พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 388

ตอนที่ 388 สละรถเพื่อรักษาผู้นำ

ฮองเฮาโกรธจนหน้าเขียว แต่ก็ไม่มีอะไรจะแก้ตัว เหลียงไถ้ฝู้ก็พูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงมองดูเหล่าขุนนางกำลังซุบซิบนินทากันอยู่

ซือถูเย้นเห็นดังนี้แล้ว จึงส่งสัญญาณมือให้กับจื่นเฉิง จื่นเฉิงรับทราบ หันตัวเดินออกไป

พยานคนมารออยู่ด้านนอกตั้งแต่แรกแล้ว แต่เขาให้เป็นข้ออ้างว่าคนยังมาไม่ถึง เพื่อจะได้พูดเรื่องราวของฮองเฮา เพราะสิ่งที่ฮองเฮากระทำไม่สามารถกล่าวโทษได้ ทำได้เพียงให้ทุกคนโกรธเคือง

อาศัยความที่ด้านล่างกำลังวุ่นวายกันอยู่ เขากระซิบพูดกับฮองเฮา โดยที่คนอื่นไม่ได้ยิน มีเพียงฮองเฮาได้ยินเพียงคนเดียวว่า “เรื่องราวในอีกสักครู่ ฮองเฮาสามารถยอมรับผิดได้ และจะไม่ยอมรับก็ได้ แต่ว่าหากปฏิเสธ ก็เท่ากับว่าเป็นการเปิดเผยเรื่องของอี้เฟยกับองค์รัชทายาท ใคร่ควรญก่อนแล้วค่อยตัดสินใจนะ”

“เจ้าข่มขู่ข้า?” ฮองเฮากัดฟันพูด

ซือถูเย้นอมยิ้ม “ก็เรียนรู้มาจากฮองเฮานั่นแหละ ฮองเฮาก็ข่มขู่เฮ่าเอ๋อแบบนี้ไม่ใช่หรือ? เขาต้องกล้ำกลืนความไม่ยุติธรรมไปตั้งเท่าไหร่ วันฮองเฮาก็กล้ำกลืนไปเช่นนั้นละกัน แต่ฮองเฮาไม่ต้องมีความรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม เพราะนี่ล้วนคือความจริง”

พูดเสร็จ เขาก็กลับมานั่งตัวตรง ท่าทางเยือกเย็น ไม่หันไปมองสีหน้าฮองเฮาที่โกรธจนบูดเบี้ยว

พยานที่เข้าเป็นอันดับแรกคือพระอาจารย์ที่วัดฮ่อง พระอาจารย์เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวัดฮ่องให้ทุกคนฟัง แน่นอนที่ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอี้เฟย

“ก็หมายความว่า วันนั้นตอนที่พระฉายาพาคนไปถึง องครักษ์ขององค์รัชทายาทสองคนกำลังเตรียมที่จะกระทำล่วงเกินองค์หญิงใช่ไหม? ขอเรียนถามพระอาจารย์ หากพระฉายาไปไม่ทัน จะเกิดอะไรขึ้น?” จื่นเฉิงถาม

พระอาจารย์คนนั้นเงียบไปแปบหนึ่ง แล้วพูดว่า “อาตมาไม่กล้าพูดเรื่องสกปรกเช่นนั้น”

“องค์หญิงอะไร? นางเป็นหญิงสารเลว คนรักของคนพิการนั้น” องค์รัชทายาทฟังมาทั้งหมด จนไม่เหลือความอดทนใดๆแล้ว เมื่อฟังพระอาจารย์นั้นเล่า ก็ตะคอกขึ้นมาอย่างลืมตัว

“หุบปาก” ฮองไทเฮาดุใส่เขา “เป็นถึงองค์รัชทายาท คำก็สารเลว คำก็พิการ คนพิการนั่นเป็นพี่ชายเจ้านะ โดนเจ้าทำร้ายจนเป็นแบบนั้น”

“ท่านย่า เขากำลังใส่ร้ายข้า คนคนนั้นเป็นหญิงสารเลว เขากลับพูดว่าเป็นองค์หญิงของแคว้นเหลียง ใส่ร้ายว่าข้ากระทำการทำลายพันธมิตรระหว่างสองแคว้นชัดๆ จุดมุ่งหมายก็เขาก็คือคิดที่จะแย่งบัลลังก์ ท่านย่าทำไมถึงได้หลอกง่ายแบบนี้? เขาเป็นคนร้าย เขาเป็นมหาโจร เขาจะแย่งชิงบัลลังก์ ท่านอย่าได้โดนหลอกนะ” องค์รัชทายาทพูดอย่างร้อนใจ

“ข้าโดนหลอกง่าย หลอกง่ายจริงๆ” ฮองไทเฮาโกรธจนสั่น “เจ้าไม่ต้องคิดพูดแก้ตัว จริงๆเท็จๆเดี๋ยวก็รู้”

หลังจากที่พระอาจารย์ไปแล้ว คนที่เข้ามาก็คือองค์รัชทายาทแคว้นเหลียงซ่งรุ่ยหยางกับหวางอี้เอ๋อร์

หวางอี้เอ๋อร์ดูตกใจไปบ้าง และก็แปลกใจ ทุกๆคนทำหน้าเคร่งขรึม กำลังเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับท่านพี่หัวโตหรือ?

นางมองดูไปยังตรงกลาง เห็นฮองไทเฮา แล้วก็คิดถึงท่านพี่หัวโตเคยพูดถึงท่านย่า จึงวิ่งเข้าไปอย่างดีใจ “ท่านเป็นท่านย่าของท่านพี่หัวโตใช่ไหม?”

“อี้เอ๋อร์ อย่าเสียมารยาท นั่นคือฮองไทเฮา” ซ่งรุ่ยหยางพูดขึ้น

อี้เอ๋อร์หยุดฝีเท้าลง แล้วก็ชักมือกลับ พูดขึ้นอย่างรู้สึกผิดว่า “ข้า.......ขออภัย ข้าแค่ตื่นเต้นที่ได้เห็นท่านย่าของท่านพี่หัวโต ข้าเคยเห็นภาพวาดของท่าน ท่านพี่หัวโตเคยให้ภาพวาดแก่ข้า ในภาพที่วาดก็คือท่านย่าท่านนี้”

“เจ้าชื่ออี้เอ๋อร์? คนที่เจ้าเรียกท่านพี่หัวโตก็คือเฮ่าเอ๋อร์ใช่ไหม? เขาเคยวาดภาพของข้าต่อหน้าเจ้าหรือ?” ฮองไทเฮามองดูอี้เอ๋อร์แล้วถามขึ้น

อี้เอ๋อร์พยักหัว พูดตามความจริงว่า “ใช่ ตอนที่เขาวาดเขาบอกว่าคนนี้เป็นคนที่รักเขาอย่างจริงใจเพียงคนเดียวในโลก เขาวาดเยอะมาก ที่บ้านของข้ามีตั้งหลายแผ่น ท่านจะเอาไหมเดี๋ยวข้าเอามาให้ท่าน”

คำพูดที่เรียบๆเฉยๆ ฮองไทเฮากลับอึ้งไปสักพัก หลังจากนั้นน้ำตาก็ไหล มองดูฮองเฮาอย่างโกรธเกลียด เรียกอี้เอ๋อร์เข้ามาหา “เจ้าบอกข้ามา เป็นองค์รัชทายาทใช่ไหมที่ลักพาตัวเจ้าไป? คนพวกนั้นได้รังแกเจ้าไหม?”

อี้เอ๋อร์หันไปมองดูองค์รัชทายาท พยักหัวแล้วพูดว่า “เป็นเขา เขาบอกว่าทำให้หัวโต....พี่ชายอ๋องเหลียงเสียใจตาย ดังนั้นจึงสั่งคนสองคนล่วงเกินข้า เขาเป็นคนเลว เขาพูดว่าพี่ชายอ๋องเหลียงไม่ดีต่างๆนานาอยู่ตลอด”

“ลำบากเจ้าแล้ว เด็กน้อย” ฮองไทเฮามองไปยังซ่งรุ่ยหยาง ใบหน้าเขาเก็บกดความโกรธเคือง ต่อให้ระงับไว้อย่างที่สุดแล้ว แต่ก็ยังสามารถมองออก นางถอนหายใจเบาๆ หันไปมองซือถูเย้น เป็นการบอกเขาว่าให้จัดการเรื่องนี้

“ฮองไทเฮา ท่านอ๋อง” ซ่งรุ่ยหยางหลังจากที่นั่งลงแล้ว จึงพูดขึ้นว่า “ที่ข้ามาในวันนี้ ก็เพื่อถามหาความเป็นธรรมจากต้าโจว เกิดเรื่องแบบนี้กับบุตรสาวของข้าในเมืองหลวงของต้าโจว และคนที่ลักพาตัวนางไปก็เป็นถึงองค์รัชทายาทของต้าโจว ต่อให้ข้าไม่เอาเรื่อง เกรงว่าเมื่อเรื่องราวแพร่ออกไป ฮ่องเต้แห่งแคว้นเหลียงกับเหล่าพสกนิกรจะไม่พอใจ”

ซ่งรุ่ยหยางลุกขึ้นแล้วพูดว่า “ได้ ขอก็จะตั้งใจรออ๋องซื่อเจิ้งจัดการให้”

พูดจบ เขาก็พาอี้เอ๋อร์เดินออกไป

เรื่องราวถามมาถึงตรงนี้แล้ว ก่อนหลังมาร่วมกัน รวมถึงเขาละมั่งโลหิต ล้วนสามารถแสดงให้เห็นว่า องค์รัชทายาทตั้งใจมุ่งเป้าไปที่อ๋องเหลียง การต่อสู้ระหว่างสองพี่น้องนี้ ล้วนเป็นเขาที่เริ่มก่อน

แต่ดูเหมือนซือถูเย้นยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ พยานแต่ละคนถูกเรียกตัวเข้ามาให้การ รวมถึงสายลับที่อยู่ในจวนมาตลอด ก็ล้วนมาเป็นพยาน แล้วชี้ว่าเป็นฮองเฮากับองค์รัชทายาทสั่งการ

ทีแรกฮองเฮายังสามารถแก้ตัวได้บ้าง มาตอนหลัง นางไม่พูดอะไรอีกเลย ปล่อยให้ความผิดทั้งหมดตกอยู่ที่นางกับองค์รัชทายาท ที่จริงนางโดนซือถูเย้นพูดจนตะลึง ประโยคเดียวที่ว่าเรื่องขององค์รัชทายาทกับอี้เฟย ทำให้นางไม่กล้าอาละวาด

ถึงสุดท้ายซือถูเย้นไม่ได้พูดอะไร และมอบอำนาจการตัดสินให้กับรองหัวหน้าอ๋องเป่าอัน

หลังจากที่อ๋องเป่าอันครุ่นคิดอยู่นาน แล้วเงยหัวกวาดตามองดูทุกคน “องค์รัชทายาทไร้คุณธรรม โหดเหี้ยม เห็นแก่ตัว เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่เห็นแก่ความเป็นพี่น้อง ไม่เหมาะที่จะเป็นองค์รัชทายาท ผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ของต้าโจว จะยกให้คนแบบนี้ได้อย่างไร?”

ฮองเฮาสั่นไปทั้งตัว เพ่งมองอ๋องเป่าอัน

อ๋องเป่าอันหยุดไปแปบหนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “เรื่องเขาละมั่งโลหิต ถึงแม้องค์รัชทายาทจะทำไปเพราะอ๋องเหลียง แต่ก็เป็นการทำลายโอกาสเดียวที่จะสามารถช่วยชีวิตองค์หญิงเจิ้นโก๋ เท่ากับว่าเขาทำให้องค์หญิงเจิ้นโก๋สิ้นพระชนม์ จะลงโทษอย่างไร ข้าต้องขอปรึกษาหารือกับทุกท่าน........”

เหลียงไถ้ฝู้ลุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน พร้อมพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องหารือแล้ว เรื่องทั้งหมดที่องค์รัชทายาทกระทำลงไป ล้วนเป็นคำสั่งของฮองเฮา”

ไม่มีใครมองเห็นมุมปากของซือถูเย้นที่อมยิ้ม นอกจากฮองเฮาที่เพ่งมองซือถูเย้นอยู่ตลอดอย่างไม่กระพริบตา

ในใจนางเยือกเย็นไปกว่าครึ่ง วันนี้ไม่ใช่ต้องการปลดองค์รัชทายาท แต่ต้องการปลดฮองเฮา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม