พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 413

ตอนที่ 413 รอเขากลับมา

พวกเขานั่งอยู่ใต้ต้นไม้อยู่พักใหญ่ คุยกันหลายเรื่อง นี่เป็นครั้งแรกที่สองคนเปิดใจคุยกัน เซียวโธ่บอกว่า ที่ตนเองไม่ยอมแต่งงานเพราะผู้หญิงนั้นวุ่นวาย ถ้ามีภรรยาแล้วก็จะไม่สามารถไปท่องเที่ยวได้อย่างเมื่อก่อน

หลิ่วหลิ่วรับปากว่าหลังจากแต่งงาน เขาจะทำอะไรที่ชอบก็ได้ นอกจากการไปเข้าใกล้ผู้หญิงคนอื่น เซียวโธ่ก็วางใจ เพราะผู้หญิงมีมากไปก็วุ่นวาย

คุยกันจนถึงประมาณเที่ยงคืน เซียวโธ่ถึงส่งนางกลับไป แล้วก็หอบเอาเก้าอี้ปีนกลับจวนบ้านตัวเอง แล้วเช้าวันต่อมา ก็ลุกออกมาทำความเคารพเหาเย๋ตามเดิม

เหาเย๋ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วก็พูดคุยสั่งการเป็นปกติ

เซียวโธ่ออกจากประตู ก็เห็นซือถูจิ้งพาฉินจือและโฉงหวาเข้ามา

“องค์หญิง” เซียวโธ่นึกว่านางมาหาตน “ไม่ต้องมาขออภัยกันหรอก ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่เจ้าคนเดียวที่ไม่ช่วยข้า”

ซือถูจิ้งหน้านิ่ง แล้วยิ้มเล็กๆ ตั้งแต่ที่หายจากโดนวางยาพิษ ใบหน้านางก็ซีดเซียวมาตลอด ไม่สดใสเหมือนเมื่อก่อน

“ข้าไม่ได้มาหาเจ้า อย่าคิดไปเอง ข้ามาหาปู่เจ้า ” ซือถูจิ้งกล่าว

“มาหาเขาทำไม?” เซียวโธ่นึกขึ้นได้ “มาเอาโทษหรือ?”

“ไม่ใช่ ข้าเบื่อๆ เลยมาหาคนคุยด้วย ” ซือถูจิ้งกล่าว

“เดี๋ยวข้าเข้าไปเป็นเพื่อน” เซียวโธ่กลัวนางจะโกรธที่ท่านปู่ไม่ยอมให้พี่ใหญ่แต่งกับนาง

ซือถูจิ้งก็ไม่ปฏิเสธ ก็ยอมให้เซียวโธ่พานางเข้าไป

เหาเย๋ได้ยินว่าองค์หญิงเสด็จมา ก็ตกใจ แล้วก็จัดแต่งตัวให้เรียบร้อยไปรับเสด็จ

“กระหม่อมถวายพระพรองค์หญิง” เหาเย๋โน้มคำนับ

“เหาเย๋ไม่ต้องมากพิธี ” ซือถูจิ้งมองเขา แม่ทัพผู้ชราภาพที่เคยสร้างผลงานให้กับแคว้นต้าโจว

“องค์หญิงเชิญเสด็จด้านใจ ” เหาเย๋ถอยให้ทางเดิน และยังโน้มตัวอยู่

ซือถูจิ้งไม่พูดอะไร แล้วเดินเข้าไปเลย

ทั้งสองนั่งลง เซียวโธ่ก็ยืนข้างๆเหาเย๋ แล้วระแวงซือถูจิ้ง

“กระหม่อมยังไม่ได้แสดงความยินดีที่องค์หญิงหายจากอาการประชวรเลย”

หายจากอาการป่วย ไม่ใช่ ไม่ใช่หายจากการจะฆ่าตัวตาย เห็นได้ว่าเขาอยากจะลืมเรื่องอดีต

ซือถูจิ้งพยักหน้า “ขอบใจเหาเย๋”

บรรยากาศค่อนข้างอึดอัด ทั้งสองคนเหมือนไม่รู้จะคุยอะไรกัน

เซียวโธ่ก็เงียบ แล้วมองฉินจือกับโฉงหวา นางทั้งสองก็ก้มหน้า ยืนข้างหลังซือถูจิ้งทั้ง2ฝั่ง ราวกับกำลังป้องกันอันตรายให้นาง

สุดท้าย เซียวเหาเย๋ก็ทนไม่ได้ “องค์เสด็จมาวันนี้ มีเรื่องอันใด?”

ซือถูจิ้งเงยหน้า พูดว่า “ไม่มีเรื่องอะไร”

“เช่นนั้น........” เหาเย๋ก็ไม่รู้จะพูดอะไร อยู่ดีๆนางก็มาหาเขา พอมาถึงก็ไม่พูดอะไร เขาเคยพบปัญหามามากมาย และแก้ปัญหามามากมาย แต่ไม่รู้จักจะแก้ปัญหาที่มาจากจิตใจผู้หญิงอย่างไรดี

เขาคิดว่า องค์หญิงคงจะไม่ชอบหน้าเขา

แต่ว่า มันยาก เขาเขาใจองค์หญิง แต่กลัวว่าองค์หญิงจะไม่เข้าใจเขา

เริ่มนิ่งกันมากขึ้น เซียวโธ่มองซือถูจิ้งแปลกๆ แล้วก็มองท่านปู่ ทั้งสองคนเล่นเกมส์ใบ้กันหรอ ทำไมไม่พูดจา?

“องค์หญิง วันนี้ก็อยู่รับประทานอาหารด้วยกันเถิด” เซียวโธ่เริ่มหาเรื่องคุย เพราะมันเริ่มแปลๆแล้ว

ซือถูจิ้งกนิ่ง ไม่ตอบคำถาม แค่บ่นพึมพำออกมาว่า “กินข้าวหรือ?”

“ใช่ กินข้าว คนเราต้องกินข้าว ท่านผอมไปเยอะเลย ” เซียวโธ่กล่าว

ซือถูจิ้งหัวเราะ “งั้นหรือ?”

เหาเย๋เงียบไป จริงๆแล้วเขากลัว แค่เขาคนเดียวนั้นไม่เป็นไร แต่ตระกูลเซียวไม่ได้มีเขาแค่คนเดียว

เซียวโธ่ถามอย่างสงสัยว่า “มีอะไรน่ากลัว? มีศึกก็ตั้งรับเท่านั้นเอง ต่อให้เป็นปัญหาใหญ่หลวงแค่ไหนก็ต้องมีทางแก้ พี่ใหญ่กับองค์หญิงผ่านอะไรมาตั้งมากมาย ถ้าท่านปู่มาทำลายความรักนี้ ข้าคนหนึ่งละที่จะไม่เห็นด้วย”

“หุบปาก พูดไม่เข้าเรื่อง” เซียวเหาเย๋ดุเขา

“ข้าไม่ได้พูดไปเรื่อย แต่ข้าไม่เข้าใจว่าท่านปู่จะกลัวอะไรนักหนา ท่านไม่ได้ก่อกบฏเสียหน่อย ถ้าฮ่องเต้จะสงสัยตระกูลเราแล้วยังไง? เราไม่ได้ทำเสียหน่อย”

ถึงแม้เหาเย๋จะโมโห แต่ก็คิดว่าเซียวโธ่ก็พูดมีเหตุผล เขาเองแก่แล้ว ระแวงเกินไป จริงๆแล้วถึงแม้ฮ่องเต้จะระแวงตระกูลเซียว แล้วอย่างไร? ถ้าให้เซียวเซียวได้ดี สักวันก็ระแวงอยู่ดี

ถ้าไม่ถึงที่สุด ก็ถอยหลังมาก็เท่านั้น รักษาชีวิตไว้ก็พอ เรื่องอื่นก็ไม่สำคัญอะไร

เมื่อคิดถึงจุดนี้ เขาก็รีบตั้งสติขึ้น “ถ้าองค์หญิงไม่มีอะไรเพิ่มเติม เช่นนั้น รอเซียวเซียวหายดีก่อนแล้วกระหม่อมจะเข้าเฝ้าสู่ขออย่างเป็นทางการ”

ซือถูจิ้งมองเขาอย่างตะลึงนิดๆ แล้วน้ำตาก็ร่วงหล่น “เจ้า.....เห็นด้วยแล้วหรือ?”

“ไม่อาจขัดราชโองการ” เหาเย๋ต้องยอมจำนน แต่ก็ไม่อยากให้ใครมาทายความคิดในใจตนเอง เขาไม่กล้ามองซือถูจิ้งที่กำลังร้องไห้ ส่วนเรื่องของเขากับเซียวเซียว เขาต้องรับผิดชอบด้วย

ซือถูจิ้งโค้งคำนับ “ขอบคุณมาก คำตอบจากท่าน มีความหมายต่อข้ามาก”

นางก็เดินไปกับเซียวโธ่ นั่งในห้องผู้ชายที่นางรัก ในนี้มีกลิ่นอายของเขา นางเอามือจับหนังสือที่เขาเคยอ่าน เสื้อผ้าที่เคยใส่ แก้วน้ำที่เคยใช้

นางน้ำตาไหลไม่หยุด ทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ ในใจเพิ่งจะมีชีวิตชีวาขึ้นมา

จริงๆแล้วหลังจากที่ฟื้นขึ้นมา นางเหมือนกับมีชีวิตอยู่ในห้วงอะไรสักอย่าง หลังจากฟื้นขึ้นมา หลีโม่บอกนางว่า เซียวเซียวทรมานตัวเองอยู่ข้างเตียงนาง ตอนนั้นนางแค่คิดว่า ถึงอย่างไรเซียวเซียวก็ไม่ผิดต่อนาง

สองวันแรก เรื่องที่มีใครจะเอาสมบัตินาง นางไม่สนใจเลย พอถึงตอนนี้ นางเพิ่งตื่นขึ้นจากฝันร้าย และเข้าสู่ความเป็นจริง

นางจะแต่งกับเซียวเซียวแล้ว แต่เขายังไม่กลับมา เขายังสบายดีหรือไม่ ไม่มีใครตอบนางได้

นางไม่ได้คิดถึงเรื่องแต่งงาน แค่อยากให้เขาปลอดภัยกลับมา

ไม่เช่นนั้น ชีวิตของก็คงอยู่ต่อไปไม่ได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม