บทที่ 555 ปรึกษาวิธีแก้ปัญหา
อ๋องฉีเราเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบให้ฟังว่า “เรื่องนี้ได้มีการปิดบังอยู่บ้างจริงๆ แต่ก็ไม่ได้ปิดบังทั้งหมด ฮ่องเต้คาดหวังที่จะสงบศึกในครั้งนี้จริงๆ เพราะโรคระบาดแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว และไม่มีหนทางควบคุม เขาเองก็ไม่ทำแบบนี้ไม่ได้ เพียงแต่ท่านพี่ซือถูน่าจะรู้ดี เป่ยม่อของเราแบ่งออกเป็นพวกยึดมั่นทำสงครามกับพวกยึดมั่นสันติภาพ พวกยึดมั่นทำสงครามมีฉาวฮองเฮาเป็นผู้นำ เพ่งเล็งประเทศรอบๆมาตลอด คิดว่าแคว้นเป่ยม่อเป็นแค้วนที่มีความสามารถ สมควรรวบรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียว และครั้งนี้ หากสามารถเชิญอ๋องอานหรานมาได้ เรื่องปัญหาทุกอย่างก็จะไม่เกิดขึ้น หากเชิญมาไม่ได้ เชิญมาได้เพียงพระชายา ฉาวฮองเฮาพวกยึดมั่นทำสงคราม จึงยังมีแผนการ ไม่ถอนทัพ อ่อนน้อมก่อนแล้วค่อยแข็งข้อ ฉาวฮองเฮาพูดกับฮ่องเต้ หากเมื่อไหร่ที่เป่ยม่อถอนทัพ ต้าโจวก็จะไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของพระชายาซื่อเจิ้ง หากโจมตีเข้ามารุกราน เป่ยม่อก็จะตกอยู่ในอันตราย”
“จะเป็นอันตรายตรงไหน ข้าได้ออกมาจากค่ายทหารแล้ว เห็นความจริงใจไหม เป่ยม่อของพวกเจ้าหลอกลวงข้ากับพระชายาเพื่อมายับยั้งควบคุมโรคระบาดให้กับพวกเจ้า แล้วค่อยหาวิธีรุกรานโจมตีต้าโจวของเรา อ๋องฉี ถ้าผิดหวังในตัวเจ้ามาก” ซือถูเย้นด่าทอออกมา
ซือถูเย้นโกรธมาก เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองทำอะไรที่โง่ที่สุดลงไป และเขาไม่เคยที่จะทำอะไรที่โง่แบบนี้ ตลอดชีวิตนี้มีเพียงเขาที่คิดวางแผนหลอกลวงคนอื่น ยังไม่เคยถูกใครวางแผนหลอกลวง นอกจากยินยอมทำด้วยใจ
เขาเลือกที่จะตกลงเงื่อนไขสงบศึกกับฉินโจวและอ๋องฉี ก็เพราะเพื่อปกป้องประชากรประเทศต้าโจว เขาไม่กล้าที่จะต้องต่อสู้ เพียงแค่ไม่อยากสู้
และในเรื่องนี้ เขาคิดว่าเป่ยม่อสมควรที่จะลดตัวลงมา แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อเขามาถึงเป่ยม่อแล้ว กลับเพิ่งได้รับรู้ว่า แท้จริงแล้วพวกเขาเป็นแค่ส่วนสำรอง ได้ ข้อนี้เขารู้แต่แรกแล้ว แต่ต่อให้เป็นแค่ตัวสำรอง ก็ควรที่จะเป็นตัวสำรองที่ได้รับการยอมรับ
อีกอย่าง ที่น่าโมโหที่สุดก็คือเป่ยม่อยังคิดที่จะทำศึก เป็นเพราะเชื่อมั่นว่ายังไงหลีโม่ก็จะไม่มีทางควบคุมรักษาโรคระบาดนี้ได้หรือ?
หรือว่ายังมีเหตุผลอย่างอื่นอีก?
สีหน้าอ๋องฉีเขียวเลย ถึงแม้เขาจะรู้สึกระอายใจในเรื่องนี้ แต่เขาก็เป็นท่านอ๋องแห่งแคว้นเป่ยม่อ อำนาจสูงส่ง ถูกซือถูเย้นชี้หน้าด่าแบบนี้ เขาก็ไม่รู้จะสู้หน้ายังไง
เขาพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักว่า “ท่านพี่ซือถู ท่านใจเย็นๆก่อน ฟังข้าพูดก่อน ก่อนอื่นโดยส่วนตัวข้า ข้าไม่อยากให้มีการสู้รบ ข้าในฐานะผู้นำพวกยึดมั่นสันติภาพ อยากที่จะสงบศึกในครั้งนี้มากกว่าใครๆ แต่อ๋องเจิ้นโก๋พี่ชายของข้ากับฉาวฮองเฮา พูดโน้มน้าวฮ่องเต้อยู่ตลอด พวกเขาทั้งสองไม่สนใจความเป็นความตายของประชาชน ครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะมีประชาชนตายแล้วมากมายขนาดนี้ พวกเขาก็คงยังไม่ยอมให้พวกเจ้ามา ข้าเลือกที่จะบอกเล่าทุกอย่าง ตอนนี้ข้าไม่ได้ปิดปังอะไรแล้ว และขอรับประกันกับทุกคนว่า พวกยึดมั่นสันติภาพจะทำทุกอย่างเพื่อสงบศึกในครั้งนี้”
ทุกคนต่างก็มองหน้ากัน นี่ถือเป็นการขอความช่วยเหลือแบบไหนกัน? นี่เท่ากับเป็นการให้พวกเขามาเพื่อปลอบโยนประชาชนของเป่ยม่อ บอกทุกคนว่า ราชสำนักไม่ได้ไม่สนใจความเป็นความตายของประชาชน ดูสิ พวกเรากำลังสู้รบอยู่กับต้าโจว กลับยังสามารถเชิญหมอเทวดาของพวกเขามาควบคุมรักษาโรคระบาดให้กับเป่ยม่อ
เซียวโธ่พูดว่า “นี่ถือว่าเจ้าบอกความจริงตรงไหนกัน? หลอกพวกเรามาถึงแล้วเพิ่งจะมาพูด อีกอย่าง ข้าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้พวกเรารักษาโรคระบาดจนหายได้แล้ว เป่ยม่อของพวกเจ้าก็ยังจะไม่ล้มเลิกการสู้รบ ใช่ไหม?”
เซียวโธ่ถามตรงมาก เพราะ ทุกคนต่างก็เห็นสีหน้าที่อึ้งไปของอ๋องฉี แล้วก็ก้มหน้าลงไม่กล้าพูดอะไร
ซือถูเย้นโกรธจนเป็นฟืนเป็นไฟ เขาเป็นอ๋องซื่อเจิ้งที่โง่เขลา ถูกหลอกมาได้อย่างง่ายดายเช่นนี้?
นี่ตามหลักปกติแล้ว เป่ยม่อได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติในครั้งนี้ ประชาชนบาดเจ็บล้มตายไปตั้งมากมาย และบ้านเรือนก็พังเสียหายมากมายขนาดนี้ ต้องการแรงงานคนมากมายเข้าช่วยเหลือสร้างใหม่ ต้องการเงินทองมาจุนเจือประชาชนที่ได้รับผลกระทบกับรักษาโรคระบาด เป่ยม่อไม่ถือว่าร่ำรวย เหตุเพราะมีการทำศึกสู้รบอยู่ตลอด กองคลังหล่อยหล๋อไปนานแล้ว ตามหลักความคิดปกติแล้ว จะไม่เลือกที่จะยกทัพไปตีประเทศเพื่อบ้านที่มาช่วยเหลือเด็ดขาด
หลีโม่ก็โกรธมาก นี่ช่างแปลกประหลาดจนถึงขั้นแปลกประหลาดระดับบรรพบุรุษแล้ว
ภายในประเทศยังไม่สงบ ยังจะทะเยอทะยานขนาดนี้ อ๋องเต้เป่ยม่อนี้ช่างเป็นผู้เก่งนัก?
คำพูดของอ๋องฉี เหมือนดั่งน้ำเย็นถังหนึ่ง ราดบนหัวของทุกคนอย่างแรง
ทุกคนต่างก็คาดหวังที่จะสงบศึก กระตือรือร้นที่จะมารักษาประชาชนเป่ยม่อ ถึงแม้จะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร แต่ก็ด้วยความรักอย่างแรงกล้า อ๋องฉีพูดทุกอย่างอย่างระดับลงมาขนาดนี้ ทำให้ตอนนี้ทุกคนเหลือแค่ถือถ้วยมาขอทานเหมือนพวกพรรคยาจก
คำพูดที่อ๋องฉีพูดต่อไปนี้ ยิ่งทำให้ทุกคนโกรธจนควันออกหู
หลีโม่ยังคงสงบเงียบ ทุกคนในที่นี่ล้วนเป็นคุณชาย เป็นอ๋อง เป็นเจ้าเมือง มีชาติกำเนิดที่สูงส่ง ไม่เคยได้รับความไม่เป็นธรรม จึงโกรธเป็นเรื่องธรรมดา
นางก็โกรธ แต่หลังจากที่โกรธแล้ว ก็ค่อยๆสงบเงียบลง
ทำยังไงได้ ในทุกคนมากมายขนาดนี้ คนที่ได้รับความไม่เป็นธรรมที่สุดในที่นี่ หลีโม่กับโหรวเหยามาก่อนคนอื่น
“ไอ้เจ็ด พวกเรามาคิดวิเคราะห์กัน” หลีโม่พูด
ได้ยินหลีโม่พูดว่าคิดวิเคราะห์ ทุกคนต่างก็ล้อมรอบเข้ามา
เพราะหลีโม่ขี่ม้ามาตลอดทาง ค่อนข้างเจ็บเท้า ยืนไม่ไหว นั่งลงก็เจ็บก้น ดังนั้นจึงคุกเข่าลง ทุกคนจึงต่างก็คุกเข่าล้อมรอบเป็นวงกลมตามนาง
“ไม่ว่าฮ่องเต้เป่ยม่อจะต้องรับพวกเราหรือไม่ หรือไม่ได้คาดหวังอะไรในตัวพวกเรา เพียงแค่อยากให้เรามาเพื่อหลอกล่อประชาชน ปลอบใจประชาชน นี่ล้วนเป็นแผนการของพวกเขา พวกเราล่ะ? พวกเราก็จะต้องมีแผนการของพวกเรา เมื่อกี้อ๋องฉีพูดว่า พวกยึดมั่นทำสงครามของเป่ยม่อมีฉาวฮองเฮากับอ๋องเจิ้นโก๋เป็นผู้นำ พวกยึดมั่นสันติภาพมีอ๋องฉีเป็นผู้นำ ก่อนอื่นพวกเราจะต้องไม่มีปัญหากับอ๋องฉี ยังไงก็ยังต้องอาศัยเขาไปผูกมิตรกับคนของพวกยึดมั่นสันติภาพ ส่วนโรคระบาด พวกเราควรทำอะไร ก็ให้ทำอย่างนั้น แต่ก็อย่าให้ความรับประกันอะไรพวกเขา เพราะยังไงพวกเขาก็ไม่คิดอยู่แล้วว่าพวกเราจะรักษาได้ เพียงแค่อยากเอาเรามาหลอกล่อคน ในสถานการณ์แบบนี้พวกเราจะลืมไม่ได้ว่า พวกเรามาเป่ยม่อเพื่อจุดประสงค์สองอย่าง อย่างแรกคือ รักษาโรคระบาด อย่างที่สองคือ ติดต่อพวกยึดมั่นสันติภาพสร้างอำนาจกองกำลังบีบฮองเฮาถอนทัพ ดี ข้าพูดมากไปแล้ว ที่สำคัญคือเพราะข้าโกรธ”
คำพูดของหลีโม่ ทำให้ความโกรธในใจทุกคน ต่างก็สงบลงบ้าง
และในตอนนี้โหรวเหราก็ถามคำถามที่สำคัญว่า “ฉินโจวคนนั้น มีแผนการยังไงกับการสู้รบในครั้งนี้? พี่เจ็ดเจ้าเคยคุยกับนางและยังมีอ๋องฉี นางมีท่าทีอย่างไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...