ตอนที่ 425 อาการป่วยของฮ่องเต้
หลีโม่อิงกายอยู่ในอ้อมแขนเขา เอาหัวซุกตรงแผ่นอกเขา ฟังเสียงหัวใจของเขา แล้วก็พูดว่า “มีเรื่องบางเรื่องให้คิด”
“เจ้าพูดมา พูดมาให้ข้าฟัง ว่ามีเรื่องอะไร เรามารับมือด้วยกัน” ซือถูเย้นกอดแน่นขึ้น ความผิดปกติของนางทำให้เขาไม่สบายใจ
หลีโม่เงียบไปพักหนึ่ง แล้วก็พูดอย่างเศร้าสร้อยว่า “ข้าพบว่า ข้ายิ่งอยู่ก็ยิ่งขาดเจ้าไม่ได้แล้ว ซือถูเย้น ข้าคิดว่าข้าน่าจะหลงรักเจ้าแล้ว”
ซือถูเย้นอึ้ง นี่เป็นปัญหาเรื่องที่เขาทั้งสองต่างก็ไม่ยอมพูดออกมา ถึงแม้ที่จริงทุกคนต่างก็รู้ดีถึงความรู้สึกของกันและกัน แต่ก็ไม่ยอมพูดออกมาง่ายๆ เขายังคิดว่า ชั่วชีวิตนี้นางก็คงจะไม่ยอมพูดออกมา
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?” ซือถูเย้นเข้าใจนิสัยของนางดี นางไม่ใช่คนที่มีความรู้สึกอ่อนไหวแบบนั้น จะต้องมีเรื่องอะไรแน่นอน
หลีโม่เงยหัวขึ้น “ข้าสารภาพรักแล้ว นี่คือปฏิกิริยาของเจ้า?”
ซือถูเย้นส่ายหัว “ไม่ ในใจเจ้ามีเรื่องซ่อนไว้ เมื่อก่อนข้าไม่เคยถามเจ้า เหมือนกับที่เจ้าพูดถึงอาชีพหมอทหาร ข้ากำลังเมื่อเจ้าอยากที่จะเล่าให้ข้าฟัง แต่คืนวันนี้เจ้าทำให้ข้าไม่สบายใจ เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วใช่ไหม?”
หลีโม่มองดูแววตาเขาที่เพ่งมองมา จับมือเขาไว้ “เราไปนั่งที่ในศาลา เจ้ามีคำถามอะไร ข้าก็จะบอกเจ้าทุกอย่าง รวมถึงอาชีพหมอทหารของข้าด้วย”
ทั้งสองคนเดินมานั่งลงในศาลา ซือถูเย้นดูตื่นเต้นเล็กน้อย มองดูนางอยู่ตลอด
หลีโม่พูดขึ้นก่อนว่า “เรามาตกลงกันก่อน ข้าจะเล่าทุกอย่างให้เจ้าฟัง แต่เจ้าก็ต้องบอกอาการป่วยของฮ่องเต้ให้กับข้า”
ถึงแม้นางจะไม่รู้ว่าฮ่องเต้จะป่วยด้วยโรคอะไร ตนเองจะรักษาได้หรือไม่ แต่ฮ่องเต้จะมาสวรรคตตอนนี้ และเขาก็ถูกพิษท่งหมิง ซึ่งอันตรายรอบด้าน
ดังนั้น รู้ถึงอาการป่วยของฮ่องเต้ นางจะได้คิดหาทาง ลองให้ถึงที่สุดสักครั้ง
ซือถูเย้นส่ายหัว “อาการป่วยของฮ่องเต้ เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ โรคนี้ ไม่มีทางรักษา”
“ตอนนี้เราควรที่จะมาคุยกันตรงๆ ฮ่องเต้จะสวรรคตไม่ได้ อย่างน้อยตอนนี้จะสวรรคตไม่ได้ รู้ไหม?” หลีโม่ค่อนข้างร้อนรน
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ซือถูเย้นถาม
หลีโม่ถอนหายใจอีก “วันนี้ กุ้ยไท่เฟยเรียกข้าไปคุย นางบอกข้าว่าฮ่องเต้กำลังจะสวรรคตแล้ว เจ้ารู้อาการป่ายของฮ่องเต้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เจ้าคงรู้ดีแก่ใจ ใช่ไหม?”
“ถึงแม้ข้าจะเป็นห่วงฮ่องเต้มาก แต่เรื่องบางเรื่องเราทำอะไรไม่ได้” ซือถูเย้นพูดอย่างเรียบเฉย
“แต่เมื่อฮ่องเต้สวรรคตแล้ว ทุกอย่างในราชสำนักก็จะวุ่นวาย.......”
ซือถูเย้นหัวเราะ “เจ้าเป็นห่วงเรื่องนี้? ไม่ต้องเป็นห่วง ก่อนที่ฮ่องเต้จะสวรรคต องค์รัชทายาทจะโดนปลดแน่”
“งั้นผู้สับทอดบัลลังก์ล่ะ? อ๋องเหลียง? อ๋องเย่? องค์ชายสาม? หรือว่าอ๋องหนานหวย?”
แววตาซือถูเย้นฉายแววเยือกเย็น “นางพูดอะไรกับเจ้ากันแน่?”
หลีโม่ไม่ได้ตอบตรงๆ พูดต่อว่า “จะให้การสนับสนุนอ๋องเหลียงหรือองค์ชายสาม ก็ต้องกำจัดอ๋องหนานหวยใช่ไหม?”
แววตาหลีโม่ดูเศร้าหมอง “แต่เจ้าจะฆ่าเขาไม่ได้ หากฆ่าเขา เจ้าก็ต้องตาย”
ซือถูเย้นอึ้ง “หมายความว่าอะไร?”
ดวงตาหลีโม่เริ่มแดง “เจ้ารู้จักพิษท่งหมิงไหม? เจ้าถูกพิษพิษท่งหมิง เจ้าเป็นพิษลูก อ๋องหนานหวยน่าจะเป็นพิษแม่ หากพิษแม่ตาย พิษลูกก็จะตายทันที”
ซือถูเย้นเงยหัวมองดูนาง เหมือนกับตัดสินใจแล้ว “ได้ ข้าจะบอกเจ้า”
หลีโม่รับคำ แล้วมองดูเขา
ซือถูเย้นพูดว่า “หมิงฮ่องเต้องค์ก่อน เป็นคนโหดเหี้ยม เก็บภาษีอย่างรุนแรง ก่อศึกสงคราม ทำให้ประชากรไพร่ฟ้าทั้งโกรธทั้งเกลียด ตอนที่หมิงฮ่องเต้อายุสิบห้า เขาก็ป่วยกะทันหัน เป็นปานตามใบหน้าตามลำตัว อีกอย่างตรงข้างใบหูยังปรากฏหน้าคนเล็กๆ เมื่อเรื่องนี้เพ่งพายออกไป ประชาชนต่างก็เล่าขานกันว่า วิญญาณของคนที่โดนเขาฆ่าไม่ไปผุดไปเกิด บวกกับสวรรค์กำลังลงโทษหมิงฮ่องเต้ จึงเกิดมีแผลเป็นหน้าผี ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา แผลเป็นหน้าผีก็กลายเป็นโรคแห่งการสาปแช่ง หากใครป่วยเป็นโรคแผลเป็นหน้าผี ประชากรก็จะถือว่าคนคนนั้นเป็นคนชั่วร้าย”
“ฮ่องเต้เป็นแผลเป็นหน้าผี?” หลีโม่ไม่รู้ว่าแผลเป็นหน้าผีคืออะไร แต่บนร่างกายเป็นปาน นี่ก็พบเจอน้อยอยู่
“ใช่ แต่ ตามใบหน้าตามร่างกายของฮ่องเต้ล้วนเป็นปานเต็มไปหมด น่ากลัวมาก และตรงแขนซ้ายของเขา มีใบหน้าเล็กๆใบหนึ่ง เรื่องนี้จะบอกใครไม่ได้เป็นอันขาด ไม่อย่างนั้น ตระกูลซือถูจะสูญเสียความศรัทธาที่อยู่ในหัวใจของผู้คน ทุกคนจะคิดว่าฮ่องเต้เป็นจักรพรรดิที่ถูกสวรรค์ลงโทษ” ซือถูเย้นพูดด้วยเสียงต่ำ
“แผลเป็นหน้าผีนั่นเป็นยังไงหรือ? เมื่อก่อนไม่เคยพบหรือ?” หลีโม่ถามขึ้น
“ก็ใบหน้าของคน มีจมูก มีตา มีปาก ส่วนเมื่อก่อนมีหรือไม่มีข้าไม่รู้”
หลีโม่เคยได้ยินโบราณเคยว่าไว้เรื่องแผลเป็นหน้าคน ตำราการแพทย์จีนมีบันทึกไว้ แผลเป็นเหมือนดั่งหน้าคน เข่าสองข้างหรือข้อศอกสองข้าง ปูดเป็นรูปคิ้วตาปากจมูกของคน แผลเป็นบางชนิดที่มีปากสามารถทานอาหารได้ และในราชวงศ์หมิงหลีชือเจินก็เคยพบเจอแผลเป็นหน้าคน หลังมาก็ได้รักษาหายแล้ว แน่นอน ภพชาตินี้ไม่มีคนที่ชื่อหลีชือเจิน
ไม่รู้ว่าแผลเป็นหน้าผีกับแผลเป็นหน้าคนเป็นอันเดียวกันไหม หากเป็นอันเดียวกัน นั่นก็เป็นแค่เนื้องอกแต่กำเนิด
แต่ เนื้องอกแต่กำเนิดคือมีมาตั้งแต่เกิดแล้ว และไม่ได้ทำให้ใบหน้าร่างกายเป็นปาน ดังนั้นอาการจึงไม่เหมือนกัน
หลีโม่พูดว่า “เอาอย่างนี้ เจ้าพาข้าเข้าวัง ข้าอยากดูอาการของฮ่องเต้”
ซือถูเย้นส่ายหัว “หลีโม่ ดีที่สุดเจ้าไม่ต้องไป หากเจ้าไปรักษาแล้วรักษาไม่หาย เจ้าจะสู้หน้ากับเหล่าบรรดาขุนนางยังไง อีกอย่างหากฮ่องเต้สวรรคต แล้วมีคนตั้งใจผลักความผิดอะไรให้เจ้าบ้าง เจ้าเคยคิดไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...