พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 518

บทที่ 518 หลีโม่หายตัวไป

หลิ่วหลิ่วได้ยินว่าหมุยเฟยพาหลีโม่ไปวัดเจิ้นโก๋ ก็โบกมือหัวเราะพร้อมพูดว่า “องค์หญิงคิดไปเองเป็นกระต่ายตื่นตูมไปได้ หมุยเฟยจะทำร้ายหลีโม่ได้อย่างไร? ตอนนี้นางต้องพึ่งพาหลีโม่นะ เกิดเรื่องกับหลีโม่ นางต้องเดือดร้อนเป็นคนแรก”

“ข้าก็คิดแบบนี้ แต่ทำไมหมุยเฟยต้องโกหก?” ซือถูจิ้งพูด

เฉินไท่จูนก็รู้สึกว่าเรื่องราวผิดปกติ แต่เพื่อไม่ให้ทุกคนตกใจ นางจึงพูดว่า “บางที หมุยเฟยอยากที่จะไปจุดธูปไหว้พระเอง เพื่อไม่ให้ทุกคนว่านาง จึงบอกว่าฮ่องเต้อนุญาต คนร้ายบุกเข้าวัง ตำหนักเล่อชิงก็ถูกลอบทำร้าย นางเป็นแค่ผู้หญิงตัวคนเดียว คิดว่ามีพระแม่กวนอิมคุ้มครองถึงได้รอดพ้นปลอดภัย จึงอยากที่จะไปขอบคุณที่วัดเจิ้นโก๋ ก็เป็นไปได้”

ซือถูจิ้งฟังที่เฉินไท่จูนพูดปลอบ ในใจค่อยสบายขึ้นหน่อย “ก็ถูก บางทีอาจเป็นข้าคิดมากไป”

“ช่วงนี้เกิดเร่องขึ้นเยอะ องค์หญิงคิดระมัดระวังอยู่ตลอดถือเป็นเรื่องที่ดี อย่าเพิ่งรีบเดา ส่งคนไปวัดเจิ้นโก๋หรือยัง?” เฉินไท่จูนถามขึ้น

“ส่งคนไปแล้ว ให้ฉินจือส่งทหารลับไปแล้ว สั่งให้พาตัวหลีโมกลับมา” ซือถูจิ้งพูด

“อืม ไปวัดเจิ้นโก๋ไม่ค่อยไกล หากเดินทางเร็ว ไปกลับวันเดียวก็ยังได้ ออกเดินทางตอนกี่โมง?”

“น่าจะออกไปตอนเก้าโมงเช้า”

“งั้นบางทีอาจจะพักอยู่ที่วัดเจิ้นโก๋หนึ่งคืน ไม่อย่างนั้น กลับมาถึงเมืองก็เลยเที่ยงคืนแล้ว” เฉินไท่จูนพูด

“ทหารลับเพิ่งส่งออกไปเอง อย่างเร็วก็ครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงวัดเจิ้นโก๋” ซือถูจิ้งพูด “ไปถึงวัดเจิ้นโก๋ หากหาเจอหลีโม่ ให้รีบพาตัวกลับมา แต่ก็สามชั่วโมงกว่าแล้ว”

ทหารลับขี่ม้าเร็วไป หลีโม่กับหมุยเฟยนั่งรถม้าไป หากหนทางราบรื่น อย่างน้อยก็ต้องสามชั่วโมงถึงจะไปถึง หากเร็วหน่อย ก็สองชั่วโมงครึ่ง

เฉินไท่จูนพูดว่า “ตอนนี้พวกเราก็ทำได้แค่รอ รอถึงสามชั่วโมงก่อน”

ตอนค่ำๆอ๋องเย่ก็เข้าวังมาแล้ว ได้ฟังซือถูจิ้งพูด เขาก็ขมวดคิ้ว “วัดเจิ้นโก๋?”

“เจ้าก็คิดว่าผิดปกติ ใช่ไหม?” ซือถูจิ้งถาม

“ผิดปกติสิ” อ๋องเย่คิดอยู่พักหนึ่ง “เจ้าส่งทหารลับไปแล้วใช่ไหม?”

“ใช่”

“ไม่ได้ ข้าต้องสั่งคนของสู้เยว่โหลวไปด้วย สู้เยว่โหลวค่อนข้างคุ้นเคยกับสภาพพื้นที่ทางด้านวัดเจิ้นโก๋” อ๋องเย่หันตัวเดินออกไป

แม้แต่อ๋องเย่ก็เห็นว่าผิดปกติ ในใจซือถูจิ้งยิ่งไม่สบายใจมากขึ้นอีก

การรอในครั้งนี้ รอจนถึงตีหนึ่ง ทหารลับกลับมารายงานสถานการณ์คนหนึ่ง บอกว่าพระชายาเคยไปวัดเจิ้นโก๋จริง แต่ก็กลับแล้ว

“กลับแล้ว? งั้นเจอรถม้าของพวกเขาบนถนนไหม?” ซือถูจิ้งถาม

“ตลอดทางที่กลับมา ไม่เจอเลย”

“ตามหา ไปตามหา” ซือถูจิ้งร้อนใจแล้ว “จะต้องเกิดเรื่องแล้วแน่ๆ”

“องค์หญิงใจเย็นๆ ได้สั่งคนเฝ้าดูอยู่ที่ทางด้านวัดเจิ้นโก๋แล้ว พระสงฆ์ที่วัดเจิ้นโก๋ก็กำลังช่วยตามหา ข้าน้อยแค่กลับมารายงานสถานการณ์ก่อน”

“วัดเจิ้นโก๋บอกว่าหลีโม่ออกมาจากวัดตอนกี่โมง”

“ออกมาตอนกลางคืนสี่ทุ่ม”

“งั้นก็ดึกมากแล้ว ดึกแล้วนางก็ยังยืนยันที่จะกลับ?”

“เจ้าอาวาสวัดเจิ้นโก๋บอกว่าหมุยเฟยเหนียงเหนียงมากล่าวลาด้วยตัวเอง พระชายารออยู่บนเกี้ยว บอกกับเจ้าอาวาสว่ามีธุระด่วนตอนเช้า ดังนั้นจึงต้องรีบกลับวัง”

“หมายความว่า ตอนที่ออกมา คนของวัดเจิ้นโก๋ไม่ได้เห็นหลีโม่?”

“ไม่เห็น”

“แล้วหลีโม่กับหมุยเฟยเดินทางไปถึงวัดเจิ้นโก๋ตอนกี่โมง?” เฉินไท่จูนถาม

“เรียนเหล่าไท่จูน ประมาณหนึ่งทุ่มสี่สิบห้า”

“ไปถึงตอนหนึ่งทุ่ม ออกมาตอนสี่ทุ่ม ระหว่างนั้นหยุดพักสองชั่วโมง หากต้องการรีบกลับมา ก็ไม่จำเป็นต้องหยุดพักสองชั่วโมง จุดธูปเผากระดาษ หนึ่งชั่วโมงก็มากพอแล้ว หลีโม่ไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักวางแผน” เฉินไท่จูนพูด

นางเงยหัวขึ้น “ข้าต้องไปดูเองแล้ว”

“ข้าก็จะไป” ซือถูจิ้งพูด

หมุยเฟยหัวเราะพร้อมพูดว่า “หลีโม่ยังอยู่ที่วัดเจิ้นโก๋ นางบอกว่าอยากอยู่ที่นั่นต่ออีกสักสองวัน”

“นางจะอยู่ต่อสองวัน? งั้นทำไมเจ้าไม่อยู่กับนางที่วัดเจิ้นโก๋ รีบกลับมาตอนกลางคืนแบบนี้ทำไม?” ซือถูจิ้งถาม

“ลูกสามไม่สบาย ข้าก็เลยต้องรีบกลับมา” หมุยเฟยพูด

ซือถูจิ้งจ้องมองดูนาง “หมุยเฟย ดีที่สุดขอให้ที่เจ้าพูดมาเป็นความจริง”

หมุยเฟยหัวเราะ “ดูองค์หญิงพูดสิ ทำไมข้าต้องพูดความเท็จ? พระชายาก็อยู่ที่วัดเจิ้นโก๋ไง หากท่านไม่เชื่อ ก็ไปหาดู”

ซือถูจิ้งเห็นนางไม่ยอมพูด จึงพูดขึ้นด้วยเสียงเข้มว่า “ข้าส่งทหารไปแต่แรกแล้ว ทหารบอกว่าหลีโม่ไม่ได้อยู่ที่วัดเจิ้นโก๋ เจ้าอาวาสวัดวัดเจิ้นโก๋บอกว่าออกมาพร้อมกับเจ้าแล้ว แต่ตอนนี้เจ้ากลับบอกว่านางอยู่ที่วัดเจิ้นโก๋ เจ้าคิดว่าข้าควรเชื่อคำพูดของเจ้าหรือเชื่อเจ้าอาวาส?”

หมุยเฟยเงียบไปพักหนึ่ง เงยหัวขึ้นมาพูดว่า “นางก็อยู่ที่วัดเจิ้นโก๋นั่นแหละ นางไม่ยอมกลับมาเอง องค์หญิงบีบบังคับข้าไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ใช่ข้าขังนางไว้ที่วัดเจิ้นโก๋”

“ได้ หมุยเฟย เจ้าปัดความรับผิดชอบได้ ตอนนี้ข้ายังไม่คิดบัญชีกับเจ้า แต่จะพูดไว้ตรงนี้ก่อนว่า หากเกิดอะไรขึ้นกับหลีโม่ ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”

ซือถูจิ้งพูดจบ รีบขึ้นขี่ม้าออกไปพร้อมกับ ฉินจือกับโฉงหวา

ตอนที่เฉินไท่จูนมาถึงวัดเจิ้นโก๋ ทุกคนในวัดเจิ้นโก๋กำลังช่วยกันตามหาหลีโม่

เฉินไท่จูนตรงไปหาเจ้าอาวาส เมื่อเจ้าอาวาสเห็นเฉินไท่จูนมาด้วยตัวเอง ก็รีบออกมาต้อนรับ

“อามิตตาพุธ อาตมาไม่เห็นไท่จูนตั้งนาน ไท่จูนเป็นอย่างไรบ้าง?”

เฉินไท่จูนพูดอย่างนอบน้อมไว้ “ขอบคุณท่านอาจารย์ยังจำได้ ข้าสบายดี”

“รีบเชิญเข้ามาข้างใน” เจ้าอาวาสพูด

เฉินไท่จูนกับหลิ่วหลิ่วเดินตามเจ้าอาวาสเข้าไปภายในวัด เจ้าอาวาสพูดขึ้นก่อนว่า “ทหารองครักษ์ขององค์หญิงมาถึงก่อนแล้ว อาตมารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น วันนี้หมุยเฟยเหนียงเหนียงกับพระชายาเคยมาจริงๆ แต่ว่าประมาณสี่ทุ่ม พวกเขายืนยันที่จะกลับไป อาตมายังให้เณรไปส่งถึงครึ่งดอย”

“พระอาจารย์ กล่าวลาท่านเป็นหมุยไท่เฟยหรือพระชายา?”

“เป็นหมุยไท่เฟย พระชายาอยู่ในเกี้ยว หมุยเฟยเหนียงเหนียงบอกว่านางไม่สบาย” เจ้าอาวาสพูด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม