พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 80

บทที่ 80 ขัดแย้งกันขึ้นมาอีกครั้ง

สีหน้าซือถูจิ้งเปลี่ยนขึ้นมาทันที “ อาด๋า โอ้สวรรค์ ”

ซูชิงถีบกระดางดอกไม้ เอ่ยด้วยความโกรธ “ ข้าจะไม่มีทางปล่อยเข้าไปแน่ ”

“ อาด๋าเป็นใคร ” หลีโม่เห็นซือถูจิ้งมีสีหน้าไม่ดี รู้ว่าอาด๋าคนนี้ ไม่ใช่นายทหารที่ธรรมดา ซือถูจิ้งค่อนข้างเสียใจ “ อาด๋าคือพี่ชายของจื่นเฉิง พี่สะใภ้ของอาด๋าตายเมื่อปีก่อน ตอนนี้อาด๋าก็จะตายแล้ว เหลือไว้แค่ลูกชายคนเดียว กลายเป็นลูกกำพร้า ช่างน่าสงสารจริงๆ ”

กำพร้าสองคำนี้ สะเทือนเข้าไปใจในของหลีโม่

นางก็คือเด็กกำพร้า รู้ว่าการที่ไม่มีพ่อแม่มันทุกข์ทรมานแค่ไหน

หลีโม่ถามขึ้น “ พาข้าไปดูอาด๋าหน่อยได้ไหม ”

ซูชิงมองนาง “ มีอะไรให้น่าดู คนใกล้จะตายอยู่แล้ว ”

หลีโม่เอ่ย “ พาข้าไปดูหน่อย ”

ซือถูจิ้งเอ่ย “ พานางไปดูเถอะ อาจจะมีโอกาสรอดก็ได้ ”

ซูชิงเอ่ย “ พวกท่านไปดูกันเองเถอะ ส่วนข้าไม่ไปแล้วกัน ”

พี่น้องพ้องพวกหลายคนต่างดิ้นรนอยู่บนขอบเขตแห่งความเป็นความตาย ในใจซูชิงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก เพราะภารกิจในครั้งนี้ เขาเป็นกำลังหนุนหลัง ไม่ใช่แนวหน้า เขารู้สึกว่าตัวเองทำร้ายพี่น้องพ้องพวก

ซือถูจิ้งพาหลีโม่ไปที่สวนด้านข้าง

อาการของอาด๋าอยู่ในขีดอันตรายมาก ขาทั้งสองถูกฟันจนเละจนไม่กล้าที่จะมอง มีรอยมีดรอยดาบฟัน บาดแผลตามร่างกายก็มีมาก มีทั้งเข้ากระดูก และทั้งยังบาดเจ็บถึงอวัยวะภายในเป็นอย่างมาก

“ ยังไม่ฟื้นขึ้นมาเลย เกรงว่าจะไม่ไหวแล้ว ” หมอที่ดูแลรักษาอาด๋าพูดกับหลีโม่

“ ทำไมถึงได้บาดเจ็บมากขนาดนี้ ” หลีโม่ดูแล้ว ก็รู้สึกตกใจตาค้าง นี่บาดแผลอย่างน้อยประมาณสิบสองกว่ารอย

“ เขากอดขาศัตรูไว้ เพื่อให้ท่านอ๋องถอยทัพไป ศัตรูฟันเขาอย่างไม่ยั้ง ก็ยังคงไม่ปล่อยมือ....” และหมอก็ตาแดงขึ้น “ เป็นพวกองครักษ์ที่ได้สติพูดกัน ”

ทันใดนั้นน้ำตาซือถูจิ้งก็ไหลออกมา นางหันหน้า รีบวิ่งออกไปทันที

หลีโม่หยิบกระเป๋าเข็มออกมา ฝังลงไปที่จุดจงเหรินและจุดไป่ฮุ่ยของเขา อาด๋าก็คอยฟั้นขึ้นมา แม้ว่าดวงตาจะเริ่มลืมกว้างขึ้น แต่จุดฝังเข็มสองจุดนี้ ก็แค่รวบรวมกำลังวังชาทั้งหมดของเขา ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาได้

หลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมา ก็รีบคว้ามือของหลีโม่ไว้ทันที “ ท่านอ๋อง.... ”

เขาพูดไม่ออก สองคำนี้ติดอยู่ที่ริมฝีปาก ไม่สามารถพูดออกเสียงมาได้ หลีโม่อ่านตามปากของเขา

“ เขาจะต้องไม่เป็นไร ” ในใจหลีโม่ทุกข์ทนเป็นอย่างมาก องครักษ์พวกนี้เอาชีวิตเข้าแลกเพื่อช่วยซือถูเย้นออกมา ถ้าหากซือถูเย้นตายไป ก็เท่ากับว่าพวกเขาสละชีวิตไปเสียเปล่า

มือของอาด๋าค่อยๆตกลง บนใบหน้าซีดขาวมีสีหน้าปลอบโยน ริมฝีปากขยับเล็กน้อย สายตาจ้องมองไปสถานที่แห่งหนึ่ง หลังจากนั้น ลมหายใจเฮือกสุดท้ายก็ปล่อยออกมา หนังตาค่อยๆปิดลง และจากไปแบบนี้อย่างสงบ

หลีโม่เดินออกไป ซือถูจิ้งกำลังร้องไห้อยู่ใต้ต้นกุ้ยฮวา พระอาทิยต์ยามเช้าขึ้นมาจากทิศตะวันออก บริเวณบ้านมีสีสันสดใส แต่หลีโม่กลับรู้สึกว่ายรรยากาศกดดันเป็นอย่างมาก เส้นทางข้างหน้ามืดมิดไม่มีที่เปรียบ

หลังจากนั้นไม่นาน นางได้เงยหน้ามองพระอาทิตย์ที่เพิ่งโผล่พ้นขึ้นมา รีบเดินเข้าไป พูดกับซือถูจิ้ง “ องค์หญิงเพคะ หม่อมฉันมีเรื่องหนึ่งต้องการให้ช่วย หลอกล่อไท่เฟยให้ออกไป สิบห้านาทีก็พอ ”

ซือถูจิ้งถามขึ้น “ เจ้าคิดจะทำอะไร ”

หลีโม่ไม่รู้จะอธิบายกับนางอย่างไร ทำเพียงแค่จับมือของนางเอาไว้ แล้วถามขึ้นอย่างจริงจัง “ องค์หญิง เชื่อหม่อมฉันไหม ”

ซือถูจิ้งมองนาง สักพักหนึ่งแล้วค่อยพยักหน้าด้วยความรอบครอบ “ เชื่อ ”

“ เชื่อหม่อม ก็ช่วยหม่อมฉันสักครั้ง เพียงหลอกล่อไท่เฟยออกไปสิบห้านาทีก็พอ ” หลีโม่พูดขอร้อง

อ๋องอ่านชินกับเซียวโธ่เดินเข้าไปควบคุมตัวนักบวช นักบวชกำลังจะตะโกนร้อง แต่กลับถูกเซียวโธ่จี้จุดไว้อย่างรวดเร็ว นักบวชอ้าปากค้าง แต่กลับไม่สามารถตะโกนออกมาได้แม้แต่คำเดียว

หลีโม่นั่งลงที่ข้างเตียง รีบหยิบกระเป๋าเข็มออกมาทันที แกะเปิดเสื้อผ้าของซือถูเย้นออก ตรวจสอบดูบาดแผลเล็กน้อย จากนั้นจึงใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดผงยาแล้วยัดกลับเข้าไปแขนเสื้อ

ท่ามกลางไข้ขึ้นสูง แต่กลับฟื้นฟูสติขึ้นมาเล็กน้อย และลืมตาขึ้นมาเล็กน้อย เขามองเห็นแค่หัวดำๆหัวหนึ่งเคลื่อนไหวไปมาอยู่ที่ตรงหน้าของเขา เขารู้ว่าเป็นใคร ยื่นมือออกไปดึงนาง แต่กลับไม่มีแรงเลยแม้แต่นิดเดียว

หลีโม่รู้สึกถึงการฟื้นขึ้นมาของเขา จึงโน้มเข้าไปพูดที่ข้างหูเขา “ หม่อนฉันอยู่ตรงนี้ ไม่ต้องห่วง หม่อมฉันจะพยายามให้พระองค์มีชีวิตรอดให้ได้ ขิให้เชื่อหม่อมฉัน พระองค์ก็ต้องใช้จิตตานุภาพสู้ต่อไป เข้าใจไหมเพคะ ”

ริมฝีปากซือถูเย้นขยับเล็กน้อย ดวงตาค่อยๆปิดลงอีกครั้ง หลีโม่ไม่รู้ว่าเขาต้องการพูดอะไร และไม่รู้ว่าเขาเชื่อหรือไม่เชื่อตัวเอง แต่ว่า ตอนนี้มีแค่วิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น

นางฝังเข็มลงที่เส้นลมปราณพิเศษ หลังจากที่ผนึกเส้นลมปราณพิเศษแล้ว ยังต้องฝังลองที่จุดผ่านเยื่อหุ้วหัวใจผ่านด้วย วัตถุประสงค์ที่ใหญ่ที่สุดคือการปกป้องชีพจร แบบนี้ต่อให้ต้องเจอกับสถานการณ์อันตราย ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะการตายโดยอัตโนมัติ ถึงตอนนั้น นางก็จะสามารถเปิดเส้นลมปราณพิเศษได้ ให้เลือดค่อยๆไหลเข้าไป รักษาชีวิตไว้

ถ้าหากราบรื่น เขาสามารถต่อเวลาในให้ไขกระดูกในการสร้างเลือดได้

แต่ว่า หลีโม่คิดราบรื่นง่ายเกินไป

กุ้ยไท่เฟยฉลาดมาก นางสามารถมองทะลุแผนการของซือถูจิ้งได้อย่างรวดเร็ว จึงรีบวิ่งกลับมาทันที

เมื่อเห็นหลีโม่อยู่ข้างเตียง นางก็โกรธพล่าน และพูดขึ้นด้วยความโกรธเป็นฝืนเป็นไฟ “ ใครก็ได้ มาเอาตัวหลีโม่ออกไปให้ข้าที ”

นางเดินพรวดเข้ามา ใช้ฝ่ามือตบลงที่ใบหน้าของหลีโม่ เอ่ยขึ้นด้วยความโมโห “ ถ้าหากว่าเขาเป็นอะไร ข้าจะให้เจ้าเส้นสังเวย ”

หลังจากที่ตีหลีโม่เสร็จ ก็คิดจะถอนเข็มออกทั้งหมด ทันทีใดนั้นหลีโม่ ก็พลักนางออก ลงไปล้มลงกับพื้น

มีเวลาเหลือไม่พอแล้ว หลีโม่ไม่แน่ใจว่าได้ปิดผนึงเส้นลมปราณพิเศษไว้หรือยัง แต่ก็ทำได้พียงต้องถอนเข็มขึ้น

ไม่อย่างนั้นถ้าไท่เฟยลุกขึ้นมา จะต้องถอนเข็มออกแน่นอน ถึงตอนนั้นถ้าเข็มปักลึกลงไปอีก จะไม่เป็นผลดี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม