บทที่ 541 คำสั่งของบรรพบุรุษ
หลังจากที่เจ้าอ้วนเดินจากไป อาซื๋อเดินออกมาจากถ้ำ
“หลีโม่เคยมาแล้ว?”
“ใช่ เจ้าอ้วนบอกว่าเคยมาแล้ว” ไทฮองไทเฮายืนขึ้นจากพุ่มดอกไม้ แล้วนั่งบนเก้าอี้โยกที่อยู่ข้างๆ
“เจ้าจะให้นางไปที่เป่ยโม่จริงๆหรือ?” อาซื๋อไม่เข้าใจ “เรื่องนี้ ให้อานหยานไปก็ได้แล้วไม่ใช่?”
“ไม่ อานหยานไปไม่ได้ ในตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเป่ยโม่และแคว้นต้าเหลียงนั้นบอบบางมาก ถ้าอานหยานไปละก็ จะทำให้ราชวงค์ซ่งมีแรงกดดันได้”
“แต่ว่า หลีโม่ไปที่เป่ยโม่ จะมีชีวิตรอดได้หรือไหม?ทางโน้นมีแต่สัตว์ป่าที่กลืนกินคน ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น แค่ฮ่องเต้และฉาวฮองเฮาของเป่ยโม่ นั้นก็เป็นถึงสัตว์เดรัจฉานที่กินมนุษย์แล้วไม่คายกระดูก”
ไทฮองไทเฮามองนางอย่างช้าๆ “ห้ามพูดไปเรื่อย ทำไมถึงพูดคำดูหมิ่นออกมาง่ายเพียงนี้?สัตว์เดรัจฉานก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน”
“เจ้ารู้ว่าพวกเขาแม้แต่สัตว์เดรัจฉานก็เทียบไม่ได้ก็พอ ข้าว่า อาเย้นเอ๋อร์มีความเมตตาเกินไป น่าจะใช้โอกาสนี้โจมตีกลับไป โจมตีจนเป่ยโม่พ่ายแพ้ยับเยิน” อาซื๋อพูดด้วยความโกรธ
“เจ้าละก็ อายุก็มากแล้ว เก็บอารมณ์หน่อย เป่ยโม่เป็นตัวหลักในการสู้รบ นำโดยฉาวฮองเฮาและอ๋องเจิ้นโก๋ ฮ่องเต้คงจะไม่อยากสู้รบ แต่ถูกฉาวฮองเฮาหลอกลวง แล้วถูกอ๋องเจิ้นโก๋ควบคุม เลยทำเรื่องโง่เง่าเช่นนั้น แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้โรคแพร่ระบาด เป็นโอกาสดีที่จะทำให้สงครามสงบลง เดิมทีแคว้นต้าโจวของพวกข้าไม่สามารถยุ่งเรื่องการเมืองของเป่ยโม่ได้ แต่หลีโม่ไปแล้ว ก็จะสามารถทำให้ฮ่องเต้รู้สึกตัวได้ว่า การเป็นฝ่ายสู้รบหลักนั้นทำให้เป่ยโม่ได้รับความเสียหายมากน้อยขนาดไหน”
“นางจะทำได้เหรอ?” อาซื๋อไม่ได้สงสัยความสามารถของหลีโม่ แต่ว่าพระชายาของแคว้นต้าโจว ไปถึงเป่ยโม่ จะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้?
“นางทำไม่ได้ ไอ้เจ็ดสามารถทำได้”
“ไอ้เจ็ดน่าจะไม่ไป?”
“ทำไมจะไม่ได้ละ?ไอ้เจ็ดไปเป็นเพื่อนพระชายาเพื่อไปรักษาโรคที่เป่ยโม่ แล้วไม่ได้นำทหารกับม้าไป ถ้าฮ่องเต้เป่ยโม่ไม่ตกลง หลีโม่ก็จะไม่ไป สู้ก็พอ ใครกลัวใครกัน?”
“เจ้าเมื่อกี๊พูดว่าไม่สู้ไม่ใช่?”
“เป่ยโม่จะปล่อยให้โรคแพร่ระบาดไปทั่วหรือไง?ดังนั้น ท้ายที่สุดก็ต้องตกลง” ไทฮองไทเฮาพูดอย่างมั่นใจ
“แต่ว่า ถ้าไอ้เจ็ดไปแล้ว แคว้นต้าโจวจะทำอย่างไร?ตอนนี้ฮ่องเต้......น่าจะวูบวาบเกินไปหน่อย
ไทฮองไทเฮาพูดอย่างช้าๆว่า “ฮ่องเต้คงอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว”
“เป็นไปไม่ได้ อาการดีขึ้นแล้วไม่ใช่?”
“เขานึกว่าดีขึ้นแล้ว” ไทฮองไทเฮาโยนเหรียญออกมาสามเหรียญ “เจ้าดูเอง”
อาซื๋อกูกูขยับเข้าไปดู “โย่ จริงด้วย งั้นนี่คือการสั่นไหวก่อนตายสิ?”
“การสั่นไหวนี้ ต้องมีคนไปควบคุม”
“เจ้าจะไปไหม?”
“ข้าไม่ไป ข้าแก่แล้ว ข้าไม่ยุ่งเรื่องการเมือง ส่งจดหมายให้ไอ้เจ็ด ให้เขาคิดวิธีที่จะควบคุมสถานการณ์ก่อนที่จะไปเป่ยโม่ ”
อาซื๋อพูดพึมพำว่า “บอกว่าไม่เข้ามายุ่ง นี่ก็ยุ่งอยู่ไม่ใช่?”
“ข้าต้องรอถึงวินาทีสุดท้าย กลับไปนั่งบัลลังก์มังกร เพื่อให้ใจของเหล่าขุนนางมั่นคง นี่เรียกว่าการเข้าไปยุ่งอย่างเหมาะสม ไม่ใช่เข้าไปยุ่งเกี่ยวทั้งหมด ไอ้เจ็ดไม่ใช่ฮ่องเต้ เขาไม่สามารถควบคุมคนเหล่านั้นได้ ยังไงก็ต้องให้คนแก่อย่างข้าไป”
“ได้ ข้าจะไปส่งจดหมาย” เมื่ออาซื๋อพูดจบ ก็หันหลังเดินจากไป
ไทฮองไทเฮาพูด “ช้าก่อน การสั่นไหวก่อนตายนี่ เรียกเขาอย่านิ่งนอนใจ ยังไงสุดท้ายฮ่องเต้ก็ทำเพื่อแคว้นต้าโจว และเสียสละเพื่อประชาชน ก่อนตายศักดิ์ศรีหลังตายเกียรติยศ ต้องให้เขาทั้งหมด ให้ไอ้เจ็ดทำอะไรดูด้วย ห้ามทำให้ศักดิ์ศรีของฮ่องเต้เสื่อมเสีย”
อาซื๋อกูกูหัวเราะ “เจ้าใส่ใจเรื่องศักดิ์ศรีของราชวงศ์ตั้งแต่เมื่อไรกัน”
“เมื่อคิดสถานการณ์โดยรวมแล้ว แผ่นดินของตระกูลซือถูต้องดำเนินต่อไป จะทำลายศักดิ์ศรีของราชวงศ์ไม่ได้ และเกียรติยศของราชวงศ์ก็เสื่อมเสียไม่ได้เช่นกัน”
“ได้” อาซื๋อกูกูพยักหน้า “งั้นทำตามที่เจ้าพูด ข้าจะไปส่งจดหมายเดี๋ยวนี้”
ดังนั้น วันนี้หลีโม่โยนหนังสือลง แล้วเข้าวังไป
หลี่ซ่วยหยุ่นสามารถไปไหนได้อย่างอิสระ ฮ่องเต้ไม่ได้ควบคุมนาง หลีโม่ก็เข้าพบนางได้อย่างราบรื่น
“เสด็จแม่ ทางฮ่องเต้ ท่านได้ข่าวว่าอย่างไรบ้าง?” หลีโม่ถามอย่างตรงๆ
หลี่ซ่วยหยุ่นส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ได้ข่าวอะไรเลย อันที่จริง ยกเว้นวันนั้นที่ข้าได้คุยกับฮ่องเต้ที่สวนดอกหยู่ ก็ไม่เคยเรียกข้าเข้าเฝ้าอีกเลย แต่เรียกฮ่าวหรานเข้าพบอยู่หลายครั้ง”
“เขาเรียกฮ่าวหรานเข้าเฝ้าทำไม?”
ดูเหมือนว่า การคาดเดาของไอ้เจ็ดและมามาจะไม่ผิด ฮ่องเต้ไม่ได้คิดอะไรกับท่านแม่ แต่ต้องการใช้นางเป็นเครื่องมือในการควบคุมอ๋องอานชิน
“ฮ่าวหรานบอกว่า ฮ่องเต้เรียกเขาและซุนฟางเอ๋อร์ดูหนังสือ แล้วพูดคุยกัน ซุนฟางเอ๋อร์ถามเขา เขาก็ตอบ เป็นเรื่องเกี่ยวกับบทวิจัยยาพิษ”
“ฮ่องเต้อยากรู้บทวิจัยยาพิษ?”
“น่าจะใช่ แล้วยังให้ฮ่าวหรานวิจัยเรื่องยา และตอนนี้ฮ่าวหรานก็อยู่กับซุนฟางเอ้อร์”
ดูเหมือนว่า ฮ่องเต้อยากใช้บทวิจัยยาพิษของฮ่าวหราน โรคของเขารักษาด้วยยาพิษหรือ?
แต่ว่า พิษจะรักษาโรคภูมิแพ้ตัวเองได้อย่างไรกัน?
“เสด็จแม่ ท่านรอฮ่าหรานกลับมา ให้ท่านบอกเขาว่า ให้เขาจำเรื่องที่ซุนฟางเอ้อร์ถามเขา แล้วฮ่องเต้ให้เขาทำอะไรยังไงบ้าง แล้วก็ ฮ่องเต้ให้เขาวิจัยพิษอะไร แล้วนำไปทำอะไร”
“ได้ ข้าจะบอกเขา”
“พวกท่านอยู่ในวังต้องระมัดระวังตัวด้วย ถ้ามีเรื่องอะไรจำไว้ให้เสี่ยวเตามาบอกข้า เข้าใจไหม?” หลีโม่กำลังกำชับ
“ได้ เจ้าวางใจเถิด ข้าจะระมัดระวังตัว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...