ตอนที่ 434 ไปที่คุก
ซือถูเย้นพูดมาเช่นนั้น หลีโม่ที่นั่งอยู่คุกมาครึ่งชั่วโมง จึงเข้าใจความตั้งใจของซือถูเย้น
นางพยายามใช้ความคิดอย่างหนักหน่วง ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนปล่อยข่าวนี้ออกไป คนที่รู้เรื่องนี้มีอยู่กี่คน?
นางเรียบเรียงเหตุการณ์ในสมอง จึงคิดว่ากุ้ยไท่เฟยกับอ๋องหนานหวยคือคนที่น่าสงสัยที่สุด ทว่ากุ้ยไท่เฟยในอดีตไม่มีทางรู้อาการป่วยของฮ่องเต้แน่นอน ไม่อย่างนั้นนางคงประกาศออกไปนานแล้ว
เมื่อก่อนไม่รู้ แล้วตอนนี้จะรู้ได้อย่างไร?
เหลียงไถ้ฝู้เองก็เป็นไปได้ เมื่อฮ่องเต้ถูกบังคับให้สละราชบัลลังก์ องค์รัชทายาทจึงจะได้ราชาภิเษกเป็นฮ่องเต้ตามกฎมณเทียรบาล แต่ว่าเหลียงไถ้ฝูน่าจะไม่รู้อาการป่วยของฮ่องเต้
หลีโม่คิดถึงวันที่ซือถูเย้นพานางเข้ามา เดิมทีต้องถูกองครักษ์ขัดขวาง แต่ภายหลังก็ต้องปล่อยให้ผ่านไป เห็นได้ชัดว่าคนในตำหนักซีเวยล้วนเข้าใจดี ต่อไปตนจะไม่มีรอด หากสามารถเข้าหาผู้ที่มีอิทธิพลได้ก็ให้รีบเข้า หากเข้าหาไม่ได้ล่ะก็ เมื่ออาการป่วยของฮ่องเต้ถูกประกาศออกไป ก็จะไม่ใช่เรื่องที่ดีนักแล้ว
ตามความเป็นจริง ฮ่องเต้ในตอนนั้นเลือกที่จะอยู่รักษาตัวที่ตำหนักซีเวย คนที่จะมาปรนนิบัติข้างกายต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ ไม่เพียงแค่ไว้ใจได้ ความซื่อสัตย์ก็ต้องสูงมากอีกด้วย แต่ว่าความซื่อสัตย์จะสูงเพียงใด ก็สามารถหวั่นไหวกับความกลัวตายที่ใกล้เข้ามาและเพิ่มมากขึ้นทุกวัน หากในเวลานี้ มีคนวางแผนการชั่วร้าย ให้ประกาศอาการป่วยของฮ่องเต้ออกไป ไม่แน่ว่าอาจจะไม่มีใครยอม
ในขณะที่หลีโม่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ก็พลันได้ยินเสียงผิวปากดังขึ้น
หลีโม่เงยหน้าขึ้นมา ทันทีหลังจากนั้นก็หันหลังไปพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้ามาทำไม?”
ซือถูเย้นถือเหยือกเหล้าและกับข้าวจานเล็กใบหนึ่งอยู่ในมือ “มาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าไงล่ะ!”
“ไม่จำเป็น” หลีโม่สีหน้าดูไม่ได้เลย นางย่นหน้าราวกับลาดำตัวหนึ่ง
ซือถูเย้นเปิดประตูกรงขังแล้วนั่งลงบนกองฟาง “เสี่ยวชี่ ยังไม่เข้าใจอีกหรือ?”
“เข้าใจก็เรื่องหนึ่ง โกรธก็อีกเรื่อง เจ้าคุยกับข้าก่อนก็ได้”
“พูดก่อนก็ไม่สมจริงสิ” ซือถูเย้นยื่นมือไปดึงนาง นางจึงทรุดตัวเข้ามาในอ้อมกอดของเขา “เอาล่ะ เลิกโกรธข้าได้แล้ว ”
“แล้วตอนนี้เจ้ามีเบาะแสหรือยัง?” หลีโม่เองก็ไม่ได้โกรธ และไม่มีอะไรให้โกรธด้วย
“ให้เซียวโธ่กับซูชิงไปสืบแล้ว เชื่อว่าในไม่ช้านี้ก็จะรู้แล้วว่าใครเป็นคนปล่อยข่าว” ซือถูเย้นกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“เจ้าดูไม่สนใจเลย เรื่องนี้มันร้ายแรงมากไม่ใช่หรือ? ฮองไทเฮาก็น่าจะกระวนกระวายแล้วกระมัง?” หลีโม่กล่าว
“ใช่ ให้คนรีบร้อนมาเรียกข้าให้เข้าวัง”
“ใยเจ้ายังไม่ไปอีกเล่า?” หลีโม่แย่งเหล้าในมือของเขามาดื่ม ทันใดนั้นก็มีเสียง “พรูด” ดังนั้น “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? นี่ไม่ใช่เหล้า เปรี้ยวชะมัด”
“นี่มันน้ำส้มสายชู” ซือถูเย้นพูดอย่างช้าๆ
“แล้วเจ้าเอาน้ำส้มสายชูมาทำไม?” หลีโม่กลอกตา ชาวบ้านในเมืองหลวงแคว้นต้าโจวพูดกันว่ามีสองคนที่โง่เง่ากับอีกหนึ่งคนที่น่าเกรงขาม ซูชิงกับเซียวโธ่คือคนที่โง่เขลา และอ๋องเหลียงซือถูฮ่าวคือคนที่น่าเกรงขาม ในความคิดของนาง ซือถูเย้นคือคนที่โง่เง่ามากๆ
“ช่วยแก้อาการอยากสุราได้” ซือถูเย้นถือเหยือกเหล้าขึ้นก่อนจะจิ๊บคำเล็กๆ ทันทีหลังจากนั้นใบหน้าก็พลันขมวดคิ้วมุ่น ราวกับผักดองเค็มที่เต็มไปด้วยรูพรุน
“ดื่มน้ำส้มสายชูแล้วมันแก้อาการอยากสุราได้อย่างไร?” หลีโม่เผลอหัวเราะออกมา โง่เง่าจริงๆ
ซือถูเย้นพูดอย่างช้าๆ “ท่านหมอหลวงหลิวบอกเอาไว้ ดื่มน้ำส้มสายชูช่วยให้ปึ๋งปั๋ง ข้าต้องอดทนดื่มให้มากๆ ต่อไปพวกเราก็จะได้ให้กำเนิดลูกที่อุดมสมบูรณ์”
หลีโม่ตะลึงงัน “เจ้าคิดเช่นนี้รึ?”
“ใช่แล้ว เจ้าไม่คิดรึไง?” ซือถูเย้นถามกลับ
หลีโม่ไม่รู้ว่าร่างกายนี้ยังสามารถตั้งครรภ์ได้หรือไม่ นางมีพื้นฐานที่แย่มาก อีกทั้งพลังชีวิตยังถูกทำลายด้วยหงฮัวอีก และแน่นอนว่าหงฮัวนั้นจริงๆ แล้วอาจจะไม่ได้ทำให้คนเป็นหมันได้ เพียงแต่พื้นฐานของนางนั้นมันแย่เกินไป หากอยากจะให้ตั้งครรภ์ ต้องบำรุงร่างกายสักสองสามปีกระมัง
“เจ้าอยากมีลูกจริงๆ หรือ?” หลีโม่ดูลุกลี้ลุกลนอย่างเห็นได้ชัด เพราะนางบอกไม่ได้ว่าตอนนี้นางสามารถตั้งครรภ์ได้หรือไม่ หากว่าตั้งครรภ์ได้ นางอยากจะให้กำเนิดเด็กคนนั้นจริงๆ หรือ?
ซือถูเย้นดื่มน้ำส้มสายชูเข้าไปอีกอึก หลังจากดื่มเสร็จแล้ว เขาก็โยนทิ้งไปด้านข้างพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น “ลงคอยากจริงๆ”
หลีโม่เห็นเขาไม่ได้ตอบคำถามตรงๆ ก็น่าจะอยากมีลูกมาก “ใครบอกว่าน้ำส้มสายชูช่วยให้ปึ๋งปั๋งกัน?”
“ท่านหมอหลวงบอก”
“เอาล่ะ ข้าไปแล้ว” ซือถูเยนหยิบเหยือกเหล้าขึ้นมา “ของกินพวกนี้ข้าให้เจ้า ข้าเป็นคนทำเองกับมือ”
หลีโม่รู้สึกแปลกใจ “เจ้าทำเองงั้นหรือ?”
คิดไม่ถึงว่าเขาจะเข้าครัว? เขาไม่เคยซักผ้าถูบ้าน เพราะกลัวสกปรกที่สุด
“ซาบซึ้งใจก็ร้องไห้ออกมา” ซือถูเย้นเปิดประตูกรงขัง “อีกหน่อยจะให้คนมาส่งผ้าห่มให้เจ้า คืนนี้นอนคนเดียว ช่างสบายจริงๆ”
หลีโม่โกรธมาก เมื่อครู่นี้นางมีความซาบซึ้งจริงๆ
ซือถูเย้นยืนอยู่นอกกรงขังพูดว่า “เสี้ยหลีโม่ ข้าไม่มีทางยอมให้คนอื่นมารังแกเจ้าหรอก”
หลีโม่ร้อง “อ๊ะ” ออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพราก กำลังคิดจะเข้าไปกอดเขา
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียง “ฮึ” ออกจากปากเขา “หากจะรังแก ก็มีเพียงข้าเท่านั้น ใครหน้าไหนจะกล้าแย่งอำนาจนี้ของข้า?”
จากนั้นเขาก็ถือเหยือกเหล้าจากไปโดยไม่หันกลับมา
“ซือถูเย้น เจ้าทำตัวให้มันปกติหน่อยไม่ได้รึไง? พูดให้มันเพราะๆ หน่อยจะตายรึ?” หลีโม่ตะโกนเสียงดัง
น้อยครั้งที่จะควบคุมอารมณ์ได้เวลาอยู่กับเขา
ซือถูเย้นโบกมือโดยไม่หันหลังกับ “พักผ่อนเถอะ”
คำพูดเพราะๆ ใครไม่อยากได้ยินบ้าง? แต่พูดออกมาสักหน่อยมันก็ดี ใครอยากจะพูดคำหวานๆ เหล่านั้นออกมาทั้งวัน? เลี่ยนตายเลยแบบนั้น
สตรีเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดจริงๆ
จิ่นเฉิงยืนอยู่หน้าประตูคุก มุมปากกระตุก พระชายาช่างน่าสงสาร
ท่านอ๋องผู้นี้เป็นชายชาตรีที่รูปงาม ทว่าใครแต่งงานกับใครก็น่าจะรู้ดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...