บทที่ 583 โจมตีทางจิตใจ
ฉาวฮองเฮาให้กำลังใจว่า “ท่านแม่ทัพอย่างเพิ่งรีบร้อน ตอนนี้กำลังตระเตรียมเสบียง ได้จัดสรรแบ่งส่งไปยังชายแดนแล้ว ตอนที่ท่านกลับมาก็น่าจะเห็นแล้ว”
ฉินโจวกล่าว “ใช่แล้ว หม่อมฉันเห็นแล้ว เพียงแต่ จำนวนอาจจะยังไม่เพียงพอ อีกอย่างระหว่างทางที่หม่อมฉันกลับมา เห็นผู้ประสบภัยเดินทางไปที่อื่นกันมาก ทุกที่มีแต่ราษฎรที่อดอยาก หรือว่าทางราชสำนักไม่มีเสบียงแบ่งลงไปให้ราษฎร”
คำนี้ ก็คงต้องให้ฉินโจวถาม
แต่เมื่อก่อนฉินโจวไม่ถาม ไม่เคยสงสัยในการตัดสินใจของฮ่องเต้ แต่ครั้งนี้ นางเห็นแล้วก็ตกใจ
แผ่นดินไหวในแคว้นเปยม่อก็เกิดขึ้นบ่อนครั้ง ก็เพราะแบบนี้ ฮ่องเต้ก็เลยอยากจะเข้าบุกรุกเมืองอื่นๆเพื่อให้ราษฎรของตนรอดพ้นจากภัยพิบัติ
เพียงแต่ แผ่นดินไหวครั้งนี้มีโรคระบาดมาด้วย ร้ายแรงกว่าครั้งอื่นๆ
โรคระบาดไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้น แต่ว่ามันควบคุมได้ง่าย
ครั้งนี้ ตั้งแต่แผ่นดินไหวมาก็เกือบเดือนแล้ว แต่พื้นที่ภัยพิบัติยังไม่มีการก่อสร้างใหม่เลย และยังเก็บกวาดไม่เสร็จด้วย ศพกองเกลื่อน ทุกที่มีแต่ซากปรักหักพัง ทหารคอยควบคุมดูแลก็ไม่มี
นางก็รู้ว่าทหารทั้งหมดถูกเกณฑ์ไปรับศึกกับแคว้นต้าโจว แต่ภายในยังมีกองทหารอยู่อีก ทำไมฮ่องเต้ไม่ส่งทหารไปดูแลราษฎร? หรือจะให้ส่งทหารจากชายแดนกลับมา?
ฮ่องเต้กล่าว “เสบียงช่วยเหลือภัยพิบัติได้ส่งไปแล้ว ส่วนเรื่องที่มีราษฎรย้ายถิ่นฐานนั้น ข้าก็ได้ยินมาบ้าง ก็เข้าใจว่ามันเป็นเพราะว่าโรคระบาด”
ฉินโจวถามอีกว่า “ฝ่าบาทคิดเช่นไรกับโรคระบาดครั้งนี้? ดูเหมือนว่ามันจะร้ายแรงกว่าครั้งไหนๆ และพระชายาอ๋องซื้อเจิ้งของแคว้นต้าโจวก็บอกว่า โรคระบาดครั้งนี้จะเป็นวงกว้าง ไม่ทราบว่าฝ่าบาทจะมีวิธีรับมืออย่างไร? เสี้ยหลีโม่ให้ตัวอย่างยามา ฝ่าบาทได้สั่งให้คนลองผลิตยานั้นดูว่าใช้ได้ผลจริงหรือไม่?”
ฉินโจวถามจี้แบบนี้ ก็ทำให้ฮ่องเต้ไม่พอใจ
ฉาวฮองเฮาเห็นสีหน้าของฮ่องเต้ไม่ค่อยพอใจ “แม่ทัพใหญ่เพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ กลับไปพักผ่อนก่อนเถิด แล้วค่อยเข้าวังมาคุยกับข้า ส่วนทหารที่เจ้านำกลับมา ฝ่าบาทได้ตัดสินใจแล้วว่าจะแบ่งออกมาสามหมื่นคนเพื่อไปช่วยเหลือสถานที่ประสบภัย”
“สามหมื่นคน? แต่ครั้งนี้นำกลับมาหนึ่งแสนคนนะ ราชโองการรับสั่งแบบนี้ไม่ใช่หรือ?” ฉินโจวสงสัย
ฮ่องเต้พูดช้าๆว่า “เจ็ดหมื่นคนที่เหลือนั้น ยังไม่มีคำสั่งอะไร ให้ตั้งค่ายอยู่นอกเมืองไปก่อน”
ฉินโจวเริ่มขึ้นเสียง “ให้เจ็ดหมื่นคนตั้งค่ายนอกเมือง? เพราะอะไรเล่าฝ่าบาท? ไม่สิ้นเปลืองกำลังทหารแย่หรือ? พวกเขากลับมาก็เพื่อจะช่วยผู้ประสบภัย ถ้าจะให้มาช่วยรักษาความปลอดภัยของเมืองหลวง เมืองหลวงเองก็มีกำลังทหารอยู่แล้ว”
ทหารที่กลับมานั้น ควรเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งหมด แต่ฮ่องเต้ไม่ให้พวกเขาเข้าไปช่วย แต่ให้สำนักงานฟ้องร้อง(เท่ากับศาลแขวง)ในเขตพื้นที่ประสบภัยส่งทหารออกมาช่วย ก็เลยทำให้คนช่วยเหลือไม่เพียงพอ
ฮ่องเต้มองฉินโจว แล้วเม้มปาก “ท่านแม่ทัพมีข้อสงสัยเยอะจริงๆนะ ไม่ค่อยพอใจในสิ่งที่ข้าวางแผนหรือ?”
ฉินโจวนิ่ง แล้วก็รู้สึกว่าตนเองนั้นพูดแรงเกินไป ก็เลยรีบโค้งตัวคำนับ “หม่อมฉันมิกล้า หม่อมฉันกล่าวแรงไปหน่อย”
“ท่านแม่ทัพไม่เคยเป็นเช่นนี้” ฮ่องเต้เตือนนางอ้อมๆ
ฉินโจวเริ่มนิ่งขึ้น แล้วรีบคุกเข่าท่าชันเข่าข้างเดียว “หม่อมฉันไม่กล้าสงสัยในตัวฝ่าบาท ครั้งนี้หม่อมฉันรู้สึกกังวลต่อราษฎรมากเกินไป เพราะตลอดทางที่กลับมาได้พบอะไรมากมาย ก็เลยกล่าววาจาที่ไม่สุภาพต่อฝ่าบาท”
ฉินโจวเห็นสีหน้าฮองเฮาจริงจังขึ้น ก็เลยวางจอกเหล้าลง “จดหมายอะไรหรือ?”
“เป็นจดหมายที่อี๋เฟยแห่งแคว้นต้าโจวส่งมา พอเจ้าอ่านแล้วก็จะเข้าใจว่าซือถูเย้นกับพระชายามาทำอะไรที่นี่ และฮ่องเต้คว้นต้าโจวมีแผนเช่นไร”
ฉาวฮองเฮาหยิบถุงออกมาจากแขนเสื้อยื่นให้นาง “เจ้าดูเองเถอะ”
ฉินโจวรู้ว่าแคว้นเป่ยม่อมีไส้ศึกที่ลอบเข้าวังต้าโจวไป แล้วยังร่วมมือกับแม่ขององค์ชายเจ็ดของแคว้นต้าโจวด้วย
นางรับจดหมายมา แล้วเปิดดู สีหน้าก็เปลี่ยนไป นางโมโหมาก “หนอยแหนะ ซือถูเย้น กล้าหลอกข้าได้”
ในจดหมาย อี๋เฟยบอกว่าที่ซือถูเย้นและเสี้ยหลีโม่มาครั้งนี้ ก็เพื่อจะมาติดต่อกับพวกยึดมั่นสันติภาพของแคว้นเป่ยม่อ บังคับให้ฮ่องเต้สละราชสมบัติ ช่วยเหลืออ๋องฉียกทัพก่อกบฏ ส่วนเสี้ยหลีโม่ก็มาช่วยทำยารักษาโรคระบาด ทำให้ชาวเมืองไม่เชื่อถือฮ่องเต้แล้ว แล้วกลับมาช่วยใจอ๋องฉีแทน
ฉาวฮองเฮายิ้มเย็น “ซือถูเย้นมันเป็นใคร? เจ้าไม่เคยทำศึกกับนางตรงๆ เพียงแต่มีการสู้รบกันบ้าง คงจะเสียท่าให้มันอยู่ไม่น้อย พอจะให้อย่าศึกก็อย่าศึกเสียอย่างนั้น แล้วยังส่งคนมาช่วยเหลือเรา มันไม่ค่อยสอดคล้องกับนิสัยของเขาเลย ส่วนพระชายาของเขา ข้าก็เคยสืบมาอยู่บ้าง ว่าไม่ใช่คนดีอะไร พ่อและย่าของนางก็ตายด้วยแผนการของนาง เพราะเพียงว่าพ่อของนางไม่เข้าพวกกับซือถูเย้น แต่ไปเข้ากับองค์รัชทายาท นางก็เลยลงมือ น่าสงสารเสี้ยเฉิงเสี้ยง ตายไปละยังไม่รู้เลยว่าตายด้วยน้ำมือลูกสาวตนเอง”
ฉาวฮองเฮาพูดไปดูสีหน้าของฉินโจวไปด้วย
นางรู้ว่าฉินโจวเป็นคนรักชาติตระกูลมาก กตัญญูมาก เกลียดพวกที่อกตัญญูหักหลังชาติตระกูลตนเองเป็นที่สุด ถ้าได้ยินเช่นนั้นก็คงจะเกลียดเสี้ยหลีโม่เป็นอย่างมาก
เป็นเช่นนั้นจริงๆ ฉินโจวพูดนิ่งๆว่า “ทางที่ดีอย่าให้เสี้ยหลีโม่มาตกอยู่ในมือหม่อมฉัน ไม่เช่นนั้นจะไม่ให้นางตายดี”
ฉาวฮองเฮาถอนหายใจ “ตอนนี้เจ้ารู้แล้วใช่ไหมว่าทำไมฝ่าบาทต้องให้ทหารที่เหลือตั้งค่ายไว้นอกเมือง? ก็เพื่อจะป้องกันอ๋องฉีและซือถูเย้นยกทัพมา ถ้าวังหลวงเสียท่า ทหารทางชายแดนก็จะถูกซือถูเย้นบุกเข้ารุก พอถึงตอนนั้นจะเป็นเช่นไร ท่านแม่ทัพก็น่าจะเดาออกนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...