พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 631

บทที่ 631 เรื่องภายในใจซูชิง

ตลอดการเดินทาง อารมณ์ของทุกคนมีทั้งหนักใจและสนุกสนาน

หนักใจเพราะเรื่องของโหรวเหยา สนุกสนานเพราะในที่สุดก็สามารถกลับบ้านได้แล้ว

เรื่องของเป่ยม่อ นับแต่นี้ไปก็จะไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาอีกแล้ว

อย่างน้อยทุกคนต่างก็คิดแบบนี้ ยังไงก็ได้ความสงบสุขกลับมา ในที่สุดประชาชนของต้าโจว ก็จะได้มีชีวิตที่สงบสุขเสียที

ศึกสงครามที่มีอย่างต่อเนื่อง ความเจ็บปวดทรมานที่ประชาชนได้รับ ไม่สามารถที่จะคาดเดาได้

ในวินาทีที่เป่ยม่อถอนทัพ เซียวเซียวก็เริ่มกลับไปยังราชสำนักแล้ว

เตรียมการทหารมาตลอดทาง ก็นับว่ายุ่งมาก คาดว่าอย่างน้อยก็ต้องครึ่งเดือนถึงจะกลับไปถึงยังเมืองหลวง

ดังนั้น ซือถูเย้นจึงสั่งคนไปส่งข่าวดีบอกให้เซียวเซียวได้ทราบ และเรียกให้จื่นเฉิงกลับมาก่อน

ระหว่างทางที่กลับมาเมืองหลวงซูชิงดูมีความสุขมาตลอดทาง พูดจาสอดแทรกมุขตลก ยิ้มหัวเราะอยู่อย่างไม่ขาด

คืนก่อนที่จะถึงเมืองหลวงหนึ่งวัน หยุดพักที่ยี่กว่าน ซือถูเย้นเห็นว่าทุกคนรีบเร่งเดินทางกันมาอย่างเหนื่อยล้า จึงสั่งคนเตรียมเหล้าอาหารอย่างดี ไล่ให้เย็นเอ๋อร์กับมามาทานเสร็จแล้วก็กลับไปนอนก่อน พวกเขาหลายคนอยู่ดื่มเหล้ากันต่ออยู่ในห้อง

ตอนที่ดื่มเหล้า ซือถูเย้นถึงค่อยเล่าบอกว่า ที่จริงเขาเคยไปพบอ๋องเจิ้นโก๋ครั้งหนึ่ง

ตอนนั้นอ๋องเป่ยม่อถูกจับขังคุก โทษฐานกบฏ เขาจะต้องตายแน่ๆ แต่ฮ่องเต้องค์ใหม่ต้องการกำจัดเหล่าขุนนางที่สมรู้ร่วมคิดกับเขา เขาจึงยังไม่ถูกตัดสินโทษ

ฮ่องเต้องค์ใหม่ต้องการที่จะสร้างบารมีความน่าเชื่อถือ แน่นอนจึงต้องมีการกวาดล้างครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างก็รู้ อ๋องเจิ้นโก๋กับฮ่องเต้องค์ก่อนสนิทสนมกันมาก ขุนนางที่ไปมาหาสู่กัน ก็เป็นคนที่ฮ่องเต้องค์ก่อนเชื่อถือ

จับคนพวกนี้ออกมา ที่จริงก็เท่ากับว่าเป็นการจับขุนนางที่จงรักภักดีกับฮ่องเต้องค์ก่อนออกมา

อ๋องเจิ้นโก๋นับว่าเป็น “ชายชาตรี” ที่ปราดเปรียว เห็นซือถูเย้นมา ก็คุกเข่าก้มหัวทันที โดยที่ยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย

เพื่อจะได้มีชีวิตรอด แค่ก้มหัวจะเป็นไรไป? เขาได้ให้ข้อมูลบางอย่างแก่ซือถูเย้น แล้วหวังอยากให้ซือถูเย้นช่วยเขาออกไป เขาขอเพียงให้มีชีวิตรอด ต่อให้ต้องเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลก็ไม่เป็นไร

“เขาพูดอะไรกับเจ้า?” หลีโม่ถามขึ้นอย่างแปลกใจ กับความที่อ๋องเจิ้นโก๋ไม่เสียสติ เพราะอ๋องเจิ้นโก๋เป็นคนที่ชอบมุดหัวอยู่แต่ในรัง กลับรู้จักคิดว่า สามารถมีชีวิตอยู่ ทำไมยังจะต้องหยิ่งยโสโอหังล่ะ?

ที่รู้จักก้มหัว ถึงจะเป็นคนที่อยู่ได้นาน

“ที่จริงฉู่จิ้งกับฉาวฮองเฮาได้ส่งใส้ศึกเข้าไปในต้าโจวแต่แรกแล้ว ส่วนหนึ่งถูกส่งเข้าไปอยู่ในค่ายทหารของเรา”

“หา?” เซียวโธ่โกรธจัด “งั้นยังดีที่เขาตายไปแล้ว ไม่อย่างนั้นข้าจะต้องหั่นเขาเป็นชิ้นๆแน่”

“พวกเจ้าเคยเห็นศพของฉู่จิ้งไหม?” ซือถูเย้นถามคำถามนี้ขึ้นมาทันใด

ทุกคนต่างก็ตกใจ “ทำไม?”

ซือถูเย้นพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “นี่ก็คือข้อมูลที่สองที่อ๋องเจิ้นโก๋บอกข้า ฉู่จิ้งหนีออกไปแต่แรกแล้ว ตอนที่ฉินโจววางค่ายกลทหาร เขาก็หนีไปแล้ว คนที่ตายเป็นแค่ตัวแทนของเขา”

ซูชิงมองดูหลีโม่ พูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “ฉู่จิ้งคนนั้น ดูเหมือนเขาจะเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูงมาก อย่าให้เขารู้ความในใจของฉินโจว...ไม่อย่างนั้น จะต้องคิดหาทุกวิถีทาง เอาเจ้าไปบีบบังคับฉินโจว”

สีหน้าหลีโม่ร้อนรุ่มขึ้นมาทันที แม้แต่ซูชิงยังรู้เรื่องนี้? เรื่องนี้ช่าง...

แต่หลิ่วหลิ่วกลับมองซูชิงอย่างไม่เข้าใจ “เอาหลีโม่ไปบีบบังคับฉินโจว? ฉินโจวไม่ได้โง่นะ นางกับหลีโม่ก็แค่รู้จักกันเอง จะยอมให้เขาบีบบังคับได้อย่างไร?”

“ยัยซื่อบื้อ ถึงเจ้าจะแต่งงานแล้ว แต่ก็ยังเลอะเทอะอยู่” ซูชิงพึมพำด้วยเสียงเบา

หลิ่วหลิ่วไม่ชอบคนที่พูดจาไม่รู้เรื่องที่สุด “เลอะเทอะอะไร? เจ้าก็พูดมาให้รู้เรื่องสิ เจ้าก็ไม่ใช่พวกหนอนหนังสือ ทำไมพูดจาชอบวกไปวนมา น่าโมโหจริงๆ คนอื่นพูดไปตั้งมากมายก็ไม่ตอบสักคำ”

หลิงลี่หัวเราะ “ก็เหมือนจริงๆ”

พอพูดถึงเรื่องสำคัญ ก็เห็นซูชิงดื่มแก้วแล้วแก้วอีก ดื่มจนใบหน้าที่หล่อขาวแดงก่ำ ดวงตาเหม่อลอย

เซียวโธ่พูดขึ้นว่า “นี่เห็นว่าเพราะเจ้าไม่ต้องจ่ายค่าเหล้าเองใช่ไหม? ถึงได้ดื่มขนาดนี้ คนอื่นเสียค่าเหล้า เจ้าเสียชีวิต คุ้มไหม?”

ซูชิงยื่นมือไปนวดหน้าเขาแป๊บหนึ่ง “บางครั้งชีวิตก็ไม่มีค่าเท่ากับเหล้า”

“พูดไร้สาระ” เซียวโธ่เป็นคนตรงไปตรงมา รู้ว่าในใจเขามีเรื่องไม่สบายใจ “หากเจ้าไม่วางใจโหราเหยา ก็อยู่ตามหาต่อที่เป่ยม่อสิ ทำไมต้องทำให้ตัวเองทรมานใจ?”

ซูชิงหิ้วไหเหล้า “ข้าคุยกับนักรบยังเจ้า ไม่มีความหมายอะไรเลย”

พูดเสร็จ ก็เดินโซเซออกไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม