ตอนที่ 435 เก็บความเพ้อฝันของเจ้ากลับไป
ซือถูเย้นไม่รู้ว่าเพราะอยากกินเปรี้ยวๆ จึงดื่มน้ำส้มสายชูหรือไม่ ตอนนี้ก็ติดน้ำส้มสายชูเอาไว้ไม่ห่างกายแล้ว ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ต้องดื่มสองสามอึก
พอตกเย็นจิ่นเฉิงก็เอาผ้าห่มกับฟูกมาให้ ไม่นานหลังจากนั้น ก็เห็นซือถูเย้นตามมาพร้อมกับกอดผ้าห่มมาด้วย
“เจ้ามาทำอะไร?” หลีโม่เห็นเขาเดินโทงๆ เข้ามา จึงถามขึ้น
“สามีภรรยาก็เหมือนคนคนเดียวกัน เจ้านอนตรงไหนข้าก็นอนตรงนั้น” เขาเหลือบมองฟูกของหลีโม่คราหนึ่ง จึงกล่าวอย่างรังเกียจว่า “เจ้าสกปรกขนาดนี้เชียวหรือ? ด้านล่างไม่วางเสื่อสักผืนเลยรึ? ใช้ผ้าห่มกับฟูกวางเอาไว้บนกองฟางอย่างนี้ สกปรกเกินไปแล้ว”
จิ่นเฉิงกล่าวว่า “เย้นเอ๋อร์ไปกำลังไปเอา เดี๋ยวก็มาแล้วขอรับ”
“ตอนนี้ข้าอยู่ในคุกเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร ไหนเลยจะให้ความสำคัญขนาดนั้น?” หลีโม่กลอกตากล่าว
“เจ้าไม่ให้ความสำคัญ แต่ข้าให้ เพราะข้าเองก็จะนอนกับเจ้าด้วย” ซือถูเย้นสูดดมครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็กล่าวด้วยความขยะแขยงว่า “เจ้าไม่อาบน้ำ”
หลีโม่กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์นัก “เจ้าคิดว่าที่นี่คือคุกระดับห้าดาวงั้นหรือ? ที่ต้องมีห้องน้ำในตัวน่ะ”
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้เล่า?”
ซือถูเย้นสั่งการจิ่นเฉิง “ไปทำถังไม้มา และตักน้ำใส่ให้เต็ม เจ้าคอยเฝ้าอยู่ด้วยนอกด้วยตัวเอง ใครก็ห้ามเจ้ามา แม้แต่ยุงก็ต้องทดสอบก่อนว่าเป็นตัวผู้หรือตัวเมียค่อยปล่อยเข้ามา”
“ไม่ต้องลำบากแล้ว ข้าไม่อาบ ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น จะอาบน้ำทำไม? ติดคุกก็ต้องมีสภาพอย่างคนติดคุก”
“ถ้าเจ้าไม่อาบน้ำแล้วใครจะนอนกับเจ้า” ซือถูเย้นหน้านิ่วคิ้วขมวด สั่งการจิ่นเฉิงว่า “รีบไป”
จิ่นเฉิงหันไปด้วยความกล้ำกลืนฝืนทน “ข้าเป็นถึงแม่ทัพอันดับห้า กลับต้องมาทำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อะไรเช่นนี้”
“พูดไร้สาระอะไรอยู่?” ซือถูเย้นตะโกนใส่
จิ่นเฉิงปิดหูเอาไว้พร้อมกับรีบวิ่งออกไป บอกให้ไปสองรอบยังไม่พออีกหรือ? ไม่ทันไรก็ทำให้ฟ้าร้องแผ่นดินสะเทือนเสียแล้ว หากจะแต่งงานภรรยาให้ลูกชายจะต้องดูให้ละเอียดโดยเฉพาะใบหน้า
สตรีคือสิ่งที่ยากจะหยั่งจริงๆ
เย้นเอ๋อร์กอดเสื่อเข้ามาพร้อมกับดวงตาที่แดงก่ำ นางน้อยใจแทนเจ้านาย ต้องถูกจับเข้าคุกเพราะเรื่องที่ไร้เหตุผลนี้ จะไม่ทำให้น้อยใจได้อย่างไร?
“เอาล่ะ ไม่ต้องร้องแล้ว ไม่ได้ติดคุกเสียหน่อย พวกเราแค่มานั่งกันเฉยๆ” เมื่อครู่นี้หลีโม่ก็เพิ่งจะปลอบใจนางไป
น้ำตาของเจ้าเด็กผู้นี้ช่างเหมือนกับน้ำมหาสมุทรจริงๆ เลย
“วันนี้บ่าวจะไม่ไปไหน บ่าวจะอยู่ด้านนอกกับท่านอาจารย์” เย้นเอ๋อร์กล่าวด้วยน้ำเสียงสะอื้น
“ไม่ได้ ด้านนอกมันหนาว อย่ารออยู่ด้านนอก กลับไปนอนซะ”
“ไม่ ไม่ไปเจ้าค่ะ บ่าวพูดกับท่านอาจารย์แล้ว” เย้นเอ๋อร์กล่าวอย่างดื้อรั้น “อีกอย่าง เสี่ยวเตาก็อยู่ด้านนอกเช่นกันเจ้าค่ะ”
พูดจบ นางก็ออกไปช่วยทำถังอาบน้ำทันที
หลีโม่มองไปที่ซือถูเย้น “ดูสิ เรื่องดีๆ ที่เจ้าทำ ไม่เข้าใจจริงๆ เลย ทำห้องน้ำในคุกของจวนอ๋องซื่อเจิ้งเพื่ออะไร? ทั้งยังไม่ใช่สำนักงานจิงเจ้าหยิ่น”
“ตอนที่ข้าออกมาจากวัง ก็ได้เรียกคนให้มาก่อสร้างคุกแห่งนี้ เพื่อรอคุมขังเจ้าสตรีที่ไม่เชื่อฟัง เดิมทีการออกแบบของผนังเป็นอุปกรณ์สำหรับลงโทษ ให้คนที่เข้าไปในห้องนี้เกิดภาพลวงตาว่ากำลังย่างกรายเข้าไปในขุมนรก” ซือถูเย้นยิ้มกว้างจนเห็นฟัน แกล้งทำน่ากลัวเพื่อให้นางหวาดกลัว
หลีโม่กลอกตาไปมา ช่างเหมือนกับคนหนุ่มที่โง่เง่ายกกำลังสองกำลังเบิกบานใจจริงๆ
แต่ว่า นางสามารถคิดภาพการออกแบบห้องขังนั้นออก มันใช้คุมขังนักโทษที่มีข้อหาหนัก
ขุดดินเข้าไป กำแพงเป็นเหล็ก ทำช่องเอาไว้สองข้างเพื่อให้ลมผ่าน กับด้านบนอีกหนึ่งช่อง ให้อากาศถ่ายเทสะดวก กรงเหล็กที่ใช้เหล็กสีดำหลอมขึ้น ออกแบบมาอย่างประณีตสวยงาม แม้ไม่เข้าใจกลไกของมัน ทว่าตำแหน่งประตูกับตำแหน่งตรงกลางของกำแพงจะมีก้อนหินโผล่ออกมาอย่างฉับพลัน เหมือนกับว่ามันคือปุ่มเปิดปิดการทำงานกลไก
“ที่เจ้าว่ามานี้ไม่มีอุโมงค์ใต้ดินใช่หรือไม่?” หลีโม่เอ่ยถาม
ทันใดนั้นซือถูเย้นก็รู้สึกไม่สนุกขึ้นมา “เจ้าดูออกได้อย่างไรว่ามีอุโมงค์?”
“ด้านหน้ามืดตึ้ดตื๋อ แสงสว่างที่ส่องเข้าไปกลับถูกกลืนหาย แสดงว่าด้านในนั้นไม่มีจุดสิ้นสุด”
“ไม่ผิด ที่นี่ก็คือทางเข้าของอุโมงค์ หากมีสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็สามารถถอนทัพออกจากอุโมงค์นี้ไปได้ ”
ซือถูเย้นไม่สนใจนาง ดื่มลงไปอีกอึก ทำปากขมุบขมิบครู่หนึ่ง ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปจูบหลีโม่
ทันใดนั้นหลีโม่ก็ผลักเขาออกทันที รู้สึกอยากจะอ้วกออกมามั้งยังรู้สึกทรมานไม่น้อย
ซือถูเย้นกลับหัวเราะอย่างได้ใจ ทันใดนั้นสายตาก็พลันประกายความแปลกใจออกมา
“เป็นบ้าไปแล้วหรือ เจ้ากลับไปนอนเลย อย่ามาอยู่ตรงนี้” หลีโม่พูดอย่างไม่สบอารมณ์นัก
ซือถูเย้นคว้านางเข้ามาในอ้อมกอด หลีโม่ถูกแขนดั่งเหล็กและขาดุจตะขอกอดรัดเอาไว้ “หยุดพูด นอนได้แล้ว”
หลีโม่ไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก นางยังอยากจะพูดบางอย่าง แต่เขากลับพลิกกายขึ้นมาคร่อมตัวนางเอาไว้ หลีโม่ใช้แรงผลักเขาออกไป “นี่มันคุกนะ ด้านนอกยังมีคนอยู่”
“พวกเขาเข้ามาไม่ได้!” ซือถูเย้นกัดติ่งหูนางเบาๆ “ไม่ต้องพูดมาก อย่ารบกวนการทำงานของข้า!”
ใจของหลีโม่ไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน เขารู้หรือไม่ว่าเหตุการณ์ตอนนี้มันร้ายแรงขนาดไหน?
ชิงหนิงเก๋อ
คืนนี้มีฝนยามฤดูหนาวพรำลงมาเล็กน้อย อากาศจึงยิ่งหนาวเข้าไปใหญ่
ซุนฟางเอ๋อร์ยืนอยู่หน้าระเบียง สวมเสื้อตัวบาง อากาศหนาวทำให้นางตัวสั่นเทิ้ม ทว่านางกลับไม่ยอมสวมเสื้อเข่าไปเพิ่มทั้งยังไม่ยอมกลับไป
นางกัดฟันกรอด สายตาเต็มไปด้วยความแค้น เถาวัลย์สีเขียวหน้าระเบียงถูกนางฉีกทึ้งออกเป็นชิ้นๆ
“เห็นแล้วใช่หรือไม่? แม้จะถูกขัง แต่เขากลับเข้าไปนอนในคุกเป็นเพื่อนนาง เขายังไม่มีหัวใจไม่มีความรู้สึกอีกหรือไม่? เขาแค่ไม่ได้รักเจ้า แม้เจ้าจะใส่หนอนพิษ เขาก็ยังไม่รักเจ้า” อ๋องหนานหวยพูดด้วยน้ำเสียงเยาะหยันออกมา ทุกคำทุกประโยคล้วนเป็นดั่งคมมีดที่ทิ่มแทงเข้ามาในใจของนาง
ซุนฟางเอ๋อร์ใบหน้านิ่งสงบ ความเกลียดชังที่มีอยู่ล้วนหายไป พูดเบาๆ ว่า “เช่นนั้นแล้วจะอย่างไรเล่า?”
“ไม่อย่างไร เพียงแต่ข้าคิดถึงคำพูดเมื่อก่อนของเจ้าที่เคยบอกว่า ซือถูเย้นจะฆ่านางหรือไม่ก็ต้องไล่นางออกไปแล้วข้าก็เกิดรู้สึกอยากหัวเราะเท่านั้น เจ้าไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกันว่าเขาจะเป็นเช่นนั้น? เพียงเพราะเจ้าไม่ได้เขามาครอบครองจึงตัดสินว่าเขาเป็นคนไร้หัวใจงั้นหรือ?”
“พอได้แล้ว” ซุนฟางเอ๋อร์ไม่ค่อยพอใจนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...