บทที่ 517 หมุยเฟยมีปัญหาหรือ
ตอนที่โหรวเหยาเข้าวังมา ซุนฟางเอ้อร์ก็ไปแล้ว ได้รู้ว่าฮ่องเต้รับนางไป โหรวเหยาหัวเราะ เงยหัวมองดูหลีโม่ หางตาฉายแววเจ็บปวด “หากนางได้อยู่ต่อ บางทีนางอาจจะกลายเป็นคนดีคนหนึ่งได้”
หลีโม่ไม่กลายออกความเห็น สำหรับซุนฟาเอ้อร์ ยังไงก็ยังคงรักษาท่าทีของตน
จริงๆแล้วซุนฟางเอ้อร์เป็นคนดีหรือร้าย นางไม่รู้ ซุนฟางเอ้อร์ทำเพื่อความอยู่อด ทำเพื่อให้ได้มีชีวิตที่ดี นางจะต่อต้านก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ควรทำร้ายคนที่ดีกลับนาง
ยังไงหลีโม่ก็ยังรับไม่ได้ เรื่องที่นางทำกับมารดาของโหรวเหยา
เพราะภายใต้เรื่องนี้ นางมองไม่เห็นความกตัญญูของซุนฟางเอ้อร์เลยสักนิด คนคนหนึ่ง หากในใจไร้ความกตัญญู จะบอกว่านางมีเมตตาขนาดไหน ล้วนไม่มีใครเชื่อ
ยิ่งเป็นคนที่เติบโตมาท่ามกลางความเย็นชา ยิ่งต้องการความอบอุ่น กว่าจะมีคนคนหนึ่งดีกับตน ทำไมยังทำร้ายได้ลงคอ?
ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายแล้วโชคชะตาของซุนฟางเอ้อร์จะเป็นอย่างไร บางที ตอนนี้นางไม่มีทางเลือก แต่ว่าเรื่องราวมากมาย เป็นนางเองที่เลือกทางเดินนั้นก่อน นางเลือกที่จะทำร้ายคนในตระกูลซุน เลือกที่จะวางยาพิษหนอนกับซือถูเย้น เลือกที่จะฆ่าอาจารย์ของนาง เลือกที่จะติดตามอ๋องหนานหวยร่วมกับเขาคิดกบฏ
คนเราทุกคน ยังไงก็ต้องชดใช้กับสิ่งที่ตัวเองเลือก
ก่อนออกไป หลีโม่เขียนสูตรยา ยื่นให้กับซือถูจิ้ง “เดี๋ยวเจ้าไปหาหมอหลวงให้จัดยาตามนี้ให้ฮ่องเต้ นี่เป็นสูตรยาใหม่ ยาก่อนหน้านี้ทานนานๆ จะทำให้ดื้อยา ดังนั้นข้าจึงเปลี่ยนสูตรยา”
หลีโม่ก็พูดเกี่ยวกับข้อควรระวังในการใช้ยาอีกบ้าง ให้ซือถูจิ้งนำไปบอกหมอหลวง
ระหว่างทางไปวัดเจิ้นโก๋ หลีโม่ยังคงอยู่บนรถม้าอย่างไม่ยิ้มแย้ม การออกมาครั้งนี้เพราะไม่อยากให้เอิกเกริก ดังนั้นนางจึงเตาเหล่าต้ามาเพียงคนเดียว เย็นเอ๋อร์ไม่มา ส่วนหมุยเฟย ก็พานางกำนัลเสี่ยวชิงกับองครักษ์อีกสองคน
ออกมาถึงหน้าประตูวัง บนรถม้าไม่เห็นมีองค์ชายสาม หลีโม่ถามขึ้นว่า “องค์ชายสามล่ะ?”
หมุยเฟยบอกว่าเขาไม่สบาย ไม่ไปแล้ว
หลีโม่คิดในใจว่าเขาไม่ไปก็ดีแล้ว จะได้ไม่เป็นอันตราย
เพราะแต่งกายธรรมดา ดังนั้นตลอดทาง ก็เลยไม่ค่อยมีคนหันมามอง นึกเพียงว่าเป็นขบวนรถม้าของฮูหยินเท่านั้น
มาถึงตีนดอยวัดเจิ้นโก๋ พักผ่อนอยู่แป๊บหนึ่ง เพราะรถม้าขึ้นดอยไม่ได้ จะต้องเดินขึ้นไปเอง
วัดเจิ้นโก๋เป็นวัดที่มีชื่อเสียง คนที่มาจุดธูปไหว้พระเยอะมาก มีคนขึ้นลงตลอด
หลีโม่กับหมุยเฟยต่างก็พกอาหารแห้ง ทานรองท้องอยู่ตรงตีนดอยก่อน
หิมะหยุดตกตั้งแต่เช้านี้แล้ว แต่ถนนขึ้นดอยค่อนข้างลื่น ยังคงไม่ค่อยสะดวก
หลีโม่ไม่เป็นไร แต่ร่างกายหมุยเฟยอ่อนแอ เดินค่อนข้างช้า
หลีโม่แอบร้อนใจ หากตามความเร็วที่หมุยเฟยเดิน เกรงว่าคืนนี้ก็ไปไม่ถึงวัดเจิ้นโก๋
ตอนใกล้ค่ำ ฮ่องเต้สั่งคนมาตามหลีโม่ไปเข้าเฝ้า
ซือถูจิ้งคิดได้ถึงสูตรยาที่หลีโม่ฝากไว้ จึงพูดว่า “พระชายาออกไปกับหมุยเฟยแล้ว นางทิ้งสูตรยาใหม่ไว้ ข้าจะไปตำหนักซีเวย เอาสูตรยาให้กับหมอหลวง”
มาถึงตำหนักซีเวย ซือถูจิ้งต้องทำใจก่อน แล้วค่อยเข้าไป
ฮ่องเต้เห็นนางมา ท่าทีก็ค่อนข้างไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ แต่ก็ยังคงพยายามฉีกยิ้มออกมา “อาเล็กมาแล้วหรือ?”
ซือถูจิ้งพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “ใช่ ก่อนที่หลีโม่จะออกจากวังได้เขียนสูตรยาไว้ ข้าคิดว่าถือโอกาสมาเยี่ยมฮ่องเต้ จึงเอามาส่งให้ด้วยตัวเอง”
“พระชายาออกไปข้างนอกแล้ว? ไปไหน?” ฮ่องเต้อยากที่จะถามว่าหลีโม่ไปไหน เพียงแต่ เขาไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร
“ไปวัดเจิ้นโก๋เป็นเพื่อนหมุยเฟย”
ฮ่องเต้ได้ยินเช่นนี้ คิ้วค่อยๆขมวด “เวลาแบบนี้ ไปวัดเจิ้นโก๋ทำไม?”
ซือถูจิ้งอึ้ง “ฮ่องเต้ไม่รู้ว่าหมุยเฟยไปวัดเจิ้นโก๋หรือ?”
“แต่ตอนนี้ก็ค่ำมืดแล้ว”
ซือถูจิ้งก็ค่อนข้างร้อนใจ หมุยเฟยผิดปกติยังไง? นางคิดไม่ออก ก่อนหน้านี้ก็เคยสงสัยว่าข้างกายมีไส้ศึก แต่ไส้ศึกคนนี้จะเป็นหมุยเฟยหรือ?
นางไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ ตอนนี้เหล่าชีก็ยืนอยู่ฝั่งองค์ชายสาม นางไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปทำร้ายหลีโม่นี่
ตอนนี้หลีโม่เป็นที่พึ่งของนางด้วยซ้ำ
หรือว่าเป็นคำสั่งของฮ่องเต้? ฮ่องเต้คิดลงมือกับหลีโม่?
แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ตอนนี้เหล่าชีอยู่ในสนามรบ เกิดเรื่องกับหลีโม่ จะต้องปิดบังไม่ได้แน่ ฮ่องเต้ไม่น่าจะทำเรื่องที่ทำให้เหล่าชีปันใจในสถานการณ์แบบนี้
กุ้ยไท่เฟย? หมุยเฟยไม่ม่ทางเป็นคนของกุ้ยไท่เฟย ตำหนักเล่อชิงก็ถูกนักฆ่าของกุ้ยไท่เฟยบุกเข้าไปจริงๆ นั่นเป็นนักฆ่าจริงๆ ไม่ใช่ตัวปลอมที่ไอ้เก้าส่งไป
เหลียงไถ้ฝู้? ยิ่งเป็นไปไม่ได้ ต่อให้เมื่อก่อนหมุยเฟยเคยคิดที่จะไปพึ่งพาองค์รัชทายาทกับเหลียงไถ้ฝู้เพื่อให้ช่วยปกป้องคุ้มครอง ตอนนี้เหลียงไถ้ฝู้ก็เป็นแค่คนที่หมดอำนาจแล้วเท่านั้น ด้วยเหตุผลทุกอย่าง หมุยเฟยจะยังทำเพื่อเหลียงไถ้ฝู้ทำไม?
หรือว่าจะเป็นอี๋เฟยหรือ?
ตอนนี้อี๋เฟยเองก็ร้อนใจจะตายอยู่แล้วไม่ใช่หรือ? จะเอาเวลาว่างที่ไหนไปคิดทำร้ายหลีโม่ล่ะ?
ซือถูจิ้งคิดอย่างละเอียดแล้วก็ไม่ได้ความอะไร และก็ไม่รู้ว่าตอนนี้สถานการณ์หลีโม่เป็นอย่างไรบ้าง ช่างเป็นห่วงเสียจริงๆ
คนที่เข้าวังมาก่อนคือเฉินไท่จูนกับหลิ่วหลิ่ว อ๋องเย่กับอ๋องเหลียงต่างก็ไม่อยู่ในจวน สองคนนั้นต่างก็พาคนออกไปตามจับกุ้ยไท่เฟยแล้ว
“องค์หญิง เกิดอะไรขึ้น? ข้าได้ยินฉินจือพูดว่าเกิดเรื่องกับพระชายา เกิดอะไรขึ้นหรือ?” เฉินไท่จูนเข้ามาก็ถามเลย
หลิ่วหลิ่วก็ถามอย่างตื่นเต้นว่า “ใช่ ตอนนี้ยังจะเกิดอะไรขึ้นได้อีก?”
ซือถูจิ้งพูดด้วยเสียงหนักแน่นว่า “เฉินไท่จูน อย่าตื่นเต้น ทุกอย่างเป็นเพียงแค่ข้าคาดเดา วันนี้หลีโม่ออกจากวังไปวัดเจิ้นโก๋เป็นเพื่อนหมุยเฟยแล้ว หมุยเฟยบอกว่าฮ่องเต้อนุญาต แต่ข้าไปหาฮ่องเต้มาแล้ว ฮ่องเต้ดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องที่หมุยเฟยไปวัดเจิ้นโก๋เลย อีกอย่างที่หลีโม่ไปวัดเจิ้นโก๋กับนาง ก็เพราะหมุยเฟยบอกว่าจะพาองค์ชายสามไปด้วย แต่องค์ชายสามไม่ได้ไป ตอนนี้ยังอยู่ที่ตำหนักเล่อชิง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...