พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 383

ตอนที่ 383 ดาบตะแคงข้าง

ทางด้านห้องที่หารือกัน ทุกคนมาพร้อมหน้ากันหมดแล้ว

พระราชตระกูลมากันสิบสามคน มีรองหัวหน้าอ๋องเป่าอันอยู่หนึ่งในนั้นด้วย ส่วนอ๋องเยว่ตง ก็ถูกเชิญเข้าวังมาอย่างกะทันหัน

ซือถูเย้นเชิญทุกคนนั่งลง ที่นี่เป็นห้องสำหรับปรึกษาหารือกัน ปกติพวกเหล่าขุนนางชั้นสูงจะใช้ที่นี่เป็นที่หารือเรื่องราชการต่างๆ ดังนั้นที่นี่จึงมีเก้าอี้และโต๊ะมากมาย

หลังจากที่ทุกคนนั่งลงกันแล้ว ซือถูเย้นกวาดสายตามองดูทุกคน แล้วค่อยๆพูดขึ้นว่า “วันนี้ที่เชิญทุกท่านมายังท้องพระโรง เพราะมีเรื่องหนึ่งที่ข้าต้องการหารือกับทุกท่าน พระราชตระกูลและขุนนางทุกท่านต่างก็รู้ว่า ฮ่องเต้เคยให้อำนาจแก่ข้า หากองค์รัชทายาทกระทำการผิดกฎมณเฑียรบาล ทรยศเนรคุณ ข้ามีอำนาจปลดองค์รัชทายาท”

เหลียงไถ้ฝู้รีบลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ท่านอ๋อง เรื่องนี้มีราชโองการของฮ่องเต้ไหม?”

แววตาซือถูเย้นเพ่งมองดูใบหน้าของเหลี่ยงไถ้ฝู้ “ไถ้ฝู้ไม่เชื่อคำพูดของข้าหรือ?”

เหลียงไถ้ฝู้ส่ายหัวแล้วหัวเราะพร้อมกับพูดว่า “ไม่ ท่านอ๋องอย่าได้เข้าใจผิด ข้าเพียงรู้สึกว่า การปลดองค์รัชทายาทถือเป็นเรื่องใหญ่ของบ้านเมือง จะกระทำอย่างสะเพร่าไม่ได้ หากฮ่องเต้ไม่มีราชโองการ พวกข้าก็ไม่กล้าที่จะเข้าร่วมหารือเรื่องนี้”

ซือถูเย้นพูดขึ้นว่า “หากไถ้ฝู้ไม่กล้าที่จะเข้าร่วมหารือเรื่องนี้ สามารถออกไปได้”

ไถ้ฝู้พูดอย่างกะทันหันว่า “ท่านอ๋อง เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ขออภัยที่ข้าต้องพูดตรงๆ ตั้งแต่ที่มีการแต่งตั้งองค์รัชทายาท ก็เพื่อความมั่นคงของต้าโจวเรา กระทำการเปลี่ยนแปลงสั่นคลอนตำแหน่งองค์รัชทายาท ถือเป็นการสั่นคลอนรากฐานของต้าโจวด้วย หากฮ่องเต้มีราชโองการ ข้าก็คิดว่า วันนี้ก็ไม่จำเป็นต้องหยิบยกขึ้นมาพูด”

ซือถูเย้นหัวเราะเยือกเย็น “ไถ้ฝู้จะใจร้อนถึงขนาดนี้ทำไม? ข้าได้พูดว่าจะปลดองค์รัชทายาทแล้วหรือ?”

เหลียงไถ้ฝู้สะดุ้ง สีหน้าโกรธเคือง “ท่านอ๋องพูดจาวกไปวนมา เมื่อกี้ท่านพูดแล้วว่าที่เรียกเหล่าขุนนางกับพระราชตระกูลมา ก็เพื่อหารือปลดองค์รัชทายาท ตอนนี้กลับบอกว่าไม่ได้พูด”

ซ่างซูลิ่งใต้เท้าชุยพูดขึ้นว่า “ไถ้ฝู้จะโกรธทำไหม? เมื่อกี้ท่านอ๋องแค่พูดกับทุกคนว่า เขามีอำนาจปลดองค์รัชทายาท ไม่ได้พูดว่าจะปลดองค์รัชทายาท แต่ไถ้ฝู้เพียงได้ยินแค่นี้ก็รีบร้อนรนขึ้นมา ทั้งจะเอาราชโองการ ทั้งอ้างถึงรากฐานความมั่นคงของต้าโจว กระทำให้คนอื่นน่าคิด”

เหลียงไถ้ฝู้พูดอย่างกริ้วโกรธว่า “หากในใจไม่คิดถึงการที่จะปลดองค์รัชทายาท แล้วจะเรียกผู้คนมาทำไมเยอะแยะ?”

ทุกคนต่างก็ประหลาดใจ ปกติเหลี่ยงไถ้ฝู้จะเป็นคนที่มีความอดทนสูงมาก ทำไมวันนี้ ท่านอ๋องยังไม่ทันได้พูดอะไร เขาก็ร้อนรนจนจะคลั่งอยู่แล้ว? ช่างผิดปกติยิ่งนัก

ซือถูเย้นรู้อยู่แล้ว เขาตั้งใจถ่วงเวลา สร้างเรื่อง ไม่ให้เขาได้พูดหัวข้อหารือในวันนี้ออกมา กำลังรอฮองเฮากับฮองไทเฮาเสด็จมาถึง

และแล้ว ก็ได้ยินองครักษ์ข้างนอกตะโกนบอกว่า “ไทเฮาเหนียงเหนียงเสด็จ ฮองเฮาเหนียงเหนียงเสด็จ”

ซือถูเย้นเหลือบเห็น เหลียงไถ้ฝู้ดูโล่งอก และก็นั่งลงแล้ว

ฮองไทเฮามีซุนกงกงตามเดินมาอย่างรวกเร็ว ฮองเฮาก็เดินตามหลังมา

บรรดาพระราชตระกูลกับเหล่าขุนนางลุกขึ้น “ถวายบังคมฮองไทเฮา ถวายบังคมฮองเฮาเหนียงเหนียง”

ซือถูเย้นก็ลุกขึ้น เดินไปประคองฮองไทเฮา “ท่านแม่ทำไมถึงได้เสด็จมา?”

ฮองไทเฮาพูดขึ้นว่า “ได้ยินว่าท่านอ๋องเรียกบรรดาพระราชตระกูลกับเหล่าขุนนางมาหารือ คิดว่าคงจะเป็นเรื่องสำคัญ ข้าว่างอยู่พอดี ก็เลยมาร่วมฟัง ท่านอ๋องไม่ว่าอะไรใช่ไหม?”

แต่ฮองเฮากับเหลียงไถ้ฝู้ต่างก็อึ้งไป เรื่องสร้างความเสียหายความสัมพันธ์ทางการทูตที่เป็นมิตรของทั้งสองประเทศ คงจะเป็นความผิดที่อ๋องซื่อเจิ้งคิดขึ้นมาเอง ส่วนกระทำการเนรคุณองค์หญิงเจิ้นโก๋ ยิ่งเป็นเรื่องไร้สาระ ตอนนี้องค์หญิงเจิ้นโก๋นอนอยู่บนเตียง เหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย ความเนรคุณขององค์รัชทายาทมากสุดก็แค่ไม่ไปเยี่ยมดู เอาสองเรื่องนี้มากล่าวโทษ ช่างไร้สาระ

เหลียงไถ้ฝู้ถามขึ้นว่า “ขอท่านอ๋องบอกทีว่า เรื่องสร้างความเสียหายความสัมพันธ์ทางการทูตที่เป็นมิตรของทั้งสองประเทศนั้น เป็นเรื่องอะไรกัน? ซ่งรุ่ยหยางองค์รัชทายาทแคว้นเหลียงไปพูดฟ้องท่านอ๋องหรือ? สองวันนี้องค์ร้ชทายาทรักษาตัวอยู่แต่ในพระตำหนัก ตามรูปการแล้วไม่น่าสามารถไปทำอะไรองค์รัชทายาทแคว้นเหลียงได้”

บรรดาราชนิกุลกับเหล่าขุนนางต่างก็มองหน้ากัน ใช่ ได้ยินมาว่าองค์รัชทายาทได้รับบาดเจ็บ แล้วจะไปล่วงเกินองค์รัชทายาทแคว้นเหลียงได้อย่างไร? หากเป็นองค์รัชทายาทแคว้นเหลียงได้ไปฟ้องร้องต่อท่านอ๋อง ก็คงมีเจตนาร้ายแอบแฝงอยู่เป็นแน่

“ท่านอ๋อง นี่เป็นการเข้าใจอะไรผิดกันหรือเปล่า? องค์รัชทายาทกับองค์รัชทายาทแคว้นเหลียงน่าจะไม่ได้มีอะไรกระทบกระทั่งกัน” หู้ปู้ซ่างซูพูดขึ้น

ซือถูเย้นยืนมือห้าม แล้วพูดว่า “อย่าเพิ่งโวยวายเลย ในเมื่อข้าพูดถึงฐานความผิด ข้าก็ต้องพูดถึงสาเหตุอยู่แล้ว วันนี้องค์รัชทายาทแคว้นเหลียงซ่งรุ่ยหยาง บอกกับข้าว่า องค์รัชทายาทซือถูเย่ ลักพาตัวองค์หญิงแคว้นเหลียงหวางอี้เอ๋อร์ ไปยังวัดฮ่อง ข้าได้สั่งคนไปพาพระที่วัดฮ่องมาแล้ว สักพักก็จะเข้าวังมา เพราะพยานยังมาไม่ถึง ตอนนี้จึงขอพูดเรื่องที่สองก่อน”

ซือถูเย้นเพิ่งพูดเสร็จ ฮองเฮาก็พูดขึ้นว่า “”ท่านอ๋อง หวางอี้เอ๋อร์จะเป็นองค์หญิงแคว้นเหลียงได้อย่างไร? นางเป็นแค่สามัญชนของต้าโจว

ซือถูเย้นมองดูฮองเฮาอย่างเฉยเมย “ใช่หรือไม่ใช่ เดี๋ยวองค์รัชทายาทแคว้นเหลียงจะมาเป็นพยานเอง แต่ฟังดูที่ฮองเฮาพูด เหมือนจะรู้เรื่องที่องค์รัชทายาทลักพาตัว หวางอี้เอ๋อร์ไปดีอยู่แล้ว”

ทุกคนมองไปยังฮองเฮา สีหน้าฮองเฮาไม่สู้ดี แต่นางก็ไม่ได้ปฏิเสธ “ใช่ เรื่องนี้ข้ารู้แล้ว และด้วยเรื่องนี้ข้าก็ได้ลงโทษเขาไปแล้ว”

“ไม่ทราบว่าฮองเฮา ลงโทษเขายังไง?” ซือถูเย้นถาม

ฮองเฮาเชิดคางขึ้น แล้วพูดว่า “ข้าได้ลงโทษ สั่งกักบริเวณเขาสามเดือน ที่ข้าลงโทษแบบนี้ ก็เพราะมีเหตุผล อ๋องเหลียงได้สั่งสอนเขาไปแล้ว ทำร้ายร่างกายเขาจนบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นจึงไม่ได้สั่งเฆี่ยนอีก เพียงสั่งกักบริเวณสามเดือน”

อ๋องเป่าอันพูดขึ้นว่า “ฮองเฮาเหนียงเหนียงลงโทษแบบนี้ดูลำเอียงเกินไป ยังไม่พูดถึงว่าหวางอี้เอ๋อร์คนนี้สถานะจะใช่หรือไม่ใช่องค์หญิงแคว้นเหลียง ต่อให้เป็นแค่หญิงสามัญชนของต้าโจว องค์รัชทายาทลักพาตัวหญิงสามัญชนก็ถือเป็นการกระทำผิด จะต้องได้รับการลงโทษตามกฎหมาย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม