พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 558

บทที่ 558 ตอบแทนคืนอย่างสาสม

องค์รัชทายาทมองไปที่ด้านหลังของอ๋องฉี แล้วหัวเราะเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา หันตัวแล้วเดินไปตามระเบียงทางเดิน

ระเบียงทางเดินที่สุดลูกหูลูกตา เห็นเพียงชุดเสื้อกระโปรงที่เลือนราง

“เสด็จแม่ ดูแล้ว ในกล่องนั้นเป็นโสมจริงๆ ” องค์รัชทายาทโค้งคำนับแล้วพูด

ฉาวฮองเฮาตอบอืมไปคำหนึ่ง “งั้นก็ไม่เป็นไร”

องค์รัชทายาทถามด้วยความสงสัยว่า “เสด็จแม่สงสัยอะไร? หรือว่าท่านสงสัยชิงเฟยจะสมรู้ร่วมคิดกับอ๋องฉี?”

“ลูกแม่ เป็นคนต้องรู้จักระวังตน มันไม่ได้ผิดอะไรหรอก”

“แต่ว่า เสด็จแม่สอนลูกเสมอว่า ใช้คนไม่สงสัย คนสงสัยไม่ใช้ไม่ใช่หรือ? ในเมื่อปล่อยชิงเฟยไว้ข้างกายเสด็จพ่อ แล้วทำไมต้องคอยระวังนางอีก?”

ฮองเฮาหันกลับอย่างช้าๆ แล้วเดินไปข้างหน้า “เสด็จพ่อของเจ้าชอบชิงเฟยไหม?”

“ชอบ ชอบแน่นอน”

“ในเมื่อเสด็จพ่อของเจ้าชอบนาง ซึ่งนั่นหมายความว่าลึกๆในใจแล้วนางมีความสำคัญต่อเสด็จพ่อของเจ้ามาก อาจจะมีอิทธิพลควบคุมการตัดสินพระทัยของเสด็จพ่อของเจ้า และยังสามารถล้วงข้อมูลข่าวสารมากมายจากเสด็จพ่อของเจ้า ซึ่งเป็นข้อมูลข่าวสารที่คนอื่นไม่รู้ หากชิงเฟยมีใจทรยศ ข้อมูลข่าวสารเหล่านี้รั่วไหลออกไป จะส่งผลให้มีอุปสรรคต่อการฝึกยุทธวิธีทางทหารของข้า”

องค์รัชทายาทตอบอ๋อไปคำหนึ่ง “เป็นแบบนี้นี่เอง”

ฉาวฮองเฮาพูดเปรียบเทียบ “เจ้านะ ยังเยาว์วัยเกินไป ต้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ต้องมีสักวันหนึ่ง เจ้าก็จะมีวิธีการเช่นเสด็จพ่อของเจ้า”

“เสด็จพ่อมีวิธีการอะไร? ไม่ใช่ถูกเสด็จแม่ควบคุมอยู่หรือ?” องค์รัชทายาทกล่าวอย่างเหยียดหยาม

ฉาวฮองเฮา ส่ายหัวเบาๆ “เด็กโง่เอ๋ย อย่าคิดว่าเสด็จพ่อของเจ้านั้นธรรมดานะ หากไม่ใช่เสด็จแม่พาชิงเฟยและผู้ฝึกเต๋าซานศือเข้ามาในวัง ใช้เสน่ห์กับเสด็จพ่อของเจ้า เขาตอนนี้หรือ จะฟังคำพูดของข้า?”

องค์รัชทายาทพยักหน้าราวกับจะเข้าใจ “อย่างไรก็ตาม ข้าก็ไม่จำเป็นต้องกังวล เพราะทุกเรื่องก็มีเสด็จแม่คอยช่วยข้าวางแผนอยู่แล้ว”

“เจ้าก็ต้องพัฒนาตัวเองด้วย เจ้าน่าจะเรียนรู้กับเสด็จลุงให้มากๆนะ เสด็จลุงหลายท่านของเจ้า ต่างคนก็มีความโดดเด่นเป็นของตัวเอง”

“ขอรับ” องค์รัชทายาทตอบ

หลังจากที่อ๋องฉีออกจากพระราชวังก็รีบขึ้นรถม้าทันที บอกคนบังคับรถม้า “รีบไป”

คนบังคับรถม้ารับคำสั่ง ยกแส้ขึ้นฟาด “จ๊า”

อ๋องฉีเปิดกล่องดู แล้วหยิบโสมออกมา เหลือบมองไปใต้กล่องแพร หยิบกระดาษใบหนึ่งออกมา เขากวาดสายตาดูอย่างรวดเร็ว จากนั้นสอดเข้าไปในกระเป๋าแขนเสื้อ

เมื่อดูกระดาษใบนี้จบ จิตใจตอนนี่ของเขารู้สึกยิ่งหนักอึ้งขึ้น

เขาคาดการณ์ไว้ไม่ผิด ฮ่องเต้ตั้งใจที่จะบีบบังคับซือถูเย้นให้อยู่ที่แคว้นเป่ยม่อ จากนั้นให้ฉินโจวเปิดศึกสงครามต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้น นี่ไม่ใช่ความคิดของฉาวฮองเฮา แต่เป็นความคิดของฮ่องเต้ เมื่อก่อน พวกเขาเชื่อว่าฮ่องเต้หลงเสน่ห์ของฉาวฮองเฮา ถึงได้ทำการตัดสินใจที่สับสนมากมาย แต่ว่า อย่างไรก็ตาม ความน่ากลัวของฉาวฮองเฮา ต่างจากความน่ากลัวของฮ่องเต้มาก

เมื่อกลับถึงตำหนักอ๋อง เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะก้าวเท้าเข้าไป

ซือถูเย้นและคนอื่นๆได้ทานอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพ่อบ้านก็ได้จัดการที่พักให้พวกเขาแล้ว พักที่ซีหยางก่วนในตำหนักอ๋อง

ซีหยางก่วนเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ใหญ่ที่สุดในตำหนักอ๋อง มีห้องพักถึง12ห้องพัก มีห้องโถงใหญ่1ห้อง ห้องโถงเล็ก2ห้อง มีสวนดอกไม้ส่วนตัว ครอบคลุมพื้นที่หนึ่งในสามของพื้นที่ตำหนักอ๋อง

จัดให้ซือถูเย้นพักที่นี่ ก็จะเห็นได้ว่า อ๋องฉีให้ความสำคัญต่อซือถูเย้นเป็นอย่างมาก

“ท่านพี่ซือถู พระชายาเคยชินกับอาหารหรือเปล่า” อ๋องฉีพอเข้าประตูมาก็ถามด้วยรอยยิ้ม

“ถึงแม้ว่าข้าจะเชื่อไปแล้ว แต่ข้าเองแต่ไหนแต่ไรทำอะไรไม่เคยละทิ้งตัวเอง ก็ยังเหลือหนทางรอดอยู่นี่? คอยดูนะ ฮ่องเต้ของแคว้นเป่ยม่อต้องการบีบบังคับให้ข้าอยู่ที่นี่ เพื่อง่ายต่อการโจมตีแคว้นต้าโจว ก่อนอื่นข้าจะให้เขาพ่ายแพ้ย่อยยับกลับไป ให้ได้ลิ้มรสชาติของความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้”

หลีโม่ถามด้วยความอยากรู้ว่า “ลิ้มรสชาติของความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้อย่างไร? หากฉินโจวโจมตี มันจะเกิดอะไรขึ้น?”

“เป็นความลับ” ซือถูเย้นยิ้ม “เจ้านะ ตั้งใจคอยฟังข่าวดีแล้วกัน”

“ข้าไม่สนใจแล้วล่ะ ตำราทางการแพทย์ที่เวินยี่มอบให้ข้า เป็นตำราที่บันทึกเกี่ยวกับโรคระบาดต่างๆมากมาย ข้าต้องรีบอ่านแล้ว” หลีโม่กล่าว

“อืม คืนนี้ลงพื้นที่โรคระบาดนะ” ซือถูเย้นกล่าว

“ก็ดี” หลีโม่หวังว่ายิ่งเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี แต่ว่า เกรงว่าทางอ๋องฉีจะไม่ให้ความร่วมมือนะสิ

นี่ทำอย่างกับคนเหล่านั้นที่ติดเชื้อโรคระบาดเป็นราษฎรของแคว้นต้าโจว ส่วนฝั่งแคว้นเป่ยม่อ ช่างสุขสบายเสียจริงเชียว

“หลีโม่ ข้าขอวิเคราะห์ความคิดของฮ่องเต้แคว้นเป่ยม่อกับเจ้าก่อน ตอนนี้เขาไม่เชื่อว่าเจ้าจะสามารถรักษาโรคระบาดนี้ให้หายได้ แต่ว่า เขาจะประกาศบอกให้คนข้างนอก ว่าเจ้าสามารถรักษาโรคระบาดให้หายได้ ให้ทุกคนเห็นถึงความหวัง ให้ทุกคนเชื่อมั่นในตัวเจ้ามากขึ้น แต่ว่า หากเจ้าไม่สามารถคิดค้นวิธีรักษาได้ ความเชื่อถือของพวกเขาที่มีต่อเจ้าก็จะกลายเป็นโกรธแค้นแทน เมื่อครั้งแรกมีความหวังมากขนาดไหน สุดท้ายก็จะมีความโกรธแค้นมากขนาดนั้น ความโกรธแค้นของราษฎร จะแผดเผาพวกเราให้ตายทั้งเป็น ในทางตรงกันข้าม หากเจ้าสามารถคิดค้นวิธีรักษาได้ พวกเขาก็จะส่งผู้คนมาปล้น มาแย่งผลงานชิ้นนี้ จากนั้นบอกกับราษฎรแคว้นเป่ยม่อ เสี้ยหลีโม่เจ้ายังจะมีประโยชน์อะไรอีก ดังนั้นพวกเราก็จะถูกปฏิเสธโดยราษฎรของแคว้นเป่ยม่อ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน พวกเราก็ไม่มีประโยชน์ต่อพวกเขาแม้แต่นิดเดียว”

หลีโม่พยักหน้า คิดว่าซือถูเย้นวิเคราะห์ได้อย่างละเอียดมาก

“แล้วพวกเราควรทำอย่างไร? โรคระบาดครั้งนี้ พวกเราจะไม่สนใจมันแล้วใช่ไหม? แต่ถึงแม้ว่าจะไม่สนใจมันแล้ว ตอนนี้พวกเราเข้าไปในแคว้นเป่ยม่อ จะออกไปก็หาใช่ว่าจะง่าย” หลีโม่ถาม

“โรคระบาด พวกเราต้องรักษา อย่างไรก็ตามราษฎรพวกนั้นก็เป็นผู้บริสุทธิ์ เจ้าวางใจเถอะ ข้ามีแผนของข้า หลายวันจากนี้ เจ้าและพวกโหรวเหยา หลิ่วหลิ่ว หลิงลี่ ไปเขตโรคระบาด ส่วนข้า เซียวโธ่และซูชิงจะเดินสังเกตรอบๆ”

“นี่คือในเขตแคว้นเป่ยม่อ เจ้าต้องระมัดระวังด้วยนะ” หลีโม่กล่าว

“วางใจเถอะ ความสามารถของข้าเจ้ายังไม่รู้อีกเหรอ?” ซือถูเย้นเอื้อมมือไปดึงแผลเป็นจากรอยมีดที่อยู่บนแขนของนาง “ฮ่องเต้แคว้นเป่ยม่อกล้าหลอกลวงข้า ข้าจะตอบแทนคืนอย่างสาสม”

ภายใต้ดวงตา เวลาจ้องมองแสดงให้เห็นถึงแสงอันธพาล

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม