บทที่ 639 ทำเป้าหมายเล็กๆก่อน
เมื่อเข้าไปในห้อง มองเห็นหลีโม่สวมเสื้อผ้าผ้าธรรมดานั่งอยู่บนเก้าอี้ บนหัวมวยผมไว้ ประดับบนผมอย่างเรียบง่าย เพียงแค่ติดปิ่นผมจี้เงินฝังมุข
ใบหน้าปะแป้งเบาบาง คิ้วหน้าเล็กน้อย จมูกเล็กสวย ริมฝีปากไม่ทาสีแดงสด
บนโต๊ะน้ำชาที่แกะสลักด้วยไม้มะเกลือที่อยู่ด้านข้างนางประดับด้วยถ้วยชาดินเผาลายองุ่นสีสันหลากสีหนึ่งใบ ด้านข้างลิ้นชักประดับด้วยกระถางธูปรูปสัตว์สามเขา ควันยังคงอบอวลอยู่ กลิ่นหอมคละคลุ้งเต็มห้อง ทำให้รู้สึกสดชื่นมาก
ผู้คนเข้ามาในห้องหมด ต่างก็ทำความเคารพตามกฎระเบียบ นอกเหนือจากการแสดงออกที่หยิ่งผยองของพวกเขาแล้ว ก็พบข้อผิดพลาดแม้แต่น้อย
พวกนางมาเพื่อฝึกมารยาท แน่นอนว่าด้านมารยาทต้องระมัดระวังอย่างเต็มที่
“ชื่ออะไรบ้าง? รายงานมาให้ทราบทั้งหมด” ใบหน้าหลีโม่เต็มไปด้วยลอยยิ้ม ที่เป็นมิตรอย่างมาก
เหลียงมามาเห็นนางเป็นเช่นนี้ จะบอกว่านางมีอำนาจมากเพียงใด และพูดอย่างไม่เกรงใจว่า “ข้อน้อยและพวกพ้องเป็นคนสนิทใกล้ชิดของฮองไทเฮา ข้าน้อยแซ่เหลียง”
“อันที่จริงเหลียงมามานี่เอง” หลีโม่อมยิ้ม มือถือซองอั่งเปาไว้ “นี่เป็นของขวัญสำหรับมามา”
เหลียงมามาก็ไม่เกรงใจ ก้าวขึ้นไปรับมา คำนวณดูแล้วก็ประมาณเงินสองตำลึง ในใจก็ประชดประชันทันที เงินแค่สองตำลึงคิดจะซื้อใจพวกนางหรือ? อย่างน้อยก็เป็นถึงลูกสาวผู้ดี ที่เติบโตมาในครอบครัวใหญ่ ทำไมถึงไม่รู้จักธรรมเนียมเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม นางก็ไม่ได้พูดอะไร รับซองอั่งเปาแล้วก็ถอนกลับไปอีกด้าน
“ข้าน้อยแซ่เฉิน ก่อนหน้านี้ทำงานแผนกสำนักงานซ่างชิ่นในพระราชวัง”
“ข้าน้อยแซ่ซุน ก่อนหน้านี้ทำงานแผนกสำนักงานช่างกงในพระราชวัง”
“ข้าน้อยแซ่หวาง ก่อนหน้านี้ได้ปรนนิบัติรับใช้ฮองไทเฮาเซิงเต๋อในพระราชวัง”
มามาทั้งสี่ท่านต่างก็รับซองอั่งเปาไปแล้ว ถัดมาก็จะเป็นสาวใช้ในพระราชวังที่ต่างลำดับชั้นลงมา
“ข้าน้อยชื่อหมิงชวน”
“ข้าน้อยชื่อหมิงเซี่ย”
“ข้าน้อยชื่อหมิงชิว”
“ข้าน้อยชื่อหมิงตง”
สาวใช้ในพระราชวังเหล่านี้หน้าตาสะสวย ท่าทีดูสดใส มารยาทก็ดีมาก
เมื่อหลีโม่ถาม พวกนางถวายบังคมโดยย่อตัวเล็กน้อย ตอนรับซองอั่งเปาก็ได้มาขอบคุณเป็นพิเศษอีกครั้ง
รายงานชื่อแล้วและก็ได้รับซองอั่งเปาของเจ้านายใหม่แล้ว หลีโม่ก็ค่อยเริ่มพูดแล้ว คนแรกที่นางมองไปดูก็คือเหลียงมา “ตำหนักอ๋องนี้หลังจากที่กุ้ยไท่เฟยสวรรคต ก็ถูกปล่อยทิ้งไว้มาโดยตลอดไม่มีใครมาดูแล มาวันนี้ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของฮองไทเฮา เลือกพวกเจ้าทั้งหลายออกมาเพื่อมาช่วยงานข้า ข้ารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่า กฎระเบียบก็ต้องปฏิบัติตามสถานที่ที่นี้ พวกเจ้ามารับใช้ที่ตำหนักอ๋อง มีกฎบางข้อ ต้องแจ้งให้พวกเจ้าเข้าใจเสียก่อน”
หลังจากพูดจบ ก็กวักมือ เรียกหยางมามาขึ้นมาพูด
เหลียงมามาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว รู้สึกว่ากลิ่นหอมนี้มันโชยมาที่ศีรษะและในสมอง นางสูดหายใจเข้าเต็มปอด ยิ่งรู้สึกว่าเลือดในอกมันปั่นป่วนไปหมด ทนไม่ไหวที่จะพูดความในใจนั้นออกมาให้หมดถึงจะรู้สึกดีขึ้น
นางพยายามที่จะควบคุมความโกรธของตัวเอง แต่ก็อดไม่ได้ที่พูดด้วยน้ำเสียงอย่างเคร่งครึมว่า “พระชายา ข้าน้อยและคนอื่นๆรับพระราชโองการมา หากได้รับความลำบาก คนที่รู้ก็จะพูดว่าคนสนิทของพระชายาไม่รู้จักกาลเทศะ คนที่ไม่รู้ก็จะคิดว่าเป็นคำสั่งของพระชายา หากฮองไทเฮาเข้าใจผิดมันจะไม่ดี”
น้ำเสียงของนางรุนแรงมาก ทำให้พวกหญิงชราและสาวใช้เหล่านั้นต่างตะลึงกันไปหมด สงสัยว่าทำไมเหลียงมามาถึงอดกลั้นอารมณ์ไม่ไหวขนาดนี้?
หยางมามาก้าวเท้าขึ้นข้างหน้า แล้วพูดด้วยอารมณ์โกรธว่า “เจ้าช่างกล้านักมาตะโกนโหวกเหวกต่อหน้าตำหนักอ๋อง? ไม่ไว้หน้าพระชายาเลยใช่ไหม? ตั้งแต่พวกเจ้าเข้ามาในห้อง พระชายาได้พูดแค่เพียงสองประโยคเท่านั้น เจ้ากลับพูดจาต่อต้านอย่างไม่หยุดไม่หย่อน ใครกันแน่ที่ไร้มารยาท? อย่างน้อยเจ้าก็เป็นผู้อาวุโสในพระราชวัง ก็ไม่รู้จักความเป็นตัวของตัวเอง ไม่น่าแปลกที่เจ้าอยู่ในพระราชวังยิ่งอยู่ยิ่งถดถอย พอมาวันนี้ได้รับความเมตตาจากฮองไทเฮาช่วยยกเจ้าขึ้นมา กลับมากเป็นปีศาจที่ตำหนักอ๋อง”
เหลียงมามาโกรธมาก กระโดดขึ้นมาพุ่งเข้าไป “เจ้าหญิงชราผู้ทรยศเจ้าเล่ห์ ดูข้าจะฉีกปากของเจ้าให้เละคอยดู”
นางคว้าเสื้อผ้าของหยางมามาไว้ ยกมือขึ้นมากำลังจะตบ หยางมามาก้มเอวลงหลบ ขาพลิก ล้มลงไปกองกับพื้นทั้งตัว
ทุกคนตกตะลึงไปหมด แม้แต่เหลียงมามาก็ตกตะลึงเช่นกัน นางมองดูมือของตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ และกลับไปดูหยางมามาที่ล้มกองอยู่กับพื้น
แต่ก็เพียงแค่ตกตะลึงไปชั่วครู่ ยังรู้สึกว่าความโกรธนั้นพุ่งสูงขึ้นอยู่ กลับพูดกับหลีโม่ว่า “พระชายา ท่านก็เห็นเช่นกัน ว่านางเป็นคนหยอกล้อข้าน้อยก่อน”
หลีโม่หยิบถ้วยน้ำชาดินเผาลายองุ่นสีสันหลากสีขึ้นมา ขยับฝา แล้วถอนหายใจเบาๆ ไม่พูดอะไร
เหลียงมามาเห็นนางเช่นนี้ ก็ตกใจเป็นอย่างมาก และคิดว่าคนผิดไปฟ้องก่อน พร้อมกรีดร้องในใจแล้วพูดขึ้นว่า “พระชายา”
“บ่าวใช้มาจากไหนกัน ไม่มีมารยาทถึงเพียงนี้?” แล้วก็ได้ยินเสียงที่เคร่งขรึมและน่าเกรงขามดังขึ้นที่ประตู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...