พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 740

บทที่ 740 พิษรัก

คนของวังก็หาได้ยืนหยัดต่อไป พูดขึ้นว่า “ถ้าหากว่าพระชายาจะประทับรอ สู้ไปคุยกับเจ้าเมืองดูจะดีเสียกว่า หลายวันมานี้เจ้าเมืองหาได้มีใจอยากจะกินอะไรไม่”

“เกิดอะไรขึ้นกับท่านแม่?”หลีโม่ถามด้วยความตกใจ

“น่าจะด้วยเพราะเรื่องของคุณชายเสี้ย เสียใจมากเกินไป?”คนของวังหลวงพูดขึ้น

หลีโม่หยัดกายลุกขึ้นยืน “พาข้าไปพบท่านแม่เดี๋ยวนี้”

“เชิญเพคะพระชายา!”นางกำลังย่อกายลง

หลีโม่รู้สึกประหลาดใจ เมื่อก่อนนี้นางจะพบท่านแม่แต่ละครั้งนั้นยากเย็นแสนเข็ญ วันนี้ทำไมบอกว่าจะพบก็พบได้เลยนะ?

มาถึงยังสวนของหลี่ซ่วยหยุ่น พลันก็เห็นองครักษ์ที่ยืนอยู่นอกตำหนัก เมื่อเห็นนางมาถึง ทุกคนต่างก็ถวายความเคารพ

หลีโม่รู้ดีว่าคนพวกนี้จับตามองดูท่านแม่ โดยที่ยังไม่ได้ทำหน้าตาท่าทางให้ดีเท่าไหร่ นางก็พุ่งตรงเข้าไปพร้อมกับนางกำนัล

เมื่อเข้ามาถึงภายในห้องบรรทม ก็ได้กลิ่นของยา ที่เบื้องหน้าเตียงบรรทมก็มองเห็นบรรดานางกำนัลที่รายล้อมอยู่ให้เรียกใช้ได้ง่าย ๆ ยืนอยู่เป็นแถวแนว เฝ้านางเอาไว้

หลีโม่เดิมทีคิดว่าแค่เพียงไม่อยากอาหาร กินอะไรไม่ได้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะนอนแผ่พราอยู่บนเตียงไม่สามารถขยับเขยื้อนกาย ดูรุนแรงขนาดนี้

นางรีบสาวเท้าเดินเข้าไป เลิกม่านขึ้น ก็เห็นใบหน้าที่ซีดขาว แค่เพียงระยะเวลาไม่กี่วัน นางก็ผ่ายผอมลงไปได้มากมายขนาดนี้

“ท่านแม่!”หลีโม่นั่งอยู่ข้างเตียง กุมมือของนางเอาไว้ ตะโกนเรียกด้วยความเป็นกังวล

เดิมทีหลี่ซ่วยหยุ่นคิดอยากจะปิดตาลง แต่เมื่อได้ยินเสียงของหลีโม่ที่คอยเรียก ก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ด้วยท่าทีความรู้สึกที่ว่างเปล่า อีกครู่หนึ่งกล่าวขึ้นว่า “หลีโม่รึ?”

“ท่านแม่ เป็นอะไรกัน?” หลีโม่จับที่ชีพจรของนาง ใจก็เย็นวาบ ชีพจรเต้นลอย หลายต่อหลายครั้ว และก็แข็งทื่อ แสดงให้เห็นเป็นประจักษ์ชัดเลยว่าอาการยังไม่ทุเลาลง

“หลีโม่ เจ้ามาแล้ว!”หลี่ซ่วยหยุ่นค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้นนั่ง ใช้แขนทั้งสองข้างจับเอาไว้ตรงหัวเตียง ค่อย ๆ เผยรอยยิ้มให้หลีโม่ รอยยิ้มนั้นทำให้หลีโม่รู้สึกประหลาดใจอย่างพูดไม่ถูก

“ท่านแม่รู้สึกไม่สบายที่ตรงไหน?”หลีโม่กุมมือของนางเอาไว้ กลางฝ่ามือร้อนผะผ่าว

“แม่ไม่ได้ไม่สบาย ข้าสบายดี แม่กราบทูลฝ่าบาทไปตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้ว ว่าแม่ไม่เป็นอะไร แต่พระองค์ก็ไม่เชื่อ ตั้งใจไปเรียกให้เจ้าเข้าวังมาหาแม่”หลี่ซ่วยหยุ่นพูดขึ้น มุมปากฉีกรอยยิ้มหวานชื่น

ในใจของหลีโม่เย็นวาบขึ้น “ไม่ใช่ฝ่าบาทที่ทรงเรียกให้ลูกเข้าวัง ลูกมาของลูกเอง”

“หลีโม่”หลี่ซ่วยหยุ่นดึงมือของนางเอาไว้ นัยน์ตาเต็มเปลี่ยนไปด้วยความสุขและความแช่มชื่น “แม่มีเรื่องอยากจะพูดกับเจ้า”

“ท่านแม่ ท่านว่ามาเถอะ!”หลีโม่ยิ่งรู้สึกหวั่นเกรงขึ้นเรื่อย ๆ

หลี่ซ่วยหยุ่นจับเข้าที่ผมเผ้า ก็เผยให้เห็นใบหน้าที่งดงาม “เรื่องของเจ้า แม่กราบทูลฝ่าบาทแล้ว ฝ่าบาทรับปากกับแม่ ว่าจะสถาปนาให้หลีโม่เป็นองค์หญิงให้ได้ เจ้าว่าดีไหมล่ะ?”

ในหัวของหลีโม่มีเสียงดังอื้ออึง มองสีหน้าที่ราวกับมีชีวิตชีวาขึ้นของหลี่ซ่วยหยุ่น นางพูดไปแล้ว?นางพูดได้อย่างไร?เป็นไปไม่ได้

“หลีโม่ เจ้าไม่ดีใจหรือ?”หลี่ซ่วยหยุ่นเมื่อเห็นว่านางไม่ยอมพูดอะไร รอยยิ้มที่ใบหน้าก็ค่อย ๆจางลง “นี่เจ้าอดทนให้ลูกสาวของข้าที่ตายไปกลายเป็นผีไร้ศาลไม่มีที่พึ่งได้อย่างไร?นางได้รับสถาปนาเป็นองค์หญิง ต่อให้เป็นช่วงเวลาอินใต้นรก ก็จะมีชีวิตอยู่อย่างสำราญสุขสบาย”

หลีโม่ประคองนางเอาไว้ สบตากับนาง “ท่านแม่ ท่านมองข้า ดูข้า”

หลี่ซ่วยหยุ่นสะบัดมือของนางออก “เจ้าบอกมาแค่ว่า เจ้าไม่ดีใจใช่ไหมที่หลีโม่ได้รับสถานะเป็นองค์หญิง?”

“ดีใจ!”น้ำเสียงของบุตรสาวเยียบเย็นแข็งทื่อประดุจก้อนหิน จับตาจ้องมองไปที่หลี่ซ่วยหยุ่น

นัยน์ตาของนางฉายแววประเภทหนึ่งขึ้น ซึ่งออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

“ดีใจก็ดีแล้ว ๆ ”นางพูดงึมงำ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากอีกระลอก “หลีโม่ ต่อไป แม่มีลูกสาวสองคนแล้ว”

“ท่านยังมีลูกชายอีกคน”หลีโม่กล่าว ใจสั่นระรัวเป็นอย่างยิ่ง เมื่อพูดถึงเสี้ยฮ่าวหราน ก็อยากจะดูซิว่านางจะพูดเรื่องของเสี้ยฮ่าวหรานออกมาหรือไม่

หลี่ซ่วยหยุ่นพยักหน้าหงึกหงัก พูดขึ้นด้วยความยินดีว่า “ใช่ แม่มีลูกชายอีกคน แม่มีลูกสาวสองคน และลูกชายหนึ่งคน แม่กราบทูลกับฝ่าบาทแล้ว ว่าฮ่าวหรานแกล้งตาย ไม่รู้ว่าฝ่าบาททรงดีพระทัยแค่ไหน ฝ่าบาทยังพูดอีกว่าจะอภิเษกกับแม่ หลีโม่ เจ้าว่าแม่จะอภิเษกกับฝ่าบาทดีไหม?”

หลีโม่หยิบห่อเข็มออกมาจากกระเป๋าตรงแขนเสื้อ แล้วจิ้มลงไปตรงบริเวณของจุดฝังเข็มหยาง

ในจังหวะนั้น ก็มีเสียงคนดังขึ้น “พระชายา ทรงอย่าทำเป็นอันขาด”

“ไปเถอะ ๆ ไม่ต้องมาดูแม่แล้ว ใจแม่เบิกบานแล้ว เจ้าไปเถอะ” หลี่ซ่วยหยุ่นค่อย ๆ เอนกายกลับลงไปบนเตียง นางไม่ใช่คนที่แสร้งเล่นละครได้ดีนัก ในตอนที่มีสติรู้ตัวในตอนนั้น ก็รู้สึกถึงความรวดร้าวที่บีบเคล้นไปทั้งใจ นางกลัวว่าตัวเองไม่อาจจะซ่อนน้ำตาเอาไว้ได้

แต่ว่า ด้วยความรวดเร็ว รอยยิ้มของนางก็ปรากฏออกมา ดวงตาเต็มไปด้วยความสุข

เข็มของหลีโม่นั้น เพียงแค่ทำให้นางมีสติได้เพียงชั่วครู่

หลีโม่เพิ่งหมุนกายไป ก็ได้ยินเสียงขันทีตะโกนขึ้นว่า “ฝ่าบาทเสด็จ!”

ฝีเท้าของหลีโม่หยุดลง ถอยหลังลงแล้วก้มศีรษะ

รองเท้าปลายงองุ้มที่ปักไว้ด้วยลวดลายมังกรสีทองปรากฏขึ้นในสายตาของหลีโม่ ชุดสีเหลืออร่ามนั้นโบกไหวขึ้นเบา ๆ จากนั้นก็หยุดลง

“ถวายพระพรฝ่าบาท!”หลีโม่แสดงความเคารพขึ้น

พระสุรเสียงของฝ่าบาทเต็มไปด้วยความสนิทสนมและกำลังวังชา “หลีโม่ เจ้ามาแล้วหรือ?”

หลีโม่ตอบด้วยเสียงเรียบ “เพคะ ฝ่าบาท หม่อมฉันมาเยี่ยมท่านแม่เพคะ”

“เจ้าช่างกตัญญูจริง ๆ”ฝ่าบาทอมยิ้ม เดินผ่านตัวของนางแล้วเดินตรงไปที่ข้างเตียง

หลี่ซ่วยหยุ่นลุกขึ้นนั่ง ใบหน้ายังประดับไว้ด้วยรอยยิ้มหวานอย่างเป็นสุข นัยน์ตามีความยำเกรงเคารพอย่างโหมกระหน่ำ “ฝ่าบาท เสด็จแล้วหรือเพคะ?”

“รู้สึกดีขึ้นไหม?”ฝ่าบาทหย่อนกายนั่งลงที่ข้างเตียง ซึ่งเป็นที่ที่เมื่อครู่หลีโม่นั่งลง

สีหน้าของหลี่ซ่วยหยุ่นดูเขินอาย “เดิมทีหม่อมฉันไม่ได้ไม่สบายที่ตรงไหน ฝ่าบาททรงไม่ยอมเชื่อ”

ฮ่องเต้ยกพระหัตถ์ลูบไล้ที่ใบหน้าของนาง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรัก “คนโง่ หมอหลวงบอกว่าร่างกายของเจ้าไม่แข็งแรง เจ้าต้องพักผ่อนอยู่ในห้อง”

หลีโม่เมื่อเห็นภาพเช่นนี้แล้ว ก็รู้สึกว่าขนลุกวาบไปทั่วทั้งตัว

ฉากนี้มันช่างน่าสะอิดสะเอียนยิ่งนัก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม