พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 448

ตอนที่ 448 ถูกกับดัก

สนมเหลียงกล่าว “ถ้าเช่นนั้นพวกเราเข้าไปรอในโถงกันเสียเถอะ ให้ใต้เท้ามากมายรออยู่ที่ลานคงไม่งามนัก ทั้งอากาศยังหนาวเย็น”

ลู่กงกงยิ้มบาง “สนมเหลียง รออีกหน่อยเถิดพ่ะย่ะค่ะอย่างรีบร้อนไปเลย หากรู้สึกเหนื่อยล้า หม่อมฉันจะยกเก้าอี้ออกมาให้นะเพคะ”

เหลียงไถ้ฝู้พูดกับสนมเหลียง “รอเสียหน่อยเถิด ฮ่องเต้กำลังสรงน้ำฉลององค์ อย่างมากก็ครึ่งชั่วยาม เพียงครึ่งชั่วยามรอเสียหน่อยนับว่ายังพอได้”

รออยู่ด้านนอกตำหนักมากเกินครึ่งชั่วยามแล้ว ยังเรียกว่าเพียงครึ่งชั่วยามได้อีกรึ?

ลู่กงกงแย้มยิ้มก่อนกลับเข้าไปกลับมาพร้อมเก้าอี้ ทั้งยังใส่ใจยกชาร้อนมาให้

อากาศหนาวเย็น ลมพัดพาดผ่าน อาจจะไม่ใช่ดูหนาวแต่กลับเย็นเยือกอย่างมาก

ทั้งวันก่อนยังมีฝนตกลงมา อากาศเย็นลงไปมาก ตอนนี้ผู้คนที่อยู่ด้านนอกถูกปลุกให้ตื่นเต้นจนไม่รู้ถึงอากาศหนาว บัดนี้ได้นั่งลงเป็นที่เรียบร้อยลมหนาวพัดผ่านจนเริ่มรู้สึกหนาวเย็น

เห็นได้ชัดว่าองค์รัชทายาทกระวนกระวายใจมาก จึงออกไปเดินเล่นทอดน่อง แต่ไถ้ฝู้กลับใจสงบนิ่งอย่างมาก เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว สุดท้ายก็ต้องเข้าไปเผชิญ

ในใจของเขาคาดการณ์ไว้สองแผนการที่อาจเป็นไปได้ แผนแรกเป็นไปตามแผนของซือถูเย้นที่จะโจมตีพวกเขาในตำหนัก แน่นอนว่าฮ่องเต้ไม่สามารถออกมาพบพวกเขาได้ เขาจะไม่แสดงแผลพุพองนั่นให้พวกเราเห็น

ความเป็นไปได้ข้อที่สอง เมื่อเรื่องราวทั้งหมดสำเร็จ ก็จะประกาศสืบราชบัลลังก์ขององค์รัชทายาททันที และพิธีจำดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

บัดนี้ประตูเมืองได้ปิดลงแล้ว แม้ว่าซือถูเย้นต้องการรวมพลกองทหารม้าก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว เพราะด้านนอกมีทหารองครักษ์ของเขาเฝ้าอยู่ คนที่อยู่ด้านในตำหนักไม่มีใครสามารถออกไปด้านนอกประตูวังได้แล้ว

ด้านนอกมีแค่เฉินไท่จูนกำลังรอคน ไม่มีกำลังทหาร ไม่มีหนทางรวมกำลังพลทหารได้

ปิงปู้ซือหลางสั่งการให้คนไปจับตาดูเอาไว้ เมื่อพลเคลื่อนเข้าไป ฆ่าโดยไม่มีการนิรโทษกรรม

เมื่อดูป้ายสาส์น เขามีโอกาสชนะแปดสิบในร้อย

“ไถ้ฝู้ ดูท่าแล้วตอนนี้ซือถูเย้นจะยื้อเวลาให้ล่วงเลยไปอีก” จางหยูชื่อกล่าว

จางหยูชื่อไม่มียศตำแหน่งใด แต่เมื่อเรื่องเจรจาค้าขายต้องเชิญเขามาด้วย ได้ยินองค์รัชทายาทและสนมเหลียงกล่าวว่าฮ่องเต้เป็นแผลพุพอง เขามาทำตามหน้าที่เขาเป็นที่ปรึกษาให้ฮ่องเต้และเหล่าขุนนางของพระราชวัง ฮ่องเต้เป็นแผลพุพอง เขาไม่ได้มีความเมตตา ยั่วยุความโกรธของบัญชาสวรรค์ที่ลงโทษเขา

ความจริงวันนี้เขาไม่ได้พบเห็นความผิดปกติใด คนที่เป็นไส้ศึกเช่นนี้ รู้เพียงแต่เหตุผลการตาย หากวันนี้ได้เห็นว่าฮ่องเต้ประชวรเป็นแผลพุพอง เขาจะรีบขอโทษขอโพยขอชีวิตทันที

ตอนเขาคิดว่าซือถูเย้นกำลังทำให้เวลาล่าช้า ไม่ใช่เพราะฮ่องเต้ เหตุใดซือถูเย้นจึงไม่ยอมให้เข้าไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้เสียที? ก็เพราะต้องการปกป้องตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนของเขาเอาไว้ ฮ่องเต้ไม่สละบัลลังก์ องค์รัชทายาทก็ไม่สามารถขึ้นครองราชย์ต่อได้ นั้นเสี่ยงต่อตำแหน่งท่านอ๋องของเขามาก

ทำหน้าที่ควบคุมตรวจสอบ เขาไม่พอใจกับอำนาจของซือถูเย้นอย่างมาก เพราะครั้งนี้มันถูกนำมาใช้กับไถ้ฝู้และคนอื่นๆ

เหลียงไถ้ฝู้กล่าว “อย่าใจร้อนจนเกินไป หลังจากหนึ่งชั่วยามนี้แม่ทัพจะบุกเข้ามา พอถึงเวลานั้นอำนาจของซือถูเย้นมากมายเท่าใดก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”

เขาเพิ่งวางแผนไว้ว่าองค์รัชทายาทในวังมีอยู่เจ็ดร้อยคน หนึ่งในสามเป็นพวกของเขา รวมกับพลทหารอีกสามพันนายที่อยู่ด้านนอก ตั้งพลต่อสู้กับพวกของเฉินไท่จูน แค่ต้องชนะก็พอ ถึงจะฆ่ากันเข้ามาถึงในราชวัง ซือถูเย้นไม่สามารถออกไปช่วยได้ ต้องจัดการสถานการณ์เช่นนี้ไว้ให้ได้

เหลียงไถ้ฝู้ทำให้ทุกคนสงบสติอารมณ์ ทุกคนจึงมีใจอดทนรอต่อไปได้

รอจนผ่านไปครึ่งชั่วยามแล้ว แต่ในโถงยังไม่มีใครออกมาเชิญให้เข้าไป

จางหยูชื่อถามไถ่องครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตู “เจ้าเข้าไปถามที ฮ่องเต้จะรับสั่งให้พวกเราเข้าไปได้หรือยัง?”

องครักษ์ตอบกลับไปนิ่งๆ “หากฮ่องเต้ให้เข้าเฝ้าได้แล้วจะสั่งคนให้ออกมาสั่งเอง โปรดรอก่อน”

“พวกเรารับราชโองการให้เข้าไปได้ แต่ฮ่องเต้กลับสรงน้ำฉลององค์ เหตุใดจึงนานเช่นนี้?” จางหยูชื่อถามด้วยอารมณ์เหนื่อยหน่าย ไม่ใช่เพราะต้องรอจนรู้สึกเบื่อหน่าย แต่เพราะน้ำเสียงขององครักษ์ที่พูดกับเขา

ต้องการให้เขาดูแลราชสำนัก ไม่ว่าฮ่องเต้หรือว่าขุนนาง ไม่มีใครสุภาพกับเขาเลยรึ เจ้านี่เป็นองครักษ์ไร้ศักดิ์ไร้นาม ยังมาทำตัวดูถูกเขา จะไม่ทำให้เขาโกรธได้อย่างไร?

“บัดนี้ฮ่องเต้ประชวร อย่าบอกไปว่าครึ่งชั่วยาม หนึ่งชั่วยาม สองชั่วยามก็อาจจะยังไม่เสร็จดี”

“ไปสิ!” สนมเหลียงกระซิบกระซาบเสียงเบา

องค์รัชทายาทเห็นหมู่ฮ่องร้อนรน ถึงจะข้องใจอยู่แต่ก็ทำตามที่นางบอก

ต่อมาตอนที่พวกเขากำลังจะหันกลับไป ก็พบว่าประตูตำหนักซีเวยได้ปิดลงเสียแล้ว ธนูนับร้อยพุ่งลงมาจากฟ้า ปักลงสู่กำแพงวัง

“องค์รัชทายาท เพิ่งจะมาเองจะรีบกลับไปไหนเล่า” เสียงหัวเราะของซือถูเย้นดังมาจากด้านในห้องโถงของตำหนักซีเวย เขาเอามือไว้หลัง ตะเกียงลมที่สว่างสะท้อนใบหน้าของเขาที่ประดับด้วยรอยยิ้มแสนกวนที่มุมปาก

สนมเหลียงหันกลับมา จ้องซือถูเย้นอย่างเอาเป็นเอาตาย เรื่องมาจนถึงตรงนี้แล้วถ้าเขาไม่รู้ตัวว่าตนเองถูกวางแผนไว้ละก็ คงโง่เต็มทน

“องค์ชายวางกับดักไว้ได้ดีเสียจริง!” เหลียงไถ้ฝู้ไม่แสดงสีหน้าใด

“กับดัก?” ซือถูเย้นหัวเราะ “นี่เรียกว่ากับดักรึ? ข้าอยู่ที่นี่เพื่อดูแลอาการประชวร ฮ่องเต้ตรัสว่าอยากพบพวกเจ้า ก็แค่บังเอิญสรงน้ำฉลององค์อยู่ จวนจะเสร็จแล้วล่ะเลยออกมาบอกให้พวกเจ้าได้ทราบ ไม่คิดว่าพวกเจ้าจะไปกันเสียแล้ว”

“ข้าเป็นคนนอกวัง ก็โดนเจ้าควบคุมรึ?” เหลียงไถ้ฝู้ถามออกไปอย่างเย็นชา

“มิใช่” ซือถูเย้นส่ายหน้า “คนของเจ้าอยู่ด้านนอกอย่างสงบเงียบไม่หือไม่อือ ก็แค่มีคนออกไปประกาศแล้ว กล่าวว่าแม่ทัพเฉียนผิดใจกับแม่ทัพเซียว บัดนี้ได้ถูกแม่ทัพเซียวกุมตัวเอาไว้แล้ว อีกทั้งซุนกงกงก็ออกไปบอกพวกเขาแล้วว่าไถ้ฝู้กับองค์ฮ่องเต้ได้พบเจอเจรจากันแล้ว ไม่รู้ว่าพวกเขาจะสบายอกสบายใจกันมากแค่ไหน”

เหลียงไถ้ฝู้ตอบอย่างแผ่วเบา “เช่นนั้นเองรึ? ฮ่องเต้เป็นแผลพุพอง วันนี้ไม่ให้พวกเราเข้าเฝ้า วันหน้าก็ต้องได้พบ เจ้าอยากจะซุกซ่อนฟ้าดิน ปิดบังความจริงแก่ผู้คนใต้สวรรค์ชั้นฟ้า เกรงว่าคงไม่พอนะ”

ซือถูเย้นนิ่งไป เริ่มขุ่นเคืองเล็กน้อย “ผู้ใดบอกเจ้าว่าฮ่องเต้เป็นแผลพุพองรึ? ข่าวลือไร้ที่มาที่ไปเจ้าก็เชื่อด้วยงั้นรึ? ข้าประเมินเจ้าสูงไปจริงๆ ไถ้ฝู้”

องค์รัชทายาทพูดแทรกขึ้นมา “เจ้าอย่ามาทำให้สับสนวุ่นวายหน่อยเลย ข้าและหมู่ฮ่องเห็นมากับตา เสด็จพ่อเป็นแผลพุพอง”

“องค์รัชทายาทและสนมเหลียงเคยมาเข้าเฝ้าจริง แต่ฮ่องเต้เป็นเพียงวัณโรค เอาเรื่องโรคแผลพุพองมาจากที่ใดกัน? กล้าเอาไปป่าวประกาศให้ชาวเมืองรู้ องค์รัชทายาทกล้าแพร่ข่าวออกไป ดังนั้นจึงมาบอกกล่าวให้ทุกคนเข้ามาในตำหนัก ไม่ใช่เพื่อเข้าเฝ้าฮ่องเต้ แต่มากดดันให้สละราชย์รึ?”

ซือถูเย้นกล่าวประโยคสุดท้ายจบ ราวกันโยนน้ำแข็งกระทบใบหน้าของทุกคนที่อยู่อีกฝั่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม