พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 375

ตอนที่ 375 นางเป็นลูกสาวอ๋องหลี่ชิน

หลิวเยว่รีบปล่อยหมันเอ๋อร์ อาศัยโอกาสที่ซ่งรุ่ยหยางยังไม่เห็นนาง ก็จะก้าวขาวิ่งหนี

แต่หมันเอ๋อร์จับแขนนางไว้ โมโหพูดว่า “เมื่อครู่เจ้าจะลงไม้ลงมือกับข้าหรือ? เจ้าช่างบังอาจ”

หลิวเยว่รีบตอบอย่างโมโห “เจ้าปล่อยข้านะ ยัยปากร้าย”

นางรีบชำเลืองมองซ่งรุ่ยหยาง ไม่ได้การละ เขามองมาทางนี้แล้ว

ซ่งรุ่ยหยางนิ่งไป เสมือนว่าตนตาฝาดไป รอเขามั่นใจว่าเป็นคนนั้นจริงๆ เขาก็กัดฟันตะโกนออกมา “หลิวเยว่!”

หลิวเยว่รู้ตัวว่าหนีไม่พ้นแล้ว ก็หัวเราะแหะๆ โค้งตัวเดินไป พูดจาหน้าบูดบึ้งว่า “อ้าว นี่องค์รัชทายาทนี่ ท่านก็มาแคว้นต้าโจวหรือ? บังเอิญจริงๆ”

ซ่งรุ่ยหยางมองนางหน้านิ่ง “บังเอิญพบคนบ้านเดียวกันหรือ? ศัตรูเจอหน้ากันมากกว่า?”

หลิวเยว่หัวเราะลั่น “จะเป็นศัตรูได้อย่างไร? อย่างน้อยก็เป็นคนแคว้นต้าเหลียงเช่นเดียวกัน”

“เจ้าเป็นคนแคว้นซีเหลียง”

“เช่นกันๆ ข้าโตในแคว้นต้าเหลียง ” หลิวเยว่หน้าแข็งๆ แต่ก็ยังฝืนหัวเราะ

ทุกคนมองหน้ากัน งงว่าเกิดอะไรขึ้น

อี้เอ๋อร์เปิดประตูมาพอดี แล้วก็เรียกนาง “ท่านแม่!”

นางเห็นสายตาที่โกรธของซ่งรุ่ยหยาง แล้วก็สีหน้าจะกินคน “แม่อย่างนั้นหรือ?”

หลิวเยว่ทำตัวไม่ถูก หมดกัน ถ้าเขารู้ว่าอี้เอ๋อร์เป็นลูกเขา ต้องข้านางแน่ ตอนนั้นที่เขาส่งคนไปตามฆ่านาง แต่ละดาบจ้องจะแทงท้องนาง

“อี้เอ๋อร์ มานี่”

อี้เอ๋อร์เดินเข้าไป แล้วมองซ่งรุ่ยหยางแปลกๆ ดูเหมือนว่าเขาจะโกรธ ท่านแม่ยั่วโมโหเขาหรือ? ครั้งนี้จะขโมยไก่หรือไข่ไก่อีกละนี่?

หลิวเยว่มองเขาด้วยรู้สึกผิด จับบ่าของอี้เอ๋อร์แล้วพูดว่า “แม่หลอกเจ้ามาตลอดว่าพ่อเจ้าตายแล้ว จริงๆแล้วพ่อเจ้ายังอยู่”

อี้เอ๋อร์ตกใจ “อะไรนะ? เขายังอยู่หรือ? อี้เอ๋อร์มองไปที่ซ่งรุ่ยหยาง คนนี้ใช่ไหม?”

หลิวเยว่ยื่นมือมา แล้วก็ดันอ๋องหลี่ชินมา “คนนี้เป็นพ่อเจ้า!”

เรื่องนี้มันสายฟ้าแลบ อย่างน้อย จะมีสองคนที่โกรธสุดขีด

คนหนึ่งชื่อพระชายาหมันเอ๋อร์ อีกคนคือซ่งรุ่ยหยาง

คนอื่นๆก็มองหน้ากัน ซือถูเย้นก็ยืนหน้าประตู มองสถานการณ์อย่างแปลกใจ

หลีโม่ยกน้ำออกมา แล้วก็ยืนข้างๆซือถูเย้น เห็นซ่งรุ่ยหยางกับหลิวเยว่ตึงใส่กัน แล้วนางก็หัวเราะขึ้น

“ซือถูข่าย เจ้าพูดมาให้ชัเจน! ” หมันเอ๋อร์โกรธจนตัวสั่น “เจ้าบอกว่าไม่แคร์ที่ข้ามีบุตรไม่ได้ ที่แท้เจ้าก็ไปมีลูกกับคนอื่นแต่แรกแล้ว เจ้าผิดต่อข้าไหม?”

อ๋องหลี่ชินคิ้วขมวดมองอี้เอ๋อร์ แล้วมองหลิวเยว่ ถามอย่างฉงนใจว่า “นางเป็นลูกสาวข้าหรือ?”

“ก็ใช่นะสิ อี้เอ๋อร์ รีบเรียกพ่อสิ” หลิวเยว่กล่าว

อี้เอ๋อร์ค่อนข้างกลัว ถึงแม้นางจะอยากมีพ่อมาตลอด แต่ว่า นางมองอ๋องหลี่ชินแล้ว ไม่มีความสนิทสนมเลย

“เรียกสิ!” หลิวเยว่ตวาด

หลิวเยว่มองซ่งรุ่ยหยาง เห็นเขาจ้องหลิวเยว่อย่างน่ากลัว ก็โกรธ ถึงแม้จะไม่รู้เรื่องราวทั้งนางเป็นคนผิด นางวางยาเขาก่อน แต่ว่า นางก็ได้รับผลกรรมไปแล้ว เขาส่งคนมาตามฆ่านางตลอด นางต้องหลบๆซ่อนๆ อยู่อย่างลำบาก ถือว่าได้ชดใช้โทษที่วางยาไป

ทำไมนางถึงต้องทำท่ายอมเขาเช่นนั้น? เหมือนกับติดค้างอะไรเขา?

นึกถึงจุดนี้ นางก็ไม่ขมวดคิ้ว พูดว่า “เอาเถอะ ซ่งรุ่ยหยาง ข้าไม่ติดค้างอะไรเจ้าแล้ว หลายปีมานี้ เจ้าส่งคนตามฆ่าข้า ข้าตายในมือเจ้าตั้งหลายครั้ง ที่ติดค้างเจ้า ข้าชดใช้หมดแล้ว ข้าไม่มีอะไรต้องพูดกับเจ้าอีก ไสหัวไปเสีย”

ซ่งรุ่ยหยางนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วตอบด้วยน้ำเสียงปกติว่า “เช่นนั้น พวกเรายิ่งต้องคุยกัน”

กงซุนเยี่ยนเข้ามา พูดข้างๆหูเขาว่า “ฝ่าบาท เรื่องได้จบไปแล้ว ไม่ต้องไปรื้อฟื้น ตอนนี้นางเป็นคนของอ๋ฮงหลี่ชิน ทั้งยังมีลูกสาวกับเขาด้วย ไม่มีอะไรต้องคุยแล้ว”

หลิวเยว่มองเขา “ข้าจำเจ้าได้ ไอ้เจ้าไข่เต่า เคยพาคนมาตามฆ่าข้า”

กงซุนเยี่ยนหน้าซีด “เจ้าอย่าพูดมั่ว”

ซ่งรุ่ยหยางมองกงซุนเยี่ยนที่สีหน้าเปลี่ยนไป

กงซุนเยี่ยนรีบพูด “ฝ่าบาท นางพูดจามั่วซั่ว เจอใครก็กัดไปหมด กระหม่อมไม่เคยส่งคนไปฆ่านาง”

หลิวเยว่โมโห ใช้มือถกแขนเสื้อเผยให้เห็นแผลเป็นที่แขน “ข้าพูดมั่วซั่วหรือ? เจ้าดูนี่ แปลนี้เจ้าเป็นคนฟัน เจ้ายังจะกล้าไม่ยอมรับหรือ? ทำไมไม่ยอมรับล่ะ? เจ้านายเจ้าส่งคนมาตามหาข้า เจ้าทำร้ายข้าได้ก็จะได้รางวัล ยังมีอะไรไม่กล้ายอมรับอีก?”

หลีโม่และซือถูเย้นเห็นเช่นนั้นก็พอจะเข้าใจเรื่องราว ทุกคนล้วนคลุกคลีอยู่ในแผนการชั่วร้ายต่างๆ จะเดาไม่ออกได้อย่างไร?

ซือถูเย้นเดินเข้ามาพูด “พี่ซ่ง ที่นี่มีห้องรับแขก ท่านกับนางไปคุยกันก่อนดีไหม ข้ารับรองว่า อี้เอ๋อร์ไม่มีทางเป็นลูกสาวของพี่สามข้าแน่นอน ปีนี้นางอายุ 16 ปี”

อ๋องหลี่ชินผิดหวัง “เย้นเอ๋อร์ เจ้าไม่รู้เรื่องทั้งหมด อย่าพูดไป นางเป็นลูกสาวข้า ” พูดจบ ก็ยักคิ้วหลิ่วตาส่งสัญญาณให้

เย้นเอ๋อร์ก็จริงๆเลย ไม่รู้อะไรยังจะมาพูดมั่วอีก ถ้าหลิวเยว่ไม่ยอมให้เขาละมั่งโลหิต เสี่ยวกูกูต้องแย่แน่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม