พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 572

บทที่ 572 ถูกขัดขวาง

เพราะมีคนของกรมฮุ่ยหมินคอยช่วยเหลือ กรมฮุ่ยหมินสามารถออกคำสั่งในทางสาธารณสุข หลีโม่ขอให้ใต้เท้าจู้ของกรมฮุ่ยหมินออกคำสั่งฆ่าหนูทั่วประเทศ และให้สูตรยาอันหนึ่ง ให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศใช้สูตรยานี้ ไม่ว่าจะเป็นคนป่วยหรือคนไม่ป่วย ไม่ว่าจะเป็นคนในเขตโรคระบาดหรือคนในเขตปลอดภัย

ใต้เท้าจู้ไม่ให้ความร่วมมือเลยสักนิด “นี่เจ้าล้อเล่นหรือ? คนที่ป่วยต้องทานยาก็พอแล้ว เจ้ายังจะให้คนที่ไม่ป่วยทานยาด้วย?”

“ฮ่องเต้มีรับสั่งให้พวกเจ้ากรมฮุ่ยหมิน ให้ความร่วมมือวิธีการรักษาของข้าอย่างเต็มที่ นี่ก็คือขั้นแรกที่ข้าจะทำ หากเจ้าไม่ทำตาม ให้เจ้าเข้าหวังไปรับโทษเอง” หลีโม่พูดอย่างเอาจริงเอาจัง

ใต้เท้าจู้โกรธมาก “ฮ่องเต้มีรับสั่งให้กรมฮุ่ยหมินให้ความร่วมมือพระชายาในการรักษา แต่ไม่ใช่การล้อเล่น เจ้าให้ข้าออกคำสั่ง ก็ต้องสมเหตุสมผลไม่ใช่หรือ? คนที่ไม่ป่วยทำไมต้องทานยา?”

“ป้องกันการติดเชื้อ”

“ดื่มยานี้แล้ว ก็จะสามารถป้องกันการติดเชื้อ?”

“ไม่แน่นอน แต่มีส่วนป้องกันได้ในระดับหนึ่ง”

“ไม่ ข้าจะทำแบบนี้ไม่ได้ พระชายาเข้าวังไปขอพระราชโองการเองเถอะ” หลังจากที่ใต้เท้าจู้ออกคำสั่งนี้ลงไป ก็จะกลายเป็นเรื่องน่าขำ อย่าว่าแต่พวกเดียวกันจะหัวเราะเย้ยว่าเขาไม่มีความสามารถ ประชาชนก็จะตำหนิว่าเขาสร้างเรื่องเดือดร้อน

ให้คนทั้งประเทศดื่มยานี้ จะต้องจ่ายเงินตั้งเท่าไหร่? ตอนนี้กองคลังหร่อยหรอ พระชายาซื่อเจิ้งคิดจะสูบเงินในกองคลังให้หมดสิ้นหรือ?

ใต้เท้าจู้ ไม่เชื่อถือคนที่มาจากต้าโจวเลยสักนิด ต้าโจวกับเป่ยม่อมีความสัมพันธ์เป็นศัตรูกัน พวกเขาจะช่วยเหลืออย่างจริงใจได้อย่างไร?

หลีโม่มองดูเงาหลังของเขา รู้ว่าเขาเป็นคนของพวกยึดมั่นทำสงคราม ได้อ่อนใจอยู่ลึกๆ

ตอนนี้คนที่จะสามารถช่วยได้ มีเพียงองค์หญิงอานแล้ว

“หลิ่วหลิ่ว คืนนี้เจ้าเห็นใต้เท้าซูไหม?” หลีโม่กับมาถามหลิ่วหลิ่วในห้อง

หลิ่วหลิ่วพูดว่า “ลงเขาไปแล้ว”

“ลงเขา?” หลีโม่อึ้ง “เขาเคยสัมผัสกับผู้ป่วยเขตฝั่งตะวันตก ไม่สมควรที่จะลงเขา”

ตอนที่อ๋องเจิ้นโก๋พวกเขาขึ้นเขามา เพราะตอนนี้หลีโม่ยังไม่กล้าวินิจฉัยอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงปล่อยพวกเขาลงเขา

แต่ว่าโชคดีที่พวกเขาไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับคนป่วยเขตฝั่งตะวันตก จึงน่าจะไม่เป็นไร

“เป็นโรคอะไร? วินิจฉัยแน่นอนหรือยัง?” หลิ่วหลิ่วถาม

หลีโม่คิดอยู่พักหนึ่ง “เจ้าไปตามโหรวเหยากับหลิงลี่มา”

“ได้” หลิ่วหลิ่วเห็นท่าทางนางค่อนข้างเคร่งเครียด ก็ไม่กล้าเสียเวลา รีบไปตามคนมาทันที

หลังจากที่ทั้งสี่คนนั่งลงแล้ว หลีโม่เล่าให้พวกนางฟังเกี่ยวกับผลของการวินิจฉัยของตนเอง และพูดถึงความร้ายแรงของโรคนี้ให้พวกเขาฟัง

หลังจากที่ทั้งสามคนได้ยินแล้ว ล้วนต่างก็อึ้งไป พวกนางคิดไม่ถึงเลยว่าจะร้ายแรงขนาดนี้

“งั้น... จะทำอย่างไรล่ะ? จะมีคนตายมากมายไหม? จะเกิดการระบาดอย่างร้ายแรงไหม?” โหรวเหยาถามอย่างหวาดกลัว

“ไม่รู้ หวังว่าคงไม่เป็นเช่นนั้น แต่ในเขตประสบภัยโรคระบาด ได้เกิดสถานการณ์อย่างมากมายแล้ว ตอนนี้ไม่สามารถควบคุมได้อย่างทันท่วงที การระบาดอย่างร้ายแรงอาจจะเกิดขึ้นได้”

“พวกเราควรทำอย่างไร? พวกเราต้องจากไปไหม?” หลิงลี่ถามอย่างสงบเงียบ

“ไม่ ไม่ ไปไม่ได้ ยังไม่พูดถึงอย่างอื่น พวกเราล้วนต่างก็เคยสัมผัสกับผู้ป่วย ไปไม่ได้” หลีโม่ยื่นมือห้ามไว้ “คิดหาวิธี ติดต่อองค์หญิงอาน เอาสูตรยาของข้าลงไป ให้ทุกคนทาน”

“สูตรยาของเจ้าสามารถรักษาโรคได้หรือ?” สายตาหลิ่วหลิ่วเป็นประกายดีใจขึ้นมาทันที

“ไม่ สูตรนี้ยังไม่สามารถรักษาได้ เพียงแค่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยคลายพิษแก้ร้อนใน ในเขตโรคระบาด จะต้องทำการฆ่าเชื้อในพื้นที่ส่วนมาก กำจัดหนูแมลงต่างๆที่เป็นตัวแพร่เชื้อ”

“แต่ว่าพวกเราจะลงจากเขาไม่ได้ แล้วจะไปหาองค์หญิงอานยังไง?” โหรวเหยาถาม

นี่ก็คือปัญหาอย่างหนึ่ง ก่อนหน้านี้ไม่ได้แน่ใจในผลการวินิจฉัย ยังสามารถที่จะส่งคนลงเขาไปได้ ตอนนี้ได้วินิจฉัยอย่างชัดเจนแล้ว คนที่นี่ล้วนต่างก็ไม่สามารถลงจากเขาไปได้

ใต้เท้าซูฟังคำพูดของนางแล้ว ก็มองดูนาง

วันนี้คนของอ๋องเจิ้นโก๋สั่งให้เขาลงเขา เขาได้พบกับอ๋องเจิ้นโก๋ ท่านอ๋องพูดว่า ซือถูเย้นสองสามีภรรยาคิดไม่ซื่อ จะทำลายเป่ยม่อ ถึงขั้นจะสร้างเรื่องจอมปลอม ทำให้ประชาชนเป่ยม่อหวาดกลัว

และนางสามารถคิดหาสูตรยา แต่สูตรยานี้อาจจะไม่สามารถรักษาโรคระบาดได้ ถึงขั้นอาจจะมีผลกระทบต่อร่างกายของประชาชนเป่ยม่อก็เป็นได้

อ๋องเจิ้นโก๋สั่งให้เขาจับตาดูเสี้ยหลีโม่ให้ดี หากนางคิดสูตรยาออกมาได้ ให้ขโมยเอาไปให้เขาก่อน จะเอาไปให้หมอหลวงตรวจดู ว่ามีผลกระทบต่อคนไหม

ตอนนั้นเขาไม่ค่อยเชื่อคำพูดของอ๋องเจิ้นโก๋ เพราะพระชายาซื่อเจิ้งที่เขาเห็น ไม่ใช่คนแบบนั้น

ตอนนี้นางกลับพูดว่า โลกนี้ร้ายแรงมาก หลายๆประเทศอาจจะมีผู้คนเสียชีวิตด้วยโรคนี้

นี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเกินไปแล้ว

หากคำพูดนี้เพ่งพายออกไป จะทำให้เกิดความหวาดกลัวกันมากเพียงใด?

ซูม่อกำลังครุ่นคิดอยู่ ก็ได้ยินหลีโม่พูดต่อไปว่า “สถานการณ์นี้ เจ้าจะต้องรีบรายงานฮ่องเต้ ส่วนพวกเจ้าจะประกาศเรื่องนี้ให้กับประชาชนรับรู้หรือไม่ พวกเจ้าตัดสินใจเอง แต่ข้ารู้คิดว่า สถานการณ์โรคระบาดแบบนี้ดีที่สุดคือไม่ควรที่จะปิดบังประชาชน ให้พวกเขาได้รับรู้ถึงความร้ายแรงของโรคนี้ จะได้คิดหาวิธีป้องกัน”

ในสมัยปัจจุบัน ถึงแม้การระบาดยังไม่สามารถทำได้อย่างครบวงจร แต่ประชาชนมีสิทธิ์ที่จะได้รับรู้ความจริง เกี่ยวกับโรคระบาดที่ร้ายแรงแบบนี้ ประชาชนสมควรที่จะได้รับรู้

ซูม่อคิดถึงคำพูดนั้นของอ๋องเจิ้นโก๋ขึ้นมาอีก หากซือถูเย้นสองสามีภรรยาทำได้สำเร็จ ต้าโจวจะไม่สงบศึก พวกเขาจะอาศัยตอนที่เป่ยม่อประสบภัยโรคระบาด เข้ามาต่อสู้

ซูม่อเป็นคนที่คาดหวังเพื่อให้ได้มาซึ่งความสุขงบสุข ดังนั้นจึงมักจะคิดว่าอ๋องเจิ้นโก๋มีความทะเยอทะยานเกินไป แต่ตอนนี้คิดถึงคำพูดของเขาแล้ว ก็รู้สึกแผ่นหลังเย็นระเยือกขึ้นมาทันที

หากที่เขาพูดเป็นความจริง อย่างนั้น เป่ยม่อก็จะถูกต้าโจวโจมตีจริงๆแล้ว

“ใต้เท้าซู เจ้าได้ยินคำพูดของค่าไหม?” หลีโม่เห็นเขาอึ้ง จึงเรียกเขา

ซูม่อเงยหัวขึ้น จ้องมองดูหลีโม่ “ได้ยิน พระชายาวางใจเถิด ถ้าจะคิดหาวิธีบอกกับองค์หญิงอานเอง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม