า ห้ามอ๋องเหลียงไว้ “อ๋องเหลียง ได้โปรดออมมือ”
“ไสหัวไป” อ๋องเหลียงพูดออกมาจากปากเพียงคำเดียว แต่มีอานุภาพประดุจอัสนีบาตฟาดเปรี้ยงๆ ทำให้เหลียงสู้หลินตกตะลึง นี่ยังเป็นอ๋องเหลียงคนเดียวกันกับที่อดทนถดถอยคนนั้นอยู่หรือเปล่า? ทำไมเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคนเลย
เซียวโธ่เดินมา ห้ามสู้หลินไว้ “หัวหน้าเหลียง เรื่องระหว่างเขาสองคนพี่น้อง คนนอกไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้อง”
เหลียงสู้หลินเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย เขารู้ดีว่าตอนนี้จะมีเรื่องกับอ๋องเหลียงไม่ได้ แต่ในฐานะหัวหน้าองครักษ์พระตำหนักองค์ชายรัชทายาท เขาจะอยู่เฉยไม่ได้ จึงพูดขึ้นว่า “รบกวนแม่ทัพเซียวห้ามอ๋องเหลียงไว้ด้วย ข้าจะไปเรียนฮองเฮาให้ทราบ”
เขาไปรายงานฮองเฮาก็เท่ากับว่า เขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ฉะนั้น เกิดอะไรขึ้นที่นี่ ถึงแม้จะหนีไม่พ้นความรับผิดชอบของเขา แต่ก็ดีกว่าประชันหน้ากับอ๋องเหลียงและเซียวโธ่
ไม่ว่ายังไง ช้าเร็วยังไงก็ต้องรายงานฮองเฮา เรื่องนี้ยังไงก็ปิดไม่อยู่
เซียวโธ่ก็รู้ว่าเหลียงสู้หลินรู้ดีว่าต้องทำยังไง จึงพูดขึ้นว่า “ไปเถอะ”
ก่อนที่เหลีบงสู้หลินจะไป ได้สั่งองครักษ์ทั้งสิบสองคนเฝ้าไว้ สั่งไว้ว่าห้ามทำร้ายอ๋องเหลียง และห้ามให้อ๋องเหลียงทำร้ายองค์ชายรัชทายาท
แต่ดูเหมือนไม่มีใครสามารถทัดทานอ๋องเหลียงที่โกรธเคืองแล้วอย่างสุดขีด เขาฉุดกระชากองค์ชายรัชทายาทขึ้นมา ความแค้นใหม่รอยเกลียดอันเก่าในหลายปีมานี้ล้วนระบายออกมา ต่อยลงบนใบหน้าองค์ชายรัชทายาทต่อไปอีกหลายที องค์ชายรัชทายาทล้มทั้งยืน จนเลือดกระเด็นออกมาจากปาก แต่ก็ยังคงตะคอกอย่างโมโหว่า “ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้า คนขี้ขลาด”
ขี้ขลาดสองคำยังไม่ทันหลุดออกจากปาก ดาบเล่มยาวลอยมา ทิ่มลงตรงขาของเขา ทิ่มแทงลงไปตรงๆ
องค์ชายรัชทายาทร้องเรียกอย่างหมูโดนเชือด องครักษ์ทั้งสิบสองคนเห็นอ๋องเหลียงใช้อาวุธ จึงรีบเข้ามาล้อมไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...