ตอนที่ 368 ถามอี้เฟย
นางไม่สามารถตอนรับซ่งรุ่ยหยางในห้องบรรทม จึงต้องค่อยๆเดินออกมา ทำให้ต้องได้ยินเสียงเส้นหวายฟาดลงบนตัวอ๋องเหลียง ในใจนางเจ็บปวดมาก แต่ก็ต้องอดทนไว้
“ซ่งรุ่ยหยางแห่งต้าเหลียงคาราวะฮองเฮาเหนียงเหนียงแห่งต้าโจว” ซ่งรุ่ยหยางก้าวขึ้นมายกมือประสานทำความเคารพ
“องค์ชายรัชทายาทเชิญลุกขึ้น รีบขึ้นมานั่งก่อน” ฮองเฮายิ้มแย้ม พยายามมองข้ามเสียงที่ดังมาจากข้างนอก
ลูกสารเลวคนนั้นช่างแข็งกร้าวจริงๆ โดนโบยถึงขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมร้องสักคำ
ซ่งรุ่ยหยางชำเลืองดูด้านนอก “ไม่รู้ว่าท่านอ๋องเหลียงกระทำอะไรผิดใหญ่หลวงหรือ?”
ดูสถานการณ์เมื่อกี้ น่าจะโดนโบยไปแล้วหลายสิบที ถึงตอนนี้ยังไม่หยุด แสดงว่าน่าจะเป็นโทษหนัก
ฮองเฮายิ้มอย่างขมขื่น “ดื้อ”
ซ่งรุ่ยหยางเป็นคนที่รู้จักกาลเทศะ ก็ไม่ถามต่อ เพียงสั่งขุนนางทูตว่า “ท่านทูต เอาของที่ข้าเตรียมมาถวายฮองเฮาขึ้นถวาย”
ส่วนฮองไทเฮาได้ยินต้าจินบอกว่าฮองเฮาสั่งโบยอ๋องเหลียง ก็รีบพาคนมา
แต่ตอนที่มาถึง ห้าสิบทีก็ได้โบยสิ้นสุดแล้ว หลายทีสุดท้ายอ๋องเหลียงทนจนไม่ไหว ในที่สุดก็สลบไป
ตอนนี้องครักษ์เข้าไปรายงาน ฮองไทเฮาก็มาถึง
ฮองไทเฮามองเห็นหลานสุดที่รักเนื้อเลือดไหลนอนคว่ำอยู่บนม้านั่งสำหรับลงโทษในสวน หัวใจแทบแตกสลาย พูดอย่างโกรธเคืองว่า “แต่ละคนยังยืนบื้ออยู่ทำไม? รีบไปตามหมอมา อุ้มเข้าไป”
ภายในพระตำหนัก ฮองเฮาได้ยินเสียงฮองไทเฮา และเสียงขันทีจึงเดินออกมา
ฮองไทเฮาเห็นฮองเฮา ก็ไม่สนว่าซ่งรุ่ยหยางจะอยู่ด้วยหรือไม่ ด่าทอว่า “เจ้าเป็นแม่ยังไง ทำไมใจร้ายได้ถึงเพียงนี้? เขายังเป็นลูกชายของเจ้าอยู่ไหม? เขาทำอะไรผิดหนักหนาหรือ ถึงต้องโบยเขาจนใกล้ตายแบบนี้? ยังใช้เส้นหวาย นี่เจ้าจะเอาชีวิตเขาเลยหรือ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขาต้องทนทุกข์ทรมานยังไม่พออีกหรือ? ยังต้องให้แม่อย่างเจ้าบีบบังคับให้เขาตายอีกหรือ?”
ฮองเฮาหน้าเสีย แม่ยายคนนี้จริงๆเลย ไม่รู้จักกาลเทศะ องค์ชายรัชทายาทแคว้นเหลียงกับขุนนางทูตต่างก็ยังอยู่ที่นี่ นางยังจะมาชี้หน้าด่าฮองเฮา ใครได้เห็น จะไม่เอาไปพูดหัวเราะเยาะหรือ?
ซ่งรุ่ยหยางเห็นสถานการณ์แบบนี้แล้ว ก็รีบลุกขึ้นแล้วขอตัวกลับไป ฮองเฮาก็ไม่สามารถรั้งไว้ได้ พยายามฉีกยิ้ม “ข้ายังหวังอยากที่จะคุยกับองค์ชายสักหน่อย อยากรู้สภาพดินฟ้าอากาศของต้าเหลียง ช่างน่าเสียดายจริงๆ”
ซ่งรุ่ยหยางพูดว่า “คราวหน้าก็ยังมีโอกาส ขอตัวก่อนครับ” พูดเสร็จ พาขุนนางทูตแล้วรีบกลับไปกัน
ออกมาถึงนอกพระตำหนักจิ้งหนิง ท่านทูตกงซูนเย่นครุ่นคิดแล้วพูดขึ้นว่า “เชื้อพระวงศ์แห่งต้าโจวนี้ช่างมีความหมายจริงๆ เกิดเรื่องกับอ๋องเหลียงเช่นนี้ องค์ชายต้องหมั่นไปมาหาสู่กับองค์ชายรัชทายาทถึงจะถูก”
ซ่งรุ่ยหยางพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า “หุบปากของเจ้าซะ”
กงซูนเย่นยังอยากพูดอีก ซ่งรุ่ยหยางพูดขึ้นอย่างเยือกเย็นว่า “ออกจากวังไปตำหนักองค์หญิง เรื่องนี้ไม่รู้ว่าอ๋องซื่อเจิ้งรู้เรื่องหรือยัง รีบไปบอกก่อน อย่าให้อ๋องเหลียงตายเลย คนคนนี้น่าเสียดายมาก”
กงซูนเย่นพูดขึ้นว่า “ยังไงอ๋องซื่อเจิ้งก็ไม่ใช่ผู้สืบทอดบัลลังก์คนต่อไปของต้าโจว อำนาจที่มีเป็นเพียงชั่วคราว ข้าคิดว่า องค์ชายไม่สมควรสนิทสนมกับเขา ไม่มีผลประโยชน์อะไรกับองค์ชายเลย”
ฮองไทเฮาพูดขึ้นเสียงดัง ดักคำพูดของนางว่า “พอดี คนพูดไม่รู้จักอาย คนฟังรู้อายแทน เจ้าไม่สืบ ข้าจะสั่งคนไปสืบเอง”
พูดเสร็จ โบกมือ ให้คนพาอ๋องเหลียงไป
ฮองเฮาถอนหายใจยาวๆ ในใจเศร้าอาดูรหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก มองดูเลือดที่เปื้อนเก้าอี้ยาวนั่น ในใจก็เริ่มปวดร้าว นางจะทำยังไงได้? นางในฐานแม่ ก็แค่ทำทุกอย่างกีดกันเพื่อไม่ให้ทั้งสองพี้น้องแย่งชิงกันแค่นั้นเองนี่
ตลอดที่ผ่านมาก็ไม่เห็นมีเรื่องอะไร จะต้องมีคนยุแหย่แน่
เมื่อคิดได้ดังนี้ นางจึงสั่งขึ้นว่า “รีบไปสืบมา ดูสิว่าระหว่างอ๋องเหลียงกับองค์ชายรัชทายาทมีเรื่องบาดหมางอะไรกันอีก”
องครักษ์ก้าวออกมาพูดขึ้นว่า “เรียนฮองเฮาเหนียงเหนียง เรื่องราวที่เกิดขึ้นข้าพอรู้มาบ้าง ได้ยินมาจากองครักษ์ของแม่ทัพเซียวโธ่ บอกว่าองค์ชายรัชทายาทสั่งคนพาตัวคนรักของอ๋องเหลียงแม่นางอี้เอ๋อร์ไป พาไปยังวัดฮ่องด้านนอกวัง แล้วให้คนข่มขืน ซื่อเจิ้งหวังเฟยเสี้ยหลีโม่พาคนไปยังวัดฮ่อง ช่วยแม่นางอี้เอ๋อร์ไว้ แล้วไห้บอกให้อ๋องเหลียงรู้เรื่อง เมื่ออ๋องเหลียงรู้แล้วจึงได้เข้าวังมาหาองค์ชายรัชทายาท เรื่องราวทั้งหมดก็ประมาณนี้ครับ”
“อี้เอ๋อร์? หญิงสามัญชนคนนั้น?” ฮองเฮาโกรธจัด “เพื่อผู้หญิงคนเดียว เขาลงมือทำร้ายน้องชายแท้ๆของตัวเองได้อย่างเหี้ยมโหดเพียงนี้หรือ? แสดงว่าข้าไม่ได้เข้าใจเขาผิด ยังมีเสี้ยหลีโม่ นางคิดอยากที่จะให้ทุกคนวุ่นวาย ผู้หญิงแบบนี้ จิตใจดำอำมหิต วันนั้นข้าไม่น่าช่วยให้นางได้แต่งงานกับซือถูเย้น ช่วยให้นางได้ทำลายตระกูลเฉิงเสี้ยง ยังมีอ๋องซื่อเจิ้งซือถูเย้น ไม่แยกแยะดีชั่ว ลมปากคนข้างหมอนเป่าหน่อยก็ลืมไปแล้วว่า ตนเองเป็นอ๋องซื่อเจิ้ง ดูแล้วก็ไม่ใช่คนที่จะกระทำการใหญ่ได้”
ฮองเฮาทำอะไรถึงแม้จะไม่รอบคอบ แต่อย่างน้อยนางก็จุดด้อย ที่สามารถทำให้คนอื่นเอามาบีบบังคับได้น้อยมาก พูดจาไม่รั่วไหล แต่วันนี้ที่ด่าออกไป กลับมาจากความตั้งใจ แสดงว่านางโกรธจนถึงที่สุดแล้ว
“เหนียงเหนียง เรื่องในวัดฮ่องอาจจะมีเบื้องหลัง ได้ยินมาว่าวันนั้นอี้เฟยเหนียงเหนียงก็อยู่ในเหตุการณ์ หรือว่า ไปเชิญอี้เฟยเหนียงเหนียงมาถามให้รู้เรื่อง?” หงเยว่พูดขึ้น
“อี้เฟยก็อยู่ในเหตุการณ์?” ฮองเฮาคิดขึ้นมาได้ว่า เมื่อสองวันก่อนอี้เฟยเพิ่งมาขอจำวัดฮ่องเพื่อสวดมนต์ขอพรให้ซือถูจิ้ง ที่จริงจะไปตั้งเจ็ดวัน แต่ก็กลับมาอย่างกะทันหัน แสดงว่านางรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ต่อให้อี้เฟยรู้นางก็ไม่ได้มากราบทูล คงจะมีอะไรเบื้องหลังจริงๆ
คิดได้ดังนี้ นางจึงพูดขึ้นว่า “เชิญอี้เฟย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...