พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 739

บทที่ 739 นางจิ้งจอก

ซือถูเย้นนึกสิ่งที่นางเคยพูดเอาไว้ขึ้นมาได้ ถึงแม้จะรู้สึกว่ามันน่าอัศจรรย์เกินความเป็นจริง แต่ในใจของเขาก็เชื่ออยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

หลีโม่จ้องที่ใบหน้าของเขา ถามขึ้นว่า “เมื่อก่อนข้าเคยพูดถึงปัญหานี้กับเจ้า แต่เจ้าเองไม่ได้ซักไซ้ไล่เรียงต่อ ทำไมจู่ ๆ ตอนนี้ถึงอยากรู้?”

ซือถูเย้นพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “บัดนี้มีนิทานเรื่องหนึ่งที่ถูกถ่ายทอดกันไปในหมู่ชาวบ้าน บางทีเจ้าอาจจะไม่เคยได้ยิน”

“เรื่องอะไรหรอ?” หลีโม่นิ่งงัน

ซือถูเย้นกลับมาที่โต๊ะหนังสือ หยิบเอาบัญชีขึ้นมา แล้วส่งให้กับหลีโม่ “นี่เป็นบัญชีที่เจ้าเมืองฉื้อโจวส่งมาให้”

หลีโม่รับเอามาเปิดดูด้วยความสงสัย เมื่ออ่านจบแล้ว สีหน้าก็แปรเปลี่ยนไปอย่างมาก

เจ้าเมืองฉื้อโจวกล่าวว่าที่ ฉื้อโจว มีข่าวซุบซิบนินทาที่เกี่ยวข้องกับอ๋องซื่อเจิ้ง โดยที่ข่าวนินทานี้มีแต่จะเซ็งแซ่ยิ่งขึ้นทุกวัน

พูดกันไปว่าบัดนี้เสี้ยหลีโม่พระชายาในอ๋องซื่อเจิ้งเป็นนางปีศาจ เป็นตัวนำความหายนะมาให้ชาติบ้านเมือง มีพระผู้หลักผู้ใหญ่ยืนกรานว่า ถ้าหากว่าพระชายาไม่สิ้นพระชนม์ แคว้นต้าโจวก็จะได้ย่อยยับภายใต้เงื้อมมือของนาง

ตามเนื้อหาในหนังสือของเจ้าเมืองฉื้อโจวนั้น ต้องการให้ฝ่าบาทตรวจสอบเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เพื่อบรรเทาความกลัวของหมู่ประชา

“เดิมทีไม่อยากให้เจ้ารู้เรื่องนี้ แต่ว่า ข้าต้องคิดหาวิธีรับมือกับข่าวซุบซิบเช่นนี้ ดังนั้น อยากจะถามความให้แน่ชัด”ซือถูเย้นกล่าวขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา

“เมื่อครู่เจ้าถึงได้เห็นบัญชีตรงท่อนนี้หรอ?”หลีโม่ถามขึ้น

“ใช่แล้ว ก่อนที่บัญชีนี้จะถูกทูลเกล้าให้กับฝ่าบาท ข้าก็ยังไม่เคยได้อ่าน”

หลีโม่หัวเราะออกมาด้วยเสียงเยือกเย็น “บัดนี้ข้ามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งแคว้นต้าโจว อีกทั้งกลับมาจากแคว้นเป่ยม่อเพื่อทำภารกิจด้วยความทุ่มเท ตอนนี้ทำเรื่องว่าข้าเป็นนางจิ้งจอก พวกชาวบ้านยิ่งกลัวพวกเรื่องภูตผีปีศาจ จะต้องเห็นข้าเป็นวิญญาณร้ายแน่ ๆ จะพากันยิ่งชิงชังไปกันใหญ่”

“เจ้าไม่ต้องกังวลใจให้มันมากไป สนใจแค่เรื่องที่ว่ากล่าวถึงความเป็นมาของเจ้าให้ข้าฟังอีกรอบ ข้าตั้งใจว่าจะไปหาบรรพบุรุษ ”

“บรรพบุรุษ?”หลีโม่ตกตะลึง

“ใช่แล้ว บรรพบุรุษน่าจะมาจากสถานที่เดียวกันกับเจ้า”

นัยน์ตาของหลีโม่ดำสนิทราวกับหยดน้ำหมึก “เจ้า……แน่ใจ?”

“ไม่แน่ใจ แต่ว่าน่าจะใช่นะ”

“แต่เจ้าเองก็ไม่รู้ว่าบรรพบุรุษไปที่ไหนแล้ว”หลีโม่รู้ว่าครั้งนี้เพื่อดูความเป็นมาของนาง จริง ๆ แล้วก็เพื่อมีท่าทีต่อไอ้เจ็ด

ไอ้เจ็ด บัดนี้จับตามองที่อันดับของอ๋องซื่อเจิ้ง ฝ่าบาทยังไม่ได้ยกเลิก เช่นนั้น ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ต้องบอกว่าเขายังมีอำนาจอันยิ่งใหญ่อยู่ในมือ

เขาเสียสละทุ่มเททำเพื่อชาติบ้านเมืองกลับมาได้แล้ว ฝ่าบาทก็ทรงชื่นชมในตัวเขา พระราชทานสิ่งของมากมายให้กับเขา ได้เห็นถึงท่าทีของฝ่าบาทได้อย่างชัดเจน ความโปรดปรานจากผู้กุมบัญชาสวรรค์ ถ้าหากว่าเรื่องพวกนี้ที่ได้พูดกันปากต่อปากในหมู่ชาวบ้านได้เข้าไปยังเมืองหลวงและในราชสำนัก ฝ่าบาทก็ต้อง “จัดการไปตามกฎหมาย” ซึ่งนั่นมันเป็นสมเหตุสมผลที่สุดแล้ว

“เจ้าเดาว่าใครเป็นคนทำได้ ใช่ไหม?”หลีโม่ถามขึ้น

ซือถูเย้นเอาบัญชีวางไว้ที่ฟากหนึ่ง พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “รู้”

หลีโม่ส่ายหน้า “นอกจากจะไปหาบรรพบุรุษ ไม่มีวิธีอื่นแล้วใช่ไหม?”

ซือถูเย้นพลิกกำไลที่อยู่ในมือ เขาหลุบตาลง แต่ก็ยากนักที่จะปกปิดที่แสงประกายจากนัยน์ตาของเขาได้ “มีวิธีอยู่หรอก”

เขาไม่ได้พูดว่าเป็นวิธีการอย่างไร แต่ว่า หลีโม่รู้ดีว่าวิธีการที่เขาคิดนั้นจะยังไม่ใช่วิธีที่สิ้นไร้ไม้ตอก

พอถึงเวลานั้น ก็ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องความสัมพันธ์ฉันญาติมิตรกันอีกต่อไป

ในใจของหลีโม่ก็มีความรู้สึกทุกข์เศร้าและระอาใจอย่างไม่อาจจะบรรยายได้ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือความโกรธ

เดิมทีนางคิดว่า อย่างน้อย ๆ สามารถอยู่อย่างสงบได้สักเดือนสองเดือน คิดไม่ถึงเลยว่า ฝ่าบาทจะลงมืออย่างรวดเร็วปานนี้ อีกทั้งในการลงมือครั้งนี้ เฉียบคมและใสสะอาด ใครก็คิดไม่ถึงว่าเป็นเขา

อีกทั้ง โหมคนให้พูดเรื่องปีศาจนี้ขึ้นมา เป็นวิธีการที่มีผลเร็วที่สุด เพราะว่าเรื่องนี้สำหรับชาวบ้านทั่วไปนั้น พวกเขาเต็มใจที่จะเชื่อ โดยที่ไม่เห็นเรื่องอื่น ๆ อยู่ในสายตา

“พรุ่งนี้ ข้าจะไปฉื้อโจวสักรอบ” ซือถูเย้นพูดขึ้น

“อืม!”หลีโม่เงยหน้าขึ้น สายตาฉายแววเยียบเย็น “ขอโทษนะ”

“โง่จริง!”ซือถูเย้นยื่นมือมาลูบไล้ที่ใบหน้าของนาง ยิ้มให้อย่างอ่อนโยนว่า “ช่วงนี้ว่าง ก็ยังไม่เป็นอิสระเลยนะ”

หลีโม่ซุกหน้าลงกับอกของเขา รู้สึกเพียงแค่ว่ารวดร้าวไปทั้งใจ จริง ๆ แล้ว นางรู้ดีว่าเขาตั้งหน้าตั้งตารอเวลาเช่นนี้มากแค่ไหน

เพียงแค่ว่า พายุปีศาจร้ายเยี่ยงนี้ จะหยุดพัดลงได้เมื่อไหร่กัน?

นางอ่านในบัญชีของ เจ้าเมืองฉื้อโจว โดยละเอียดอีกสักครู่ แม้กระทั่งเรื่องในนั้นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องในงานราชการของนางก็พูดถึงอย่างละเอียด กล่าวว่านางนิสัยเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ทำร้ายผู้คน หลังจากที่มีวิญญาณนางจิ้งจอกเข้าสิงตอนที่อยู่จวนเฉิงเสี้ยง ก็นำความหายนะมาสู่

และในตอนที่จวนเฉิงเสี้ยงล่มสลายลง ก็อยู่ในช่วงการนำของอ๋องซื่อเจิ้ง ดังนั้น ชาวบ้านต่างก็พากันพูดไปว่าอ๋องซื่อเจิ้งถูกนางจิ้งจอกเป็นผู้ส่งเสริม ทำลายข้าราชการคนสำคัญของแคว้นต้าโจว

ในตอนท้ายของบัญชี ก็พูดยกถึงความสำเร็จของเฉิงเสี้ยงเสี้ยในตอนที่ได้อยู่ในภารกิจ

คนที่ตายไปแล้ว แม้ว่าจะล้มความผิดบาปของเขาลง ก็หาได้สำคัญไม่ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ คนที่ตายไปแล้วผู้นั้นได้กลายเป็นมีดดาบอันแหลมคม

ในใจของหลีโม่มีแต่ความรวดร้าวทุกข์ทรมานอย่างไม่อาจจะพูดออกมาได้

บัดนี้ท่านแม่ยังอยู่ในวังหลวง ตอนนี้ก็ตั้งความหวังให้อ๋องอานชินสามารถคิดหาวิธี ที่จะช่วยให้นางกลับมาได้

พิษท่งหมิงของไอ้เจ็ด ก็ต้องรีบรักษาให้หาย

ตอนนี้ยาก็มีแล้ว ที่ยังขาดก็คือเลือด

ก่อนหน้านี้ซุนฟางเอ้อร์เคยทิ้งเลือดไว้ให้ แต่ก็ใช้ได้แค่ครั้งเดียว หรือจะพูดก็ได้ว่า ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามต้องหาทางปรึกษากับนางให้ได้

เมื่อคิดได้ดังนั้น นางก็รีบไปที่ห้องเก็บน้ำแข็ง หยิบเอาขวดที่ซุนฟางเอ้อร์ทิ้งเอาไว้ให้

นางเปิดฝาออกมา พลันก็ได้กลิ่นที่เหม็นคละคลุ้ง นางตกใจ เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว ก็เห็นว่ามีแมลงไต้ออกมาจากตรงขวด แมลงมีสีแดง มีขนาดตัวเท่ากับไม้จิ้มฟัน มีลักษณะเป็นเส้น ทั้งหมดมีราว ๆ หลายสิบตัว

หลีโม่รู้สึกประหลาดใจ ทำไมเลือดของซุนฟางเอ้อร์ มันถึงเปลี่ยนเป็นแมลงไปได้?

หลีโม่รู้ว่าถ้าตอนนี้เข้าวังเพื่อไปหาซุนฟางเอ้อร์ ก็ไม่แน่ว่าจะได้พบกับนาง แต่ว่า นางจะต้องพบนางให้ได้ ยังไงก็ต้องลองมันดูสักตั้ง

นางให้เย็นเอ๋อร์กับมามาไปเตรียมตัว เพราะนางจะเข้าวังในตอนนี้

เมื่อได้เข้าวังมาแล้ว นางก็มุ่งหน้าไปยังตำหนักซีเวย

ในตอนนี้ฝ่าบาททรงประทับอยู่ในห้องหนังสือ ยังไม่ได้กลับวัง หลีโม่ให้คนไปรายงาน

แต่ว่า คนในวังบอกว่าซุนฟางเอ้อร์ไปห้องหนังสือเพื่อรับใช้ฝ่าบาท ไม่ได้อยู่ในตำหนักซีเวย

หลีโม่จะกล้าไปกันเสียที่ไหน? พูดขึ้นว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะรอนางอยู่ที่นี่แหละ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม