พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 542

บทที่ 542 เจ้าเต็มใจไปไหม

จดหมายถัง ส่งมาจากชายแดน บนจดหมายถังกล่าวว่า เซียวเซียวกำลังมุ่งหน้าไปที่สนามรบ ซือถูเย้นได้รับบาดเจ็บ ทุกอย่างในกองทัพ ถูกส่งมอบให้เซียวเซียวชั่วคราว

เซียวเซียวไปที่สนามรบ ฮ่องเต้คงวางใจได้ แต่ทางกลับกันเขาก็ไม่ไว้ใจเช่นกัน

เซียวเซียวเป็นนายพลที่มีชื่อเสียงของแคว้นต้าโจว เขามีประสบการณ์ในการสู้รบมากมาย นิสัยใจเย็น มีความคิดที่ละเอียดอ่อน มีการวางแผน มีคุณสมบัติทั้งหมดของนายพล

ความไม่ไว้วางใจมาจาก ครั้งนี้ เซียวเฮาเย่นำทหารไป เซียวเซียวก็นำทหารไปด้วย ครั้งนี้ตระกูลเซียวได้เด่นออกหน้า

เขาไม่เชื่อว่าตระกูลเซียวจะก่อกบฏ แต่ว่า ตระกูลเซียวมีกำลังในการก่อกบฏ เซียวเซียวทำอะไรก็ชอบใช้อารมณ์ ยากที่จะหลีกเลี่ยงการถูกคนอื่นหลอกใช้

นี่คือความกังวลของฮ่องเต้

ฮ่องเต้วางแผนทุกอย่างด้วยความทะเยอทะยาน แต่เขาไม่รู้ว่า สิ่งที่เขากำลังทำอยู่ทุกอย่างนั้น ในอนาคตจะเป็นเรื่องตลกแค่ไหน

เพราะว่า ทั้งหมดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะสำเร็จ แต่ว่า การที่เขาทำเช่นนี้ คนเดียวที่ได้รับประโยชน์ ก็คืออ๋องหนานหวย

ฮ่องเต้รู้สึกว่าตัวเองเป็นฮ่องเต้ที่รู้เรื่องทุกอย่าง เขาไม่รู้ว่าอ๋องหนานหวยนั้นไม่ภักดี แต่เขาคิดว่าในฐานะที่เขาเป็นฮ่องเต้ สามารถที่จะควบคุมอ๋องหนานหวยได้

อ๋องหนานหวยอยู่ข้างๆเขาแล้วลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านั้น ถูกการวางแผนซ้ำแล้วซ้ำเล่าโจมตี ทำให้อ๋องหนานหวยสูญเสียความสามารถในการก่อกบฏ ทำได้แค่หายใจก่อนตาย

แต่ว่า ในตอนนี้ เขากลับมารุ่งโรจน์ใหม่อีกครั้ง

การที่ฮ่องเต้เลื่อนตำแหน่องให้เขา ไม่ได้แปลว่าเชื่อใจ เขาได้วางคนจำนวนมากไว้ข้างๆอ๋องหนานหวย เพื่อใช้ในการตรวจสอบและควบคุมอ๋องหนานหวย

แต่ว่า การเคลื่อนไหวของอ๋องหนานหวย จะให้คนพวกนั้นรู้ได้อย่างไรกัน?ดังนั้น สารที่คนหล่านั้นรายงานกลับไปทั้งหมดล้วนเป็นข้อมูลเท็จ

การเลื่อนตำแหน่งอ๋องหนานหวยมีจุดประสงค์อะไร?แน่นอนว่ามันถูกเตรียมไว้เพื่อซือถูเย้น

เขาไม่ได้ไม่เชื่อใจซือถูเย้น แต่ว่า เรื่องการสู้รบครั้งนี้ ถ้าซือถูกเย้นสู้รบชนะกลับมา เขาก็จะกลายเป็นผู้มีผลงานของแคว้นต้าโจว ผลงานสูงสามารถทำให้เจ้านายสั่นไหว ในฐานะฮ่องเต้และพี่ชายอย่างเขา ก็ทำได้แต่ให้รางวัล และของตอบแทน เป็นไปไม่ได้ที่จะกดดันพี่น้องที่พึ่งชนะสงครามมา เรื่องนี้ เลยต้องให้อ๋องหนานหวยจัดการ

เมื่อก่อน เขาเชื่อใจซือถูเย้นเป็นอย่างมาก แต่ว่า เขารู้สึกว่า ซือถูเย้นเคยลิ้มรสการเป็นฮ่องเต้มาก่อน เขาเคยควบคุมแผ่นดินของแคว้นต้าโจวก่อน เหมือนกับการเชิญเทพมานั้นง่ายแต่การส่งเทพกลับนั้นเป็นเรื่องยาก ถ้าอ๋องซื่อเจิ้งกับตระกูลเซียวร่วมมือกัน การเป็นฮ่องเต้ของเขาก็จะจบลง

เรื่องเดียวที่ฮ่องเต้กังวลในตอนนี้ ก็คือการสู้รบ

เขารู้สึกว่าศึกครั้งนี้ หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น เลยไม่เคยคิดที่จะไม่สู้ ถ้าไม่สู้ ก็จะมีศัตรูมารบกวนตลอดเวลา จะทำให้ศักดิ์ศรีของแคว้นต้าโจวเสื่อมเสียได้ และฆ่าทำร้ายคนในแคว้นต้าโจว

มองจากจุดนี้ ฮ่องเต้ยังคงให้ความสำคัญกับสถานการณ์โดยรวมอยู่ ในสายตาของผู้คน เขายังเป็นฮ่องเต้ที่ดีอยู่

ดังนั้น เมื่อได้รับสารที่อ๋องฉีเป็นคนส่งด้วยตนเอง เขาดีใจขึ้นมาทันที

เพราะว่า ถ้าเกิดสงครามครั้งนี้หยุดลง ซือถูเย้นก็จะไม่ได้กลายเป็นผู้มีผลงานในแคว้นต้าโจว

ฮ่องเต้ไม่ใช้คนที่ใช้ความรุนแรง เขาไม่เคยคิดที่จะได้อะไรจากสงคราม เพราะว่า เขารู้ว่าสงครามนั้นโหดร้ายแค่ไหน และสามารถทำให้สิ่งมีชีวิตกลายเป็นเถ้าถ่านได้

เขาเรียกเหล่าขุนนางมาหารือทันที

เสียงของเหล่าขุนนางมีทั้งไม่เห็นด้วย และเห็นด้วย ต่างคนต่างมีความคิดเห็นของตัวเอง ทั้งห้องประชุม คึกคักมากเลย

เหล่าขุนนางจะมีความเห็นอย่างไร มันไม่สำคัญ ฮ่องเต้ไม่ได้สนใจอะไรเลย เพราะเขาได้ตัดสินใจก่อนแล้ว การเรียกเหล่าขุนนางมาหารือ แค่หวังให้ทุกคนสนับสนุนการตัดสินใจของเขา

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หลังจากที่เข้าพูดความเห็นของตัวเองออกมา ก็จะไม่มีความเห็นอื่น แต่จะทำตามความประสงค์ของเขา

เขาให้ลู่กงกงเรียกหลีโม่เข้าวัง

ครั้งนี้ ซือถูเย้นปลอมตัวเป็นอะชู่น แล้วตามหลีโม่เข้าวัง

เพราะการปลอมตัวของเขาเรียบเนียนมาก ฮ่องเต้เลยไม่ได้สนใจเขา

“ข้าเรียกเจ้าเข้าวัง ก็เพื่อที่จะถามเจ้าว่า เจ้าเต็มใจไปไหม?”

หลีโม่ลำบากใจสักพัก “แต่ว่าเป่ยโม่กับแคว้นต้าโจวของพวกข้า ตอนนี้กำลังสู้รบกันอยู่ ข้าไปเป่ยโม่ เหมาะสมแล้วหรือ?แล้วจะรับประกันความปลอดภัยของข้าอย่างไร?”

“ข้อดีของเรื่องนี้ก็คือ การสู้รบจะหยุดลงชั่วคราว ถ้าเจ้าสามารถรักษาโรคระบาดของเป่ยโม่ได้ เป่ยโม่สัญญาว่า จะไม่นำทหารมาก่อกวนอีก”

“สัญญา?” หลีโม่หัวเราะเบาๆ “แต่ว่าเป่ยโม่กับแคว้นต้าโจวของพวกข้า มีข้อตกลงเรื่องความสงบสุขกันอยู่แล้วไม่ใช่?เห็นได้ชัดว่า พวกเขาไม่ได้ปฏิบัติตามเลย ฮ่องเต้นึกว่า แค่คำสัญญาของพวกเขา ก็สามารถเชื่อถือได้?”

ฮ่องเต้จ้องมองนาง ด้วยสายตาที่แหลมคมเหมือนกับเมื่อกี๊

หลีโม่รู้สึกตัวทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองพูดผิดไป เรื่องระหว่างเป่ยโม่และแคว้นต้าโจว เป็นเรื่องของการเมือง นางไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้หรือแม้แต่จะแสดงความคิดเห็นคิดเห็นของตัวเองก็ไม่ได้

“หลีโม่แค่รู้สึกว่า การยั่วยุของเป่ยโม่ครั้งนี้ ท่านอ๋องต้องออกศึก หลีโม่ไม่พอใจก็เป็นเรื่องธรรมดา ” หลีโม่แสร้งทำเป็นโกรธแล้วพูด เพื่อให้ฮ่องเต้รู้สึกว่าความคิดเห็นที่พูดไปเมื่อกี๊ ที่เป็นเรื่องของเป่ยโม่และแคว้นต้าโจวนั้น เป็นเพราะไม่พอใจที่พระสามีต้องออกศึก

ถึงแม้จะไม่พอใจที่พระสวามีออกศึกแต่ฮ่องเต้ก็ไม่ดีใจ แต่มันก็ดีกว่าการพูดเรื่องการเมืองต่อหน้าฮ่องเต้

“อืม” ฮ่องเต้หัวเราะอย่างเบาๆ ในสายตามีความไม่พอใจ “เป่ยโม่จะทำตามสัญญายังไง เป็นเรื่องที่เจ้าไม่ต้องสนใจ ข้าแค่ถามเจ้าว่า เจ้าจะไปหรือไม่ไป?”

หลีโม่เลยกล่าวว่า “ถ้าฮ่องเต้มีรับสั่งให้หลีโม่ไป หลีโม่ก็จะไป”

ดูเหมือนว่าฮ่องเต้จะพอใจกับคำตอบนี้มาก แล้วถึงยอมพูดด้วยความพอใจว่า “เจ้าไว้ใจได้ ข้าจะให้คนไปคุ้มครองเจ้าเอง เจ้าอยู่เป่ยโม่จะไม่ได้รับอัตรายหรือได้รับบาดเจ็บใดๆ”

หลีโม่ทำเหมือนกับว่าฟังคำสั่งทุกอย่าง “เพคะ หลีโม่จะทำตามคำสั่งของฮ่องเต้”

ฮ่องเต้กล่าว “เรื่องนี้ ข้าจะบอกไอ้เจ็ดเอง เจ้าวางใจไปเถิด เรื่องนี้ถ้าเจ้าทำสำเร็จ สงครามก็จะหยุดลง ไอ้เจ็ดก็จะสามารถกลับมาได้”

หลีโม่รู้ว่าเรื่องหลังจากนั้นไอ้เจ็ดจะเป็นคนจัดการเอง นางเลยไม่ต้องพูดอะไรมาก แล้วกล่าวว่า “เพคะ งั้นหลีโม่ขอถอยกลับก่อน!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม